•ตกใจที่ได้ทราบข้อมูลบางอย่างจากข้อเขียนของ ดร.โกร่ง......อ่านในที่ทำงานทุกเช้าจากหนังสือพิมพ์ 4-5 ฉบับ คือ
๑.มติชนรายวัน ประชาชาติธุรกิจ ไทยรัฐ (ข่าวหุ้นธุรกิจ และ Bangkok Post เพื่อติดตามข่าวต่างประเทศ) และเป็นแฟนรายการประจำของ“ชายปลื้ม”
(สื่อ ที่ดร.โกร่ง อ่านประจำ : เจ้าของ และผู้ถือหุ้นเกี่ยวข้องทางตรงและอ้อมกับ “หัวหน้าทักอ้อ และ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่)”
: นี่ ก็เป็น สิทธิเสรีภาพส่วนตัวของอาจารย์โกร่ง
เป็นคนที่ผมเคยคุ้นเคยช่วงหนึ่ง และยังคงเคารพ และนำมา “บทความ” มาลงบ่อยๆ เพื่อให้เห็นความแตกต่าง ของ “สื่อ” ที่มีความคิดและทิศทางที่ต่างกันกับสื่ออื่น
๒.ขณะเดียวกัน “คนอีกส่วนหนึ่ง” เป็นแฟนคลับของ ไทยโพสต์ แนวหน้าฯ
ซึ่งเป็นสื่อที่เห็นต่างไป อาจจะทั้งไม่ชอบ“ฝ่ายนั้น” หรือออกแนวเชียร์ ลุงตู่ฯ
๓. สื่อ ประเภทที่สาม จะเป็นสื่อ “เสนอข่าวสารสาระ “กลางๆ”
มีบทความสาระฯ เช่น สำนักข่าวอิศรา ไทยพับลิก้า ฯลฯ
ผู้ที่อ่านเฉพาะประเภทใด มักจะบอกถึง “ความคิดความชอบ” ของคนคนนั้นได้ส่วนหนึ่ง
• ส่วนตัว “ปู่จิ๊บ” ก็มีความคิดเฉพาะของตน (ตามอุดมคติและประสบการณ์จริงของชีวิต)
โดยสรุป คือ เห็นต่างจาก “ทักทอนและพรรครวมทั้งกลุ่มมวลชนของเขา” เพราะ เห็นว่า “มีบทบาทการกระทำ ที่มีผลเสียและผลร้ายต่อชาติบ้านเมืองประชาชน”
แต่จากมีชีวิตที่มีอุดมคติ(ส่วนตน) และร่วมการต่อสู้ฯเพื่อบ้านเมืองมาหลายเหตุการณ์ จำเป็นต้องมีความรู้ ความเข้าใจ ในสถานการณ์รอบด้าน ทุกฝ่าย(เท่าที่สามารถทำได้) เพราะจะทำให้เราเข้าใจ สภาพความเป็นจริง และประเมินสถานการณ์ได้ถูกต้อง (ทำให้ที่ผ่านมาประเมินสถานการณ์ที่จะเกิดได้ ค่อนข้างถูกต้อง หรือใกล้เคียงฯ) และทำให้เราเคลื่อนไหวได้ถูก เพราะมองทิศทางออก
ในการติดตาม ข่าวสารบ้านเมืองและความคิดการกระทำของส่วนบุคคลฯ จึงต้องตามข่าวของทุกฝ่าย อ่านสื่อทั้งฝ่ายเขา ฝ่ายเรา ฝ่ายเป็นกลาง รวมทั้งข่าวสารสาระ บทความดีๆ มีข้อมูลค่อนข้างครบถ้วน จาก
สื่อต่างๆ
โดยวันหนึ่งๆ จะใช้เวลาอ่านข่าวสาระ จากสื่อต่างๆ รวมทั้งการเขียนออกมา และส่ง ทั้ง เฟซบุ๊คห้องไลน์ (และส่วนตัว) ไม่ต่ำกว่า 5-6 ชั่วโมง ไม่รวมเวลาที่บางวันบางโอกาสฯ ได้นัดคุยกันเป็นกลุ่มย่อย และรับฟังจากผู้ใหญ่ที่มีภูมิฯ และโดยสภาพความเป็นจริงในสังคมที่ไม่เท่าเทียม มีความสับสนซับซ้อน มีความขัดแย้งกันสูงไม่มีใครที่จะบริสุทธิ์ผุดผ่อง ดี 100%หรือ เลว 100%
โดยเฉพาะ ผู้นำฯ ทั้งที่ผ่านมา และในปัจจุบันที่ได้คุ้นเคย และรู้จักฯ ฉะนั้น จึงพยายามดู ทั้งด้านดี และข้ออ่อน ของแต่ละคน
และโดยส่วนตัว ก็พยายามสรุปบทเรียนของชีวิต
จากการได้ร่วมการเคลื่อนในเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์การเมืองไทย ตั้งแต่ ๑๔ ตุลา ๑๖ (ที่เข้าร่วม ตั้งแต่ เริ่มต้น เกิด และจบ เหตุการณ์) จนมาถึงปัจจุบัน จากการได้เห็น “ความรัก อาลัย และความสูญเสีย” ของ คน ๒ ฝ่าย เห็น “คนทั้งสองฝ่าย” (ที่คิดว่าตนถูก อีกฝ่ายผิด) ต่างถูกคดี ถูกยึดทรัพย์ ถูกจำคุกฯ บางคนหนีคดีไปลี้ภัยต่างประเทศบางคนมีอำนาจ ยังคงใช้เวทีต่างประเทศเคลื่อนไหว ต่อรอง(ซึ่งเป็นเรื่องปกติ สำหรับการต่อสู้ ในสังคมที่ยังไม่มีความเป็นธรรม และผู้คนขาดคุณภาพฯ)
• จาก ที่มีความคิด ความรู้สึก ที่ต้อง “ทำและเอาทุกเรื่อง” ที่ไม่ถูกต้อง (ตามความคิดของตน)
-มาในช่วงวัยใกล้ ๗๐ ปี ได้สรุปบทเรียนครั้งใหญ่ (อาจจะเป็นครั้งสุดท้าย)
-และการได้อ่านได้ศึกษา “ชีวิตและธรรม”มากขึ้นและเข้าใจขึ้น
-รวมทั้ง การได้เขียนหนังสือ (ครบรอบ ๗๐ ปี)เขียนบทความประจำฯ
การได้ “มองลึกขึ้น” เห็นวิถีความเป็นไปของ “ตัวเอง และคนรอบตัว” เห็นการจากไป“ของเพื่อนมิตร คนรู้จัก และไม่รู้จัก” ทั้งคนที่แก่กว่าคนรุ่นเดียว และอ่อนกว่า เห็นความช่างพูด ช่างคิดแบบอิสระ บริสุทธิ์ ของ “เด็กรุ่นใหม่ โดยเฉพาะหลานน้ำผึ้ง”
โลกนี้ แผ่นดินไทยที่รักยิ่ง มีคนมากมาย มิใช่มีเพียงเรา
ก็พยายามปรับตัว เว้นห่าง “ทางอารมณ์” ต่อ “คนและความเห็นต่าง” เอาเฉพาะบางเรื่อง ที่มีโอกาส เปลี่ยนแปลงได้จริง หรือ มีความเป็นไปได้ ได้คุยกับ เพื่อนมิตรบางส่วน มีข้อสรุปใกล้กันว่า “ปล่อยเขาไปเถอะ (อย่าไปหวังแก้ความคิดเขา)” เขาแก่เกินแกงไปแล้ว!
จุดที่ยาก มิใช่ “เขา เธอ” ที่คิด หรือกระทำอะไร ที่ถูกต้อง ผิด เหมาะสมหรือไม่เหมาะไม่ควร?
มันอยู่ที่ “หน้าตาและใจ” ของตัวเรา
ต้องแก้ ที่ “ตัวเรา” ที่สำคัญ คือ “ใจของเรา”
มองตัวเอง ยามเปิดตา และหลับตา ก่อนนอน และตื่นนอนทำได้ดีขึ้น แต่ก็ยังไม่หมด ไม่ครบยังมีอารมณ์ในบางครั้งมีสติ นึกได้ ด้วย ปัญญาความจริง : ก็หยุด ได้บ้าง คงทำต่อไปเรื่อยๆ : คงจะทำได้ดีขึ้น มากขึ้น แต่คงไม่หมด เพราะ“เรายังเป็นคน” และ เหลือ “เวลาแห่งชีวิต” อีกไม่นาน
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี