แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา...nn ความสุขความเจริญอันแท้จริงนั้น หมายถึงความสุขความเจริญที่บุคคลแสวงหามาได้ด้วยความเป็นธรรมทั้งในเจตนาและการกระทำ ไม่ใช่ได้มาด้วยความบังเอิญ หรือด้วยการแก่งแย่งเบียดบังมาจากผู้อื่น ความเจริญที่แท้นี้มีลักษณะเป็นการสร้างสรรค์ เพราะอำนวยประโยชน์ถึงผู้อื่นและส่วนรวมด้วย ตรงกันข้ามกับความเจริญอย่างเท็จเทียม ที่เกิดขึ้นมาด้วยความประพฤติไม่เป็นธรรมของบุคคล ซึ่งมีลักษณะเป็นการทำลายล้าง เพราะให้โทษบ่อนเบียนทำลายผู้อื่นและส่วนรวม การบ่อนเบียนทำลายนั้น ที่สุดก็จะกลับมาทำลายตน ด้วยเหตุที่เมื่อส่วนรวมถูกทำลายเสียแล้ว ตนเองก็จะยืนตัวอยู่ไม่ได้ จะต้องล่มจมลงไปเหมือนกัน...(ความตอนหนึ่งจากพระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วันที่ 10 กรกฎาคม 2518)...
nn นักการเมืองเมื่อได้ลิ้มรสอำนาจการเมืองแล้ว ทุกรายจะติดอกติดใจจนไม่สามารถหายใจได้โดยปราศจากอำนาจรัฐ ดังนั้น จึงต้องทำทุกหนทาง ไม่ว่าถูกหรือผิด เพื่อให้สามารถยื้ออำนาจรัฐไว้ในกำมือให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้...
nn ล่าสุดที่เห็นข่าวสูตรคำนวณ สส. party list โดยใช้ 500 หาร ก็เป็นกลอุบายหนึ่งของการยื้ออำนาจรัฐ ซึ่ง ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีต้องการใช้สูตร 500 หาร แต่พรรคฝ่ายค้านที่นำโดยพรรคเพื่อไทยต้องการใช้สูตร 100 หาร ถามว่าการใช้สูตรทั้งสองจะส่งผลอะไรตามมา ตอบแบบง่ายที่สุดคือ หากหารด้วย 500 ก็หมายความว่า สส. บัญชีรายชื่อ (party list)คิดจากคะแนนแค่ 71,123 คะแนนเท่านั้น แต่หากใช้ 100 หารก็หมายความว่า สส. บัญชีรายชื่อต้องได้คะแนนสูงมากถึง 355,615 คะแนน...
nn เมื่อมาดูความเห็นของแต่ละคนและแต่ละพรรคฯ พบว่า ประยุทธ์ ในฐานะนายกรัฐมนตรีเห็นด้วยกับการหารด้วย 500 ส่วนเสี่ยหนู-อนุทิน ชาญวีรกูล จากภูมิใจไทยก็บอกว่าเห็นด้วยกับการหารด้วย 500 ด้านพรรคประชาธิปัตย์นั้น ตอนแรกเลขาพรรคฯ เฉลิมชัย ศรีอ่อน เห็นด้วยกับการหารด้วย 500 แต่เกิดความเห็นแตกต่างกันมากภายในพรรค สุดท้ายก็อาจจะต้องให้ free vote ส่วนบิ๊กป้อม-ประวิตร วงษ์สุวรรณที่เคยสนับสนุนการหารด้วย 100 ก็เปลี่ยนท่าทีโดยบอกว่า เอาแบบไหนก็ได้ เอาไง เอากัน จะเห็นได้ว่าบิ๊กป้อมยังคงพลิ้วตลอด เพราะพลิ้วแล้วยังสามารถอยู่ในอำนาจได้ต่อไป และคงอยู่ต่อไปเรื่อยๆ ตราบจนถึงวันที่หมดแรงหายใจ...
nn เมืองไทยมีเรื่องอัศจรรย์ใจให้พบให้เห็นเป็นประจำ ล่าสุดมีเรื่องประหลาดเกิดขึ้นอีก แต่เข้าใจว่าคงจะประหลาดได้ไม่นาน เพราะสุดท้ายก็จะเป็นไฟไหม้ฟาง เรื่องประหลาดที่ว่านั้นก็คือเรื่อง traffy fondue ช่องทางร้องทุกข์นี้ทำโดย NECTEC (ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ)...nn ต้องบอกว่ามีช่องทางนี้มานานแล้ว แต่เมื่อชัชชาติสิทธิพันธ์ุ ขึ้นมาเป็นผู้ว่าฯกรุงเทพ ก็นำเอามาใช้เป็นช่องทางร้องทุกข์ของชาวกรุงเทพฯแต่ก็กลายเป็นข่าวว่าเมื่อร้องทุกข์ผ่าน traffy fondue แล้วได้รับการแก้ไขปัญหารวดเร็วมาก แบบร้องปุ๊บ แก้ปัญหาปั๊บ ก็เลยมีคำถามว่า แล้วที่ผ่านๆ มานั้น คนกรุงเทพฯจำนวนมากมายพากันร้องเรียนเพื่อให้ผู้บริหารกรุงเทพฯแก้ปัญหาต่างๆ นานามาโดยตลอด แต่ก็ได้รับการตอบสนองบ้าง และไม่ได้รับการตอบสนองบ้าง แต่น่าอัศจรรย์ใจตรงที่ว่าเมื่อร้องเรียนผ่าน traffy fondue แล้วผู้ว่าฯ กรุงเทพคนใหม่รีบแก้ปัญหาทันที แถมบางครั้งยังคุยโวว่าแก้เสร็จเรียบร้อยภายในพริบตา โอย! แบบนี้ไม่บอกว่าอัศจรรย์แล้วจะให้บอกว่าอะไรมิทราบ แล้วก็ต้องถามอีกว่าแก้ปัญหาได้จริงหรือ แล้วขอถามต่ออีกด้วยว่า แล้วเหตุใดสมัยก่อนเวลาที่ผู้คนร้องเรียนปัญหาผ่านช่องทางอื่นๆ เช่น จดหมาย รวมตัวประท้วง หรือส่งเรื่องให้นักข่าวนำเสนอข่าว ทำไมกรุงเทพมหานครไม่เร่งแก้ปัญหา แต่ทำไมร้องเรียนผ่านอิเล็กทรอนิกส์จึงรีบแก้ปัญหา เรื่องนี้น่าค้นหาว่าเป็นข่าวโคมลอย หรือข่าวจริง เพราะปัญหาที่ร้องเรียนก็ปัญหาเดิมๆ หน่วยงานที่แก้ไขปัญหาก็หน่วยงานเดิมๆ เพียงแต่เปลี่ยนผู้ว่าฯกรุงเทพเท่านั้น หากเรื่องนี้เป็นจริงก็แสดงว่าที่ผ่านมานั้นหน่วยงานที่มีหน้าที่แก้ปัญหาสังคมไม่สนใจแก้ปัญหาให้ประชาชน...
nn การควบรวมกิจการด้านโทรคมนาคมในเมืองไทยยังคงเป็นประเด็นที่สาธารณชนตั้งคำถามเหมือนเดิมว่า เมื่อเอกชนควบรวมกิจการกันแล้ว สาธารณชนจะได้ประโยชน์ใดจากการควบรวม บริการที่ให้กับสาธารณะจะดีขึ้นไหมค่าบริการจะถูกลงหรือเปล่า หรือว่านายทุนจะกินรวบได้ผลประโยชน์มากขึ้น เรื่องเหล่านี้ยังไม่มีคำตอบชัดเจนจากฝ่ายที่เกี่ยวข้อง มีแค่เพียงข้ออ้างว่ารวมกันเพื่อให้เกิดความแข็งแกร่งทางธุรกิจ แต่ไม่มีใครยืนยันได้ว่าประชาชนผู้ใช้บริการจะได้ผลดีอย่างไรตามมา ในขณะที่ ทรู พยายามควบรวมกับ ดีแทค ก็พบว่า AIS ก็พยายามควบรวมกับ 3BB มีคำถามจากคนที่รู้ทันเกมการควบรวมกิจการว่า คนไทยจะทนต่อการถูกกลุ่มทุนผูกขาดอีกนานแค่ไหน หรือว่าคนไทยเกิดมาเพื่อตกอยู่ใต้ทุนผูกขาด เรื่องนี้เป็นประเด็นสำคัญของสาธารณะ แต่ทว่าคนจำนวนน้อยมากที่ให้ความสนใจและติดตามการควบรวมกิจการโทรคมนาคม คำถามตามมาคือ กสทช. (คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ) เคยมีจิตสำนึกปกป้องผลประโยชน์สาธารณะหรือไม่ ทำไมปล่อยให้นายทุนทำอะไรตามใจได้เสมอ แม้กระทั่งเรื่อง call center หลอกลวงที่ระบาดเต็มบ้านเต็มเมือง กสทช. ก็ไม่มีปัญญาแก้ปัญหา แต่ปล่อยให้ประชาชนเผชิญปัญหาทุกวัน...
nn เมืองไทยยังคงเป็นจุดหมายที่สำคัญของนักท่องเที่ยวต่างชาติเสมอ เมื่อรัฐบาลไทยประกาศผ่อนคลายเงื่อนไขและกฎระเบียบการเดินทางเข้าประเทศมากขึ้น ก็พบว่ามีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางหลั่งไหลเข้าไทยมากขึ้นเป็นลำดับ ล่าสุด หลักประกาศยกเลิก Thailand Pass แล้ว พบว่าแต่ละวันมีนักท่องเที่ยวเข้าไทยกว่า 4 หมื่นคนต่อวัน โดยช่องทางที่นักท่องเที่ยวใช้เดินทางเข้าไทยมากที่สุดในอันดับต้นๆ ก็ยังเป็นท่าอากาศยาน เช่น สุวรรณภูมิ ภูเก็ต และดอนเมือง...
nn เมื่อเมืองไทยผ่อนคลายเงื่อนไขการเดินทางเข้าประเทศมากขึ้น ก็ทำให้สายการบินต่างชาติเปิดให้บริการบินเข้าไทยมากขึ้น และหนึ่งในสายการบินต่างชาติที่จะบินเข้าไทย คือ Greater Bay Airlines (GBA) ของฮ่องกงที่จะเริ่มให้บริการวันที่ 23 กรกฎาคมนี้ โดยมีคำยืนยันว่าทุกเที่ยวบินที่บินเข้าไทยจะมีนักท่องเที่ยวจีน และฮ่องกงเข้ามาเต็มลำของเครื่องบินแบบ Boeing 737 (เครื่องบินแบบมีทางเดินในเครื่องเพียง 1 ช่องทาง) บรรทุกผู้โดยสารได้ประมาณ 180 คน นี่คือเครื่องยืนยันว่าแม้ผู้โดยสารจีนและฮ่องกงจะต้องถูกกักตัวเมื่อเดินทางกลับจากไทย แต่เขาก็ยังยืนยันว่าต้องมาเที่ยวเมืองไทยให้ได้ เพราะเมืองไทยน่าเที่ยวมากที่สุดในสายตาของคนรักเมืองไทย...nn
ธรรมกร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี