8 เดือนกว่าที่ผมเขียนเรื่อง COVID-19 มาตลอด ได้เรียนรู้มากมายเกี่ยวกับโรคนี้เห็นผลที่ตามมาและปัญหาของหลายประเทศในโลก ที่ยังต้องเผชิญกับปัญหานี้ต่อไป เช่น เพื่อนบ้านของเรา อินเดียหรือเมียนมาเจอปัญหา COVID-19 รุนแรงขึ้น
ประเทศไทยยังคุมได้ แต่การ์ดอย่าตก หลายประเทศมีรอบ 2 แล้วคนไทยภูมิใจสามารถผ่านวิกฤติ COVID-19ได้ดี การแพทย์และการเมืองไทยไปกันได้ดี เป็นที่ภูมิใจคนในโลก
มีเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง เช่น พบผู้ป่วย 1 คน ทุกๆ ฝ่ายช่วยกันจัดการอย่างเป็นระบบ แก้ไขปัญหา Trace ติดตามได้ว่าใครเป็นผู้เสี่ยงมากและเสี่ยงน้อย สร้างความมั่นใจว่าถึงจะมีรอบ 2 ประเทศไทยจัดการได้ระวังการลักลอบเข้าเมืองของไทยตามชายแดน
แม้ประสบความสำเร็จเรื่อง COVID-19 ประเทศไทยไม่หลุดพ้นจากวิกฤติปัญหาต่างๆ รุมเร้ารัฐบาลคุณประยุทธ์ตลอด ทั้งๆ ที่สัปดาห์ที่ผ่านมา คุณประยุทธ์มีผลงานเป็นที่ยอมรับอย่างน้อย 2 เรื่อง
- เรื่องข้อสรุปของอาจารย์วิชา มหาคุณ คดีบอส ความรู้สึกของคนไทยพอใจว่า ขบวนการยุติธรรมของเรายังมีความหวังอยู่ ไม่ใช่คุกมีไว้สำหรับคนจน
- การที่รัฐบาลยอมถอยเรื่องเรือดำน้ำไป 1 ปี ทำให้การเมืองลดอุณหภูมิลงไปได้ ทหารเข้าใจวิกฤติทางเศรษฐกิจของประเทศ
แต่นายกฯประยุทธ์ยังต้องพบปัญหาอยู่หลายเรื่อง เช่น
- ไม่ปกป้องคุณปรีดี ดาวฉาย จากแรงกดดันทางการเมือง ต้องลาออกไป ทั้งที่อยู่ได้ไม่ถึงเดือน สร้างภาพลบให้รัฐบาลมาก ควรเปิดอกคุยกับเยาวชน ให้เกียรติกัน นายกฯก็ยังไม่ได้ทำ
การวางแผนการประท้วงใหญ่ที่ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ในวันที่ 19 ก.ย.นี้ จะเป็นจุดที่รัฐบาลต้องพร้อมรับมืออย่างฉลาด ดูเหมือนว่านอกจากพลังเยาวชนและคนหนุ่มสาวบวกกับการเมืองหลายๆ กลุ่มผสมมากดดันรัฐบาล เอาธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เป็นสัญลักษณ์
หลายฝ่ายเป็นห่วงสถานการณ์ อาจสร้างความสูญเสียและกระทบต่อความมั่นคงทางการเมือง
ผมก็ขอให้ทุกๆ ฝ่ายประนีประนอมกันและควรใช้สภาฯในการแก้ปัญหา
การประท้วงนอกสภาฯ อาจจะมีฝ่ายต่างประเทศมาผสมโรงด้วย เช่น โมเดลฮ่องกงและฝ่ายไม่ชอบรัฐบาลมาผสมโรงด้วย ขอให้ฝ่ายความมั่นคงกรุณาเตรียมการอย่างฉลาด ผู้ไม่หวังดีต่อประเทศไทยมีมากข่าวว่าอาจมีการปฏิวัติอีกครั้ง ซึ่งผมไม่เห็นด้วย
ผมเชื่อว่าประเทศไทยมีทางออกทางสันติวิธีขอให้ประชาชนทุกคนที่หวังดีต่อประเทศไทย ช่วยกันเฝ้ามองให้วันที่ 19 กันยายน ผ่านไปโดยสันติวิธี อย่าจาบจ้วงเช่นที่เคยมี ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิตเด็ดขาดหันมาแก้รัฐธรรมนูญในสภาฯต่อไป
ส่วนในระดับต่างประเทศ การเลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกา ในวันที่ 3 พฤศจิกายน จะมีความสำคัญต่อโลกมากเพราะภายใต้การนำของทรัมป์ อเมริกามีประชากรแค่ 4% ของโลก ติดโควิด-19 แล้วกว่า 6 ล้านคน เป็น 25% ของคนติดโรคทั้งโลก
เพราะผู้นำที่ไม่เชื่อในวิทยาศาสตร์ ไม่รับผิดชอบการแก้ปัญหา ยังโจมตีประเทศอื่นๆ เช่น
-โจมตีจีนนำเชื้อไวรัสเข้ามา
-อ้างว่าวัคซีนมาแล้ว ก่อนเลือกตั้งซึ่งทางการแพทย์ยังเห็นต่างกันอยู่
การเลือกตั้งครั้งนี้สำคัญต่อโลกและประเทศไทยอย่างน้อย 2 เรื่อง
-อเมริกาต้องเป็นผู้นำในการประสานงานกับประเทศในโลกและองค์กรระหว่างประเทศในการแก้ปัญหาโควิด-19 ร่วมกันปัจจุบันไม่มีผู้นำการแก้ปัญหาโควิด-19ทั้งโลกจึงไม่สำเร็จ
ผมเขียนถึงทรัมป์บ่อยๆ ไม่ใช่แค่เรื่อง COVID-19 เท่านั้น แต่ในฐานะที่เขาเป็นผู้นำที่สร้างปัญหาให้แก่คนในประเทศเพราะความโกหก ไม่สุภาพ ความไม่พร้อมของตัวเองที่ขึ้นมารับตำแหน่งที่ต้องดูแลปัญหาใหญ่ๆ ของโลกถ้าโลกไม่ร่วมมือกัน จะมีแต่ความขัดแย้ง ไม่ช่วยเหลือกันจะแก้ปัญหาของโลกไม่ได้ นอกจาก COVID-19 แล้วยังมีเรื่องภาวะโลกร้อน (Global warming) ปัญหาเกาหลีเหนือ การขัดแย้งในทะเลจีนใต้
คู่แข่งคือ Biden คะแนนนำอยู่มากและในรัฐสำคัญเพราะเลือกตั้งเมื่อปี 2016 ทรัมป์เป็นรองฮิลลารี่ แต่กลับพลิกชนะได้ เพราะการเลือกตั้งในอเมริกาไม่ได้อยู่ที่คะแนนนิยมรวม แต่อยู่ที่คณะเลือกตั้งหรือที่เรียกว่า Electoral College คือนับคะแนนรวมตามรัฐต่างๆ
คราวที่แล้วคะแนนทรัมป์ทั้งประเทศแพ้ 3 ล้าน แต่คะแนนคณะเลือกตั้งในรัฐที่สำคัญ เช่น วิสคอนซิล ฟลอริดา อริโซนา เพนซิลวาเนีย โอโฮโอ ทรัมป์พลิกมาชนะตามรัฐต่างๆชนะ 70,000 คะแนน ได้เป็นประธานาธิบดี เพราะรัฐเหล่านี้มีคนผิวขาวตกงานไม่มีการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย ทรัมป์ชี้ให้เห็นถึงการเสียเปรียบของคนอเมริกันจากการเปิดเสรีของโลกาภิวัตน์ทำให้คนอเมริกันตกงาน เขาเอาแต่ฐานเสียงชาตินิยมและการเลือกตั้งครั้งที่แล้วมีการแทรกแซงจากประเทศที่ต้องการทรัมป์เป็นประธานาธิบดีเพราะจัดการได้ง่าย เช่น รัสเซีย เป็นต้นครั้งนี้มีข่าวว่ารัสเซียก็จะเข้าแทรกแซงอีก
คู่แข่งของทรัมป์คือ Biden อายุเกือบ 78 ปี เคยเป็นวุฒิสมาชิกที่หนุ่มที่สุด ผมเคยเขียนเชียร์ Pete Buttigieg คนหนุ่มไฟแรงอายุ 37 ปี แต่ไม่ผ่านการคัดเลือกตั้งรอบแรก
การเลือกตั้งครั้งนี้ตรงข้ามกับกระแสคนหนุ่มสาว เยาวชนของประเทศไทย แต่ยังมีคุณค่า ไม่เหมือนวัยรุ่นในไทย มองผู้ใหญ่เป็นคนแก่ ไร้ประสิทธิภาพ ล้าสมัย ซึ่งไม่จริง ไม่ว่าแก่หรือหนุ่มมีประโยชน์ทั้งนั้น ขอให้เน้นแนวคิดของผมนำความหลากหลายมาเป็นพลัง Value Diversity ทำงานร่วมกัน
การเลือกตั้งในวันที่ 3 พ.ย. ของสหรัฐจึงเป็นสิ่งที่คนไทยติดตามใกล้ชิดถ้า Biden ชนะ อเมริกาก็จะกลับมาเป็นผู้นำของโลก ยกย่องให้เกียรติทุกประเทศ ทำงานร่วมกับประเทศต่างๆ เสมอภาคโดยให้เกียรติและศักดิ์ศรี ไม่ใช่ทรัมป์ที่ขาดประสบการณ์ทางการเมืองและการต่างประเทศ คิดว่าอเมริกาใหญ่คับฟ้า ไปประชุมต่างประเทศขาดมารยาททางการทูต ดูถูกองค์กรระหว่างประเทศ เช่น
- UN
- NATO
- WTO
- WHO
ว่า ล้าสมัยไม่มีประโยชน์ ทรัมป์ตำหนิทุกองค์กรนานาชาติเพราะมองว่าอเมริกาเสียเงินเพื่อเป็นผู้นำโลกแต่ข้อเท็จจริงคือ ในอดีตอเมริกาได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้นำและปกป้องสันติภาพและเสรีภาพ ประเทศที่สามารถนำโลกบริหารความร่วมมือจากโลกได้ ซึ่งวันที่ 3 พ.ย.นี้จะตัดสินใจว่าจะอยู่กับทรัมป์อีก 4 ปี ให้โลกวุ่นวายต่อหรือเลือก Biden เพื่อโลกมี
Decency ความสุภาพและเหมาะสม
Respect การเคารพ
Dignity มีศักดิ์ศรี
จีระ หงส์ลดารมภ์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี