ถืออยู่ในมือท่านฉบับนี้คือ หนังสือพิมพ์แนวหน้า ทุกบรรทัดตรงไป ตรงมา...nn ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันพุธที่ผ่านมา มีวาระที่เกี่ยวข้องกับ ข้อตกลงความเข้าใจและความคืบหน้าเพื่อหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจในภาคพื้นแปซิฟิก (Comprehensive and Progressive Agreement of Trans-Pacific Partnership : CPTPP) ที่ยังมีข้อถกเถียงถึงผลดีผลเสียที่ประเทศไทยจะได้รับ...
nn โดยถือเป็นประเด็นร้อนในวงกว้าง เพราะผู้คัดค้านส่วนใหญ่มองว่า ถ้าหากรัฐบาลทำการลงนามในข้อตกลง CPTPP แล้ว จะทำให้เกษตรกรทั่วประเทศไม่สามารถเก็บเมล็ดพันธุ์พืชไว้เพาะปลูกได้ และจะต้องซื้อผ่านบริษัทด้านอุตสาหกรรมเกษตรเท่านั้น ซึ่งถือเป็นการซ้ำเติมเกษตรกรในภาวะเศรษฐกิจ และราคาพืชผลที่ตกต่ำ...
nn นอกจากนี้ยังเป็นการทำให้ภาระค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพของประเทศเพิ่มขึ้นจาก ราคายาสูงขึ้น ประเทศไทยพึ่งพิงยานำเข้าเพิ่มขึ้น ...
nn ซึ่ง ดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกฯ และรมว.ต่างประเทศ ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ (กนศ.) ชี้แจงกรณีที่มีการบิดเบือนว่าไทยลงนามเห็นชอบการเข้าร่วม CPTPP แล้ว ว่า ขอยืนยันไม่เป็นความจริง ซึ่งข้อเท็จจริงขณะนี้นายกรัฐมนตรีให้นโยบายว่า ต้องพิจารณาการเข้าร่วมเป็น CPTPP อย่างรอบคอบเป็นพิเศษ...
nn และยังได้ระบุต่อไปว่า โดยระหว่างนี้ จะพิจารณาประเด็นการเจรจา เงื่อนไขและปัญหาที่อาจทำให้ไทยเสียเปรียบ ในการเข้าเป็นสมาชิก CPTPP ซึ่งบางเรื่องที่ยังไม่ชัดเจน ก็สามารถจัดทำเป็นข้อสงวน นอกจากนี้ ยังมีเรื่องการปรับแก้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อลดผลกระทบให้ได้มากที่สุด ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นเมื่อเข้าร่วมเป็นสมาชิก...
nn ส่วน รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.ไม่ได้มีการเห็นชอบให้ไทยไปขอเจรจาเข้าร่วมความตกลง CPTPP แต่อย่างใด ทั้งนี้มีเพียงการอนุมัติให้ขยายระยะเวลาเพิ่มเติมอีก 50 วัน ไปจนถึงวันที่ 24 มิถุนายน เพื่อให้ กนศ.หารือกับภาคส่วนต่างๆ ให้ครอบคลุม ครบถ้วนและรอบคอบมากที่สุด ในการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีที่มอบหมายให้ กนศ. จัดทำกรอบการทำงานเพื่อติดตามแผนการดำเนินการ เพื่อปรับตัวของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องตามข้อสังเกตของ กรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎรฯ...
nn “มือปราบ” เห็นว่า การที่ประเทศไทยจะลงนามในสนธิสัญญาใดๆ ก็ตาม นอกจากจะต้องพิจารณาถึงข้อดีข้อเสียผลประโยชน์และผลกระทบอย่างรอบด้านแล้ว ก็จะต้องมีการดำเนินการนำหนังสือสัญญาให้ทางรัฐสภาพิจารณาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 178 ที่วางหลักเอาไว้ เพราะถึงอย่างไรก็ตาม ผู้ที่จะต้องปฏิบัติตามความตกลงไม่ใช่เพียงแค่รัฐบาลเท่านั้น แต่เป็นประชาชนคนไทยทั้งประเทศที่จะต้องทำตามในเงื่อนไขของข้อตกลงฯ นั้นด้วย...
nn ในการประชุมครม.คราวนั้น ที่ประชุมยังเห็นชอบแบบจัดหนักจัดเต็มเพื่อช่วยเหลือประชาชนท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แบบจัดหนักจัดเต็ม และทุ่มหมดหน้าตัก...
nn โดยบิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุว่าในอีกมิติหนึ่งของการบริหารจัดการสถานการณ์โควิด-19 ที่ต้องทำควบคู่กันไป นั่นคือมิติด้านเศรษฐกิจ ซึ่งผมให้ความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นประเด็นที่มีผลกระทบอย่างรุนแรงกับพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ ซึ่งการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในระลอกนี้ ทำให้จำเป็นต้องออกมาตรการปิดสถานที่ต่างๆ ซึ่งเกิดผลกระทบกับพี่น้องประชาชนจำนวนมากอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้..
nn ดังนั้น ผมจึงได้มีคำสั่งให้กระทรวงการคลัง และสภาพัฒน์ ได้ไปพิจารณาออกมาตรการช่วยเหลือเยียวยาพี่น้องประชาชนเพิ่มเติมโดยเร่งด่วน...
nn และยังระบุด้วยว่า “ผมในฐานะนายกรัฐมนตรีและผู้อำนวยการศบค. จะไม่มีวันท้อถอยหรือท้อแท้ ไม่ว่าจะต้องเผชิญกับปัญหาใดๆ และจะไม่หยุดในการคิดและทำเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนทุกคนให้ปลอดภัย และให้ประเทศไทยที่รักของเราทุกคน ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงแข็งแรง...
nn ครับการช่วยเหลือในเบื้องต้น มีหลายอย่างทั้งลดค่าน้ำค่าไฟ แต่ที่โดนใจคือ โครงการ “เราชนะ” โครงการ “ม33 เรารักกัน” โดยรัฐบาลจะเติมเงินให้อีกหัวละ 2 พันบาท ให้ใช้จ่ายสิ้นสุดในเดือนมิถุนายนนี้นอกจากนี้ ยังมีคนละครึ่งเฟส 3 เติมไปอีกรายละ 3 พันบาท โครงการสวัสดิการแห่งรัฐอีกจำนวนหนึ่ง ฯลฯ เพื่อเป็นการฟื้นฟูและกระตุ้นกำลังซื้อของประชาชน...
nn ส่วนผู้ประกอบการรอแป๊บนะครับ อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง จัดให้เพิ่มเติมแน่นอน...nn สวัสดีครับ
มือปราบ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี