ผมนึกถึงท่านประธานสภาฯคนปัจจุบัน คุณชวน หลีกภัย ถือว่าเป็นตัวอย่างนักการเมืองน้ำดี เป็นที่เคารพของทุกๆ ฝ่าย กล่าวว่าประชาธิปไตยล้มลุกคลุกคลาน เพราะประชาธิปไตยเป็นธุรกิจการเมือง เงินเป็นปัจจัยสำคัญในการเมือง
คุณชวน เป็นนักการเมืองที่มุ่งมั่นในอุดมการณ์ หวังดีต่อส่วนรวมเคยเป็นนายกฯ 2 ครั้ง ยืนหยัดเป็นหลักอย่างมีศักดิ์ศรี ทำคุณประโยชน์ของต่อประเทศทำงานการเมืองบริสุทธิ์ไม่ใช้เงิน เป็นตัวอย่างต่อคนดีๆ ตามเข้าพรรคไม่มีผลประโยชน์ส่วนตนหรือพรรคพวก ช่วยเหลือคนไทยทุกกลุ่ม ไม่ใช่แค่คนในวงการเมือง แต่ท่านไปช่วยการศึกษาและวัฒนธรรมและคนอื่นตลอดมา
ต้องยอมรับว่าประชาธิปไตยวุ่นๆที่ครบ 88 ปีมาถึงวันนี้ ยังมีพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นพรรคเก่าแก่ ไม่มีนายทุนพรรค ยังยึดมั่นในหลักการประชาธิปไตยอย่างเหนียวแน่น พูดในความเป็นกลาง แม้ช่วงนี้อาจจะเสียคะแนนไปบ้าง ด้วยเหตุการณ์การเมืองหลัง คสช.แต่ยังเป็นหลักของประเทศได้ดี ช่วยประเทศผ่านวิกฤติได้หลายครั้ง อยากเห็นพรรคการเมืองมีอุดมการณ์อยู่คู่กับประชาธิปไตยต่อไป
เป็นรัฐบาลในช่วงวิกฤติ เช่น ช่วงนายกฯชวน 2 แก้ปัญหาวิกฤติต้มยำกุ้ง หลังปี’40 นายกฯชวลิตลาออกนายกฯชวนได้ขอยกเลิกการซื้ออาวุธจากอเมริกาและขอคืนเงินค้ำประกัน ประหยัดงบประมาณได้มาก ทำให้ประเทศไทยรอดวิกฤติครั้งนั้นได้และยังจ่ายคืน IMF ได้เกือบทั้งหมด แต่คุณทักษิณคุย ว่าจ่ายเอง ซึ่งไม่จริง
ยุคแฮมเบอร์เกอร์คุณอภิสิทธิ์มีโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยเข้มแข็งมีความโปร่งใสไม่ให้มีคอร์รัปชั่นโดยตรวจสอบอย่างระมัดระวัง ก็เป็นประสบการณ์ที่ช่วยให้ประเทศไทยหลุดพ้นจากวิกฤติครั้งนั้น รัฐบาลลุงตู่ก็น่าจะนำประสบการณ์ดังกล่าวมาศึกษาเรียนรู้ในยุค COVID-19 ปัจจุบัน โดยเฉพาะงบ 400,000 ล้านกระตุ้นเศรษฐกิจ
นโยบายของประชาธิปัตย์ในด้านสังคมและการศึกษา เช่น
- อาหารกลางวันฟรีให้เด็กยากจน
- โครงการให้กู้ยืมเงิน กยศ. (กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา)
มีประโยชน์มาถึงปัจจุบัน
ช่วงหลังผมฟังอดีตนายกฯอภิสิทธิ์ซึ่งเลิกเป็นนักการเมืองแล้ว เล่าประสบการณ์ในการแก้ปัญหา คนไทยส่วนใหญ่ไม่ได้มองลึกๆ ของการเมืองไทย แต่มองการเมืองอย่างผิวเผินคล้ายๆ เล่นลิเก ใครมี สส.มาก ก็ให้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงเกรด A ซึ่งอาจจะทำให้ประเทศล่มจม
สื่อเลือกข้าง เพราะเงินเป็นใหญ่ มีเงินมาก สื่อก็เชียร์ หาสื่อดีน้อย ประชาธิปไตย 88 ปี ในความเห็นผมจะต้องมีที่ยืนของคนดีที่อยากเล่นการเมืองประเทศไทยจึงจะรอด
ผมอยู่ธรรมศาสตร์ ได้เคยเขียนหนังสือพลังคุณธรรม จริยธรรม กับท่าน ว.วชิรเมธี วิเคราะห์จากอธิการบดี 4 ท่านของธรรมศาสตร์ ดังนี้
1 พลตรีพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าวรรณไวทยากร กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์
2 ศาสตราจารย์สัญญา ธรรมศักดิ์
3 ศาสตราจารย์ ดร.ปรีดี พนมยงค์
4 ศาสตราจารย์พันตรี ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์
ตลอด 88 ปี ที่ว่าลุ่มๆ ดอนๆ ยังมีนักการเมืองประชาธิปไตย ชื่อปรีดี พนมยงค์ ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในช่วงแรกเป็นตลาดวิชาให้โอกาสคนไทยทั่วๆ ไปได้เรียนหนังสือทำให้พลเมืองไทยมีความรู้
หลังจากท่านปรีดี พนมยงค์ มีท่านสัญญา ธรรมศักดิ์ และอาจารย์ป๋วย อึ๊งภากรณ์ เป็นอธิการบดี สานต่อ ในยุคอาจารย์ประภาศน์ อวยชัย และอาจารย์คุณหญิงนงเยาว์ ชัยเสรี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และได้มีส่วนผลักดัน ให้ออกกฎหมายพลเมืองและสังคมที่ให้ประโยชน์ต่อแรงงานกว่า 15 ล้านคน คือ กฎหมายประกันสังคม ซึ่งเป็นคุณประโยชน์ต่อประเทศไทยในช่วงที่เป็นประชาธิปไตย 88 ปี
ประชาธิปไตยได้คนเก่ง คนดีจากหลายกลุ่มและหลายวงการ อันเป็นคุณประโยชน์ต่อชาติและระดับนานาชาติ เพราะมีพรรคการเมืองที่มีอุดมการณ์มีคนดีๆสมัครเป็นนักการเมือง สร้างประชาธิปไตยให้แข็งแรงโดยเพราะผ่านการเลือกตั้ง ได้รับความศรัทธาจากประชาชนและนานาชาติ เช่น
- นายชวน หลีกภัย
- หม่อมราชวงศ์จัตุมงคล โสณกุล
- นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค
- นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์
- นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
- นายศุภชัย พานิชภักดิ์
- นายสุรินทร์ พิศสุวรรณ
- นายกรณ์ จาติกวณิช
และอีกหลายๆ ท่านที่ไม่ได้เอ่ยถึง สร้างชื่อเสียงให้มากมาย เพราะมีสถาบันทางการเมืองดีที่มีอุดมการณ์ ดึงคนดีๆ เข้าสู่การเมือง
ประเด็นสุดท้ายผมขอยกคำพูดที่ผมเขียนในเฟซบุ๊คว่า
“ผมไม่พอใจที่วิธีการของพรรคพลังประชารัฐ ปลด 4 กุมาร การเมืองโหดร้าย
ทั้ง 4 คน มีความรู้ดีควรจะมีวิธีที่ดีกว่านี้
เป็นการเอามิตรมาเป็นศัตรู กดดันนายกฯประยุทธ์”
ผมไม่ขัดข้องที่ท่านประวิตรเป็นหัวหน้าพรรค แต่ไม่พอใจในวิธีการโหดร้ายถือว่าเป็นการหักหน้ามากเกินไป (Power Play) ต่อกลุ่ม 4 กุมารและรองนายกฯ สมคิด
ผมเชื่อว่าทีมของคุณสมคิดถึงเวลาก็ออกไปได้นายกฯหาคนดีๆ และเก่งมาทดแทน เพราะนายกฯประยุทธ์ยังมีบารมีที่จะหาคนดีและเก่งเป็นผู้บริหารมืออาชีพ นักวิชาการหรือข้าราชการประจำที่อยากช่วยชาติได้ แต่วิธีการที่ไม่ให้เกียรติกัน ซึ่งตรงข้ามกับวิธีการของ ลินคอล์น ที่เอาศัตรูมาเป็นมิตร แต่วิธีนี้เรียกว่าเปลี่ยนมิตรมาเป็นศัตรู ซึ่งเป็นวิธีการไม่ถูกต้อง เป็นการเมืองน้ำเน่าทำให้คนไทยเบื่อ
ผมไม่รู้ความตื้นลึกหนาบางในพรรค แต่วิธีนี้ทำให้ 4 กุมารเสียหน้า เสียศักดิ์ศรี เพราะทั้ง 4 คน รวมทั้งคุณสมคิดมีความรู้ มีความเสียสละ ทำงานเพื่อชาติ อาจจะไม่ประสบความสำเร็จบางเรื่อง แต่ทุกๆ คนก็ช่วยประเทศได้ระดับหนึ่ง
88 ปี ของประชาธิปัตย์ไทยกับการปลด 4 กุมารนี้ ไม่สง่าเลย ควรใช้วิธีการที่ 4 กุมารลงอย่างไม่เสียหน้า และเอาเลือดใหม่ มีประสบการณ์ สนใจการเมืองและรู้เศรษฐกิจดี ทั้งมหภาค การคลัง มีความสามารถเรื่องการคลังและเศรษฐกิจมหภาค ภาษีอากร เน้นเศรษฐกิจรากหญ้า โปร่งใส ไม่สนใจเฉพาะธุรกิจใหญ่
การกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนได้และเข้าใจแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงจำเป็น โดยเฉพาะให้คนไทยพึ่งตัวเอง ผมเชื่อว่านายกฯตู่ ต้องหาคนที่เหมาะสม ได้
ปีนี้ครบ 88 ปี จึงมีบรรยากาศของพรรคพลังประชารัฐที่รีบเผด็จศึกคู่แข่งเอาคนที่เป็นมิตรที่ร่วมตั้งพรรคกันมาเป็นศัตรู ไม่คิดถึงศักดิ์ศรีและเกียรติของเขาบ้าง ไม่ทราบว่าสร้างศัตรูในพรรคเพื่ออะไร
ผมฝากความหวังที่นายกฯประยุทธ์เคยพูดไว้ว่า ยุคหลัง COVID-19 ต้องผนึกกำลังทุกๆ ฝ่ายมาช่วยประเทศ ท่านประยุทธ์ต้องใช้แนวทางป๋าเปรม ติณสูลานนท์ หรือยุคนายกฯสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ที่ดึงคนดีๆ มีความสามารถที่ไม่ใช่นักการเมืองอาชีพเท่านั้น มารับใช้ชาติ มิฉะนั้นคนไทยส่วนหนึ่งจะมองว่า การเมือง 88 ปี น้ำเน่าเหมือนเดิม
จีระ หงส์ลดารมภ์
dr.chira@hotmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี