“บุคคลแนวหน้า ใน หนังสือพิมพ์แนวหน้า www.naewna.com สื่ออุดมการณ์ มั่นคง ตรงไป ตรงมา” ฉบับนี้ “ไม้หน้าสาม ย่อโลกทัศน์ที่กว้างให้แคบ ขยายโลกทัศน์ที่แคบให้กว้าง ทำความจริงให้ปรากฏ ให้ทันเล่ห์กลคนเสียชาติเกิด นักการเมืองชังชาติ, สัมภเวสี อย่างเท่าเทียม”...

nn ควันหลง จากความสำเร็จในการเป็นเจ้าภาพจัด “การประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก 2022 หรือ APEC Summit 2022” เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จะบอกว่าเป็นความสำเร็จของ “ลุงตู่–พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี – รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และคณะรัฐมนตรี” ก็ไม่ถูกนัก เพราะมีหลายหน่วยงานทั้งภาคราชการและภาคเอกชนเข้ามาสมทบ รวมทั้ง “ทีมไทยแลนด์” ที่แสดงตนในฐานะเจ้าบ้านที่น่ารักมีรอยยิ้มเต็มบ้านเต็มเมือง อาจจะมี “กลุ่มเสียชาติเกิด” ถูกสนตะพายลากออกมาตามท้องถนนบ้างก็ตามที แต่ต้องบอกว่าเป็นความสำเร็จของ “ราชอาณาจักรไทย”โดยแท้...

nn เสียดายที่สังคมไทยไม่ได้เห็นความงดงามตระการตาฝีมือ “ออแกไนซ์”ที่ไม่ต้องเสียเงินงบประมาณจ้างแค่ให้โจทก์และแนวคิดใน “ทำเนียบรัฐบาลและที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์”ก็ได้งานคหกรรมที่แสดงในงานเอเปก 2022 วิจิตรตระการตามากจากฝีมือบุคลากรและนักศึกษา “โชติเวช - คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ (โชติเวช) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร”... ตำนานของคหกรรมศาสตร์ ที่มีประวัติยาวนานกว่า 84 ปี ตั้งอยู่ในที่ดินที่ “คุณตาต่วน โชติเวช” หมอแผนโบราณ ที่บริจาคที่ดินบริเวณวัดเทวราชกุญชรวรวิหารและเรือนไม้สัก เพื่อสร้างโรงเรียน “การช่างสตรีโชติเวช” ทั้งศิลปะประดิษฐ์(หัตถศิลป์) อาหารโภชนาการ ที่ทั้งหลายทั้งปวงก็คือ “ซูเปอร์ซอฟต์ พาวเวอร์”ที่เป็นประโยชน์กับ “ราชอาณาจักรไทย” ในระยะยาวข้างหน้า...

nn การเมืองไทยนับจากนี้ร้อนแรงสวนอุณหภูมิบ้านเมืองทีเดียว “ลุงตู่ – พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” ยิ้มแก้มแทบปริแตกสำลักกับความสำเร็จที่ได้จากที่ประชุมเอเปก โดยไม่ต้องเห่าหอนกระโชกคล้ายเสียง “สุนัขฉี่รดสังกะสี” แบบเดียวกับที่ “ส่ำสัตว์ลิ่วล้อสัมภเวสี” กระโจนออกหน้าจอสื่อปีศาจคุยโขมงเรื่อง “ถอดความสำเร็จการประชุมเอเปกในยุค ทักษิณชินวัตร ในความทรงจำของคนไทย” กลบเกลื่อนอาการอกแตกของ “สัมภเวสีแดนไกล” โดยเน้น “สารัตถะ” ที่ไม่กล่าวถึงองค์ประกอบโดยรวมที่ยุคสมัยนั้นไม่มี “ผลกระทบต่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)” ... ไม่มีผลกระทบต่อสงครามการค้า,สงครามแย่งชิงดินแดน “รัสเซีย–ยูเครน”...เรื่องแซะช่วงชิงความได้เปรียบโอ่ผลงานที่จับต้องได้ด้วยเรื่องราว “วงจรอุบาทว์” เห็นชาติบ้านเมืองเป็นศัตรู ราว “สุนัขเยี่ยวรดสังกะสี” ก็กลุ่มคนสันดานเดียวกันกลุ่มนี้แหละ “นายว่าขี้ข้าพลอย”...

nn วิเคราะห์กันไปเรื่อยนึกเอาว่าคนตระกูลอื่น “บรรพบุรุษบุพการี”ไม่สั่งสอนเหมือนตระกูลตน เลยสำรอกป้ายสีคนอื่น... คนอื่นที่ว่า “ไม้หน้าสาม” ไม่เคยสัมผัส แต่กับ “พี่ตุ้ย–พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” นักการเมืองน้ำดีมีหลักการคนนี้ไม่จำเป็นต้องใช้เงินฟาด “กบาล” กวาดต้อนนักการเมืองต้อนเข้าพรรค อย่างพรรคการเมืองอื่นในอดีต...กระแสข่าวค่อนข้างแรง “คลื่นใต้น้ำ ในพรรคพลังประชารัฐ” ค่อนข้างแรงหลัง “ลูกชาวนาพ่อค้าแป้ง” บ่ายหน้าพาเหล่า “แอนิมอลฟาร์ม” กลับเข้าสู่คอกเดิม...

nn งานนี้ถือว่า“ลุงป้อม–พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ” ประมุขพรรคพลังประชารัฐ เดินหมากกลผิด เพราะเท่ากับชี้นำให้ลูกพรรคพบช่องออกจาก “พรรคพลังประชารัฐ” ไปซบ “พรรครวมไทยสร้างชาติ” ตาม “พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” โดยที่พี่ตุ้ยไม่ต้องเสียน้ำลายเชิญ ด้วยตรรกะง่ายๆ รับไม่ได้กับการกลับมาของ “ลูกชาวนาพ่อค้าแป้ง – ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า” และคณะอย่างไรก็มองหน้าลุงป้อมโดยไม่กระดากใจได้เช่นเดิม ...

nn ใครก็ตามที่มั่นใจว่าเลือกตั้งครั้งนี้จะเกิด “ปรากฏการณ์–แลนด์สไลด์” เปิดโอกาส “พรรคเพื่อไทย” เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแน่นอน ให้ฉุกคิดถึง “ฟุตบอลโลก 2022”ที่ประเทศกาตาร์เป็นอุทาหรณ์ “แชมป์โคปาอเมริกาของสหพันธุ์ฟตบอลอเมริกาใต้” ทีมล่าสุดและแชมป์ฟุตบอลโลกสองสมัยอย่าง “อาร์เจนตินา” ที่มี “ลิโอเนล เมสซี่” ซูเปอร์สตาร์โลกเป็นตัวชูโรง เป็นเต็งสองที่มีโอกาสจะคว้าถ้วยแชมป์โลกไปครองเป็นสมัยที่สามรองจากมหาอำนาจลูกหนังโลก “บราซิล” ตกรถลากตายพ่ายพลิกล็อกช็อกโลกต่อ “ซาอุดีอาระเบีย” เสียอย่างนั้นใครจะคิดยอดทีมระดับนั้นจะพ่ายพลิกล็อกเช่นนั้นได้ เช่นเดียวกับ “เยอรมนี” อีกหนึ่งทีมขวัญใจแฟนบอลชาวไทย ที่คว้า “แชมป์ฟุตบอลโลก 4 สมัย แชมป์ยุโรป 3 สมัย ที่คลาคล่ำไปด้วยอภิขุนพลลูกหนัง จะโดน “บูชิโด” ญี่ปุ่นกะซวกไส้ทะลักดับคาสนามไปเมื่อค่ำวันพุธที่ผ่านมาอย่างเหลือเชื่อ อะไรที่คิดว่าชัวร์ก็ยังมีวันพลาด และการเลือกตั้งในประเทศไทยจะเกิดพลิกล็อกวินาศสันตะโรไม่ได้เชียวหรือ...

nn ทิ้งท้าย “ไม้หน้าสาม”ไม่คิดจะ "ฟื้นฝอยหาตะเข็บ” แต่จากวันนั้มาจนถึงวันนี้ “มนุษย์ untouchable - ผู้ว่าฯชัชชาติ สิทธิพันธุ์”ก็ยังไม่เคยออกมาขอโทษสังคมไทยต่อกรณีเหตุอัปยศ“ม็อบต้านเอเปก 2022” ที่เคลื่อนพลย้ายจาก “ลานคนเมือง”หน้าศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร จนปะทะเดือดกับเจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่ด้วยวิริยะอุตสาหะอดทนอดกลั้นอย่างมาก รวมถึงกรณีม็อบบังอาจเอาโบราณสถานอันศักดิ์สิทธิ์ “เสาชิงช้า” มาเป็นอุปกรณ์สัญลักษณ์สื่อแนวจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูง... ขอย้ำเตือนอีกครั้งการชุมนุมจัดกิจกรรมครั้งนี้มีต้นทุน แล้วใครเล่า!?!?!ใครคือนักลงทุน ใช่นักการเมืองชังชาตินักเลือกตั้งเสียชาติเกิดหรือไม่??? ถึงมีกลุ่มการเมืองบางกลุ่มออกมาปกป้องกลุ่มผู้ชุมนุมที่กระทำความผิดสร้างความเสียหายต่อ “ราชอาณาจักรไทย” เบื้องหน้าเบื้องหลังครั้งนี้ต้องมีผู้ไขปริศนาให้ทีมไทยแลนด์ได้รู้เช่นเห็นชาติไปประกอบการพิจารณาตัดสินว่าควรหรือไม่ที่จะมอบอำนาจอธิปไตยครั้งใหม่ให้คนเหล่านี้...“มนุษย์ untouchable - ผู้ว่าฯชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ก็เช่นกันพึงระลึกนึกถึง “ธรรมเทศนา” ที่ว่า “นตฺถิ อการิยํปาปํ มุสาวาทิสฺส ชนฺตุโน ... คนมักพูดมุสา จะไม่พึงทำชั่วอื่นไม่มี” ให้จงมั่น หรือจะระลึกถึงคำสอนแต่โบราณกาลว่า “ไม่มีสัจจะในหมู่โจร” ก็น่าจะดี จะได้ไม่ทะนงตนจนหลงทิศหลงทาง เยี่ยงนี้...

nn เมื่อ“หัวงับหาง” จับตาคู่กัดใหม่ “แดง-ส้ม” หลังวลีเด็ด “ขี้ข้าทักษิณ”ร่วงจากปากพิธีกรชื่อดัง “คำผกา -ลักขณา ปันวิชัย” จนคนกันเองอย่าง “สัมภเวสีโทนี่”กรีดร้องโหยหวน “ผมไม่มีใครเป็นขี้ข้าครับ มีแต่เสื้อแดงที่มีพระคุณที่ไม่เคยลืมผมแม้ออกจากแผ่นดินเกิดมาถึง 16 ปีแล้วครับ” ก็งงอยู่คำว่า “ขี้ข้า” เหมาะกับใครที่สุดหนา...nn

ไม้หน้าสาม