วันศุกร์ ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
ณ แผ่นดินตะวันออกไกล ในภูมิภาคซึ่งเป็นทำเลสุดเยี่ยมยอด
ที่สุดของพิภพ ถือเป็นชัยภูมิที่ใครครอบครองจะได้เปรียบทั้งทางด้านเศรษฐกิจ ด้านการเมืองและด้านการทหาร
ปรากฏว่า “ประเทศสารขัณฑ์” ได้ครอบครองแผ่นดินดังกล่าวมายาวนาน โดยมีระบบกษัตริย์ปกครองแผ่นดิน
ครั้นถึงยุคฝรั่งอั้งม้อต่างแข่งขันเป็นผู้นำลัทธิไล่ล่าเมืองขึ้น เกือบทุกประเทศทั่วโลกต่างตกเป็นอาณานิคมของฝรั่งตาน้ำข้าวอย่างน่าเศร้าใจ ยกเว้น “สารขัณฑ์” เท่านั้นที่รอดจากการเป็นเหยื่อฝรั่งได้อย่างอัศจรรย์
แต่ถึงยุคฝรั่งอั้งม้อ “ทำการส่งออกลัทธิประชาธิปไตย” ปรากฏว่า ประเทศสารขัณฑ์ก็ถึงยุคต้องเปลี่ยนแปลงไปตามกระแสโลก โดยมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองตั้งแต่ปี พ.ศ.2475 เป็นต้นมา
“ลัทธิประชาธิปไตย” นั้น “หัวใจแท้” ของลัทธินี้ก็คือ “ตัวแทนในการใช้อำนาจ” จะต้องเป็น “ผู้ที่มาจากประชาชนมอบหมาย โดยเป็นคนของประชาชนทั้งประเทศ และบริหารบ้านเมืองจะต้องทำเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่” ซึ่งคงจะระบุกันชัดๆ ไม่ได้ว่า “มีประเทศใดบ้างได้ยึดหัวใจแท้ของประชาธิปไตยดังกล่าว” อย่างไม่ใช่แบบศรีธนญชัย
สำหรับประเทศสารขัณฑ์ 88 ปีที่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ประชาชนกลับได้เห็นแต่ “ผู้บูชาลัทธิศรีธนญชัยสวมเสื้อคลุมประชาธิปไตย” ทำการ “ไล่ล่าชามข้าว” อย่างหน้าด้านใจดำ ใช้วิชามารเต็มตาชั่งกันทุกกลุ่ม
“กลุ่มนักไล่ล่าชามข้าวของสารขัณฑ์ ประกอบไปด้วยกลุ่มขุนนางศักดินา กลุ่มนายพลขุนศึก กลุ่มการเมืองทุนสามานย์ กลุ่มนักเลือกตั้งเลือกข้างเปลี่ยนสี และกลุ่มนักการเมืองมนุษย์กายกรรมห้อยโหนแอบหลังประชาชนกลุ่มพลังต่างๆ”
นักแย่งชามข้าวทั้ง 5 กลุ่ม ต่างมีกลยุทธ์ในการไล่ล่าชามข้าวระดับฝีมือเทวดา สามารถนำ “หัวใจประชาธิปไตย” ข้อหนึ่งข้อใดมาตบแต่งให้ประชาชนสนับสนุนและเป็นเหยื่อ
สงสารประชาชนชาวสารขัณฑ์ที่ยอมเป็นเหยื่อให้5 กลุ่มไล่ล่าชามข้าว “เหยียบไหล่” ขึ้นไปคว้าชามข้าว
กมลศักดิ์ ตั้งธรรมนิยม

รวบพี่น้องร้านนวด สั่งเด็ก 15 ค้ากาม รับแขกโหดวันละ 6-8 ราย แลกเงิน 300-500 บาท
กัณวีร์ จี้ต่อมสำนึกรัฐบาลช่วยเหยื่อสแกม มินละปาน กว่า 300 คน
ในหลวง พระราชินี พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ ธรรมนัส นำนักวิ่งมาราธอนชาวเคนยา เหรียญทองโอลิมปิก และคณะเฝ้าฯ
ศาลอาญารับอุทธรณ์ คดี ม.112 ของ ทักษิณ สั่งจำเลยทำอุทธรณ์แก้ภายใน 15 วัน
กษัตริย์สีหมุนี ยกย่อง2พ่อลูกตระกูลฮุนปกป้องชาติ ชื่นชมคนกัมพูชาสามัคคี

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี