“บุคคลแนวหน้า ใน หนังสือพิมพ์แนวหน้า, แนวหน้าออนไลน์/- www.naewna.comสื่ออุดมการณ์ มั่นคง ตรงไปตรงมา” ฉบับนี้ “ไม้หน้าสาม ย่อโลกทัศน์ที่กว้างให้แคบขยายโลกทัศน์ที่แคบให้กว้าง ทำความจริงให้ปรากฏ ให้สังคมไทยรู้เท่าทันเล่ห์ทันเหลี่ยม, ส่ำสัตว์ติ่งสัมภเวสี, นักการเมืองเสียชาติเกิด, นักเลือกตั้งชังชาติ, สลิ่มติ่งแดงด้อมส้ม, อุปกรณ์ใช้สนตะพายเทียมคันไถทำการเกษตร อย่างเท่าเทียม”...

nn เริ่มต้นความก่อนถึงวันรัฐธรรมนูญในสัปดาห์หน้า ขออัญเชิญกระแสพระราชดำรัสของ “พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร” ที่พระราชทานแก่สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ 99 คนที่เข้าเฝ้าฯ ณ ศาลาดุสิดาลัย พระตำหนักสวนจิตรลดา พระราชวังดุสิต ก่อนจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน พ.ศ.2540 อันเป็นวิชาการด้านรัฐศาสตร์ โดยสรุปความว่า “...ในโลกนี้มีรัฐธรรมนูญหลากหลาย ความจริงรัฐธรรมนูญ เป็นกฎหมายที่เป็นแม่บท หรือเป็นกฎหมายที่วางระเบียบกว้างๆ สำหรับที่จะปกครองประเทศ...

nn นอกจากนี้มีสิ่งที่สำคัญก็คือ จะต้องให้สามารถที่จะร่างกฎหมายที่สอดคล้อง กับรัฐธรรมนูญนี้โดยง่าย และไม่มีปัญหากำกวม ฉะนั้น การสร้างการร่างรัฐธรรมนูญนี้ จึงต้องมีความสำคัญ คือให้แจ่มแจ้ง การร่างรัฐธรรมนูญนี้ มีความลำบากอยู่อย่างหนึ่ง คือ ข้าพเจ้าเข้าใจว่าเป็น นับว่าเป็นอย่างเดียว คือ จะต้องสรรคำสรรหาคำที่เหมาะที่ไม่กำกวม และลงในกฎหมายที่ไม่เยิ่นเย้อ...

nn ฉะนั้น ที่พูดวันนี้เป็นการพูดแบบคร่าวๆ และโดยรวม แต่เข้าใจว่าท่านทั้งหลาย จะมีความสามารถที่จะร่างรัฐธรรมนูญที่จะใช้งานได้ ในการนี้ก็ขอให้ท่านทุกคนมีความสามารถ และมีความตั้งอกตั้งใจที่แน่วแน่ และสามารถที่จะปรองดองกัน หาคำที่จะมาร่างรัฐธรรมนูญนี้ด้วยดี ทั้งนี้ ก็ขอให้ท่านพร้อมด้วย กำลังกายกำลังปัญญา ที่จะปฏิบัติในงานนี้เป็นผลสำเร็จ ขอให้ทุกๆ ท่านจงประสบแต่ความเจริญ และความสำเร็จในการนี้...” ที่สุดก็กำเนิด “รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2540”ที่อ้างกันว่าเป็น “รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน” โดยรัฐบาลนายกรัฐมนตรีบรรหาร ศิลปอาชา”...

nn โลกใบนี้มีอะไรที่น่าแปลกที่น่าตกใจและน่าสนใจคละเคล้ากันไป “เกาหลีใต้” คือช็อกแรกของโลก เมื่อ “ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ /-ยุน ซอก-ยอล” ประกาศกฎอัยการศึกเมื่อวันที่ 3 ธ.ค. ที่ผ่านมา โดยอ้างภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ และ “กองกำลังต่อต้านรัฐที่สนับสนุนเกาหลีเหนือ ซึ่งกำลังปล้นชิงเสรีภาพและความสุขประชาชนและเพื่อปกป้องระเบียบรัฐธรรมนูญที่เสรี” แค่ไม่นานก็ถูกประชาชนออกมาต่อต้าน, เรียกร้องให้ยกเลิกกฎอัยการศึกดังกล่าว...ตามด้วยมติเอกฉันท์ 190 เสียงของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเกาหลีใต้ ให้ยกเลิกประกาศกฎอัยการศึก ซึ่งประธานาธิบดี ยุน ซอก-ยอล ก็ยกเลิกประกาศกฎอัยการศึก ในขณะที่ “พรรคประชาธิปไตย” รวมตัวกันที่จัตุรัสกวางฮวามุน เรียกร้องให้“ยุน ซอก-ยอล” ลาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี ซึ่งก็เป็นผลสำเร็จในเวลาต่อมา...

nn ไม่นานสถานการณ์เดียวกันนี้ก็เกิดขึ้นในโลกตะวันตกกับประเทศมหาอำนาจเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของสหภาพยุโรป โดยสมาชิกรัฐสภาฝรั่งเศสลงมติ ”ไม่ไว้วางใจรัฐบาล”ส่งผลถึงความสามารถในการออกกฎหมายและควบคุมการขาดดุลงบประมาณจำนวนมหาศาลเขาเรียกกันว่า “สังคมประชาธิปไตยไทย” แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงจับตา 12 ธันวาคมนี้ ความชัดเจนว่าสังคมประชาธิปไตยไทยดาษดื่นด้วยส่ำสัตว์เดรัจฉาน หากสภาผู้แทนราษฎร มีมติให้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าถูกกฎหมาย...

nn สังคมประชาธิปไตยไทยที่มีแต่ลมปากสำรอกสำรากอาจมออกมาให้โสโครกสังคม “นังลูกสาว” ที่มีพลังแฝงซุกใต้ปีกจองหองลืมพฤติกรรมเมื่อต้นปีที่เดินหาเสียงเลือกตั้งปั้นวาทกรรมเพียงหวังชัยชนะเหนือ “ผู้เฒ่าลุงตู่ /- พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” องคมนตรี เมื่อครั้งเสนอตัวรับใช้ประชาชน แค่เจ้าของประเทศเจ้าของเสียงสวรรค์เขาตั้งคำถาม นางกลับสวมบทบาทนางริษยาในละครการเมือง อวดเดชเย่อหยิ่ง จองหอง ดูถูกดูแคลนเจ้าของประเทศเหล่านั้นเกรี้ยวกราด ตอบโต้ด้วยอาการชิงชัง คล้ายสภาวะ ไร้สามัญสำนึก ขาดวุฒิภาวะ ถามช้างตอบม้าก็กระทำได้ เพราะสังคมประชาธิปไตยไทยเป็นเยี่ยงนี้จึงไม่เคยเกิดภาพอย่างรัฐสภาเกาหลีใต้รัฐสภาฝรั่งเศสเลยสักครั้ง มีแต่ระบบอุปถัมภ์ที่สามารถสืบทอดอำนาจตำแหน่งทางพันธุกรรมได้ จึงไม่แปลกใจที่ผู้คนทั้งหลายจะมีคำถามมากมายที่จะถาม “พระเจ้า” หลังจากพระเจ้าประทาน “นักการเมือง” มาบริหารประเทศเล็กๆ ลักษณะเหมือนด้ามขวานมีครบทุกอย่าง ทำเลดีเยี่ยม ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว แหล่งท่องเที่ยวพรีเมียมสวยงาม มีความอุดมสมบูรณ์...nn โชคดีที่ “รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย” ไม่มี เหมือน “จักรวรรดินิยมอเมริกา”ก็คือ “การลงนามในคำสั่งอภัยโทษโดยผู้นำฝ่ายบริหาร (ประธานาธิบดี)” ที่ไม่เรียกว่าฝ่ายบริหารก้าวก่ายกระบวนการยุติธรรม เพราะมีบทบัญญัติกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่แค่ “โจ ไบเดน” ลงนามอภัยโทษให้ลูกชายก่อนหน้านี้ “บิล คลินตัน” ก็เคยกระทำการอภัยโทษให้แก่พี่ชายมาเช่นกัน นี่ถ้าการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ “พรรคเพื่อไทย” ก็ดี “พรรคประชาชน” ก็ดีเขียนบทบัญญัตินี้ลงในรัฐธรรมนูญที่มีการยกร่างกันใหม่ ด้วยความแค้นกระบวนการยุติธรรมเป็นทุนเดิม...

nn “สังคมไทย” คงได้เห็น “ปูจ๊าดง่าว /- ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” กลับประเทศมาเล่นน้ำสงกรานต์ตามเสียงสำรอกอาจมของสัมภเวสีในสภาพประชาชนคนไทยผู้บริสุทธิ์ไม่ต้องคดีความใดๆ เช่นเดียวกับประดาผู้ต้องหาคดีม.112 และเจ้าของเงินค่าตั๋วปารีสที่จะกลับราชอาณาจักรไทยโดยไม่ต้องพิจารณคดีความใดๆ เลยเช่นกันเยี่ยงนั้นหรือเปล่า หรือจะเพิ่มบทบัญญัติให้ชัดเจนว่า “ห้ามบุคคลที่มีลักษณะหน้าเหลี่ยมตระบัดสัตย์เจ้าเล่ห์เสือกทุกเรื่อง เป็นนักโทษเด็ดขาดชายคดีทุจริตคอร์รัปชั่น...เล่นการเมือง ไม่ว่าจะในตำแหน่งใดก็ตาม”... ก็น่าจะดีว่าไหม

nn วันนี้สังคมไทยกำลังถกเถียงกันถึงแนวคิดของ “พิชัย ชุณหวชิร” ขุนคลังที่มัก มีความคิดคล้าย+ตามหลังเสียงสำรอกสำรากอาจม ของสัมภเวสีหน้าเหลี่ยม, นักโทษเด็ดขาดชาย คดีทุจริตโกงบ้านกินเมืองฉ้อฉลเงินแผ่นดิน ล่าสุดโยนหินถามทาง เสนอแนวคิด ปรับโครงสร้างภาษีเพื่อสนับสนุนการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาล โดยใช้สูตรปุ๋ยเคมีสูตร 15:15:15 เพื่อช่วยให้ดินอุดมสมบูรณ์มาใช้เก็บภาษีเงินได้นิติบุคคล-บุคคลธรรมดา รวมถึงภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือแวต (VAT) ให้อยู่ที่ 15% ว่า เข้าใจว่ารัฐบาลต้องการจะหารายได้ภาษีให้เพิ่มขึ้นโดยการขึ้น VAT ส่วนหนึ่งเพื่อเอาไปชดเชยรายได้ภาษีที่ลดลงจากการลดภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสรุปเข้าใจง่ายก็คือ สร้างความเหลื่อมล้ำ ผลักภาระให้ประชาชน เพิ่มภาระค่าครองชีพ-ฉุดเศรษฐกิจ...การ “ลดอัตราภาษีแบบ Flat Rate เหลือ 15% สำหรับทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล” เป็นนโยบายที่ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำทางรายได้ Flat Rate อาจส่งผลให้ประชาชนกลุ่มรายได้ต่ำต้องรับภาระภาษีในสัดส่วนที่มากกว่าเมื่อเทียบกับรายได้ ขณะที่กลุ่มรายได้สูงได้รับประโยชน์มากกว่า ซึ่งจะส่งผลให้การบริโภคในประเทศชะลอตัวและกระทบการเติบโตทางเศรษฐกิจ จริงแล้วนโยบายนี้คอการเมืองคงเคยได้ยิน “พ่อจุ้นจ้าน เสือกทุกเรื่อง” สำรอกสำรากอาจมนี้บนเวทีแสดงปาฐกถา เรื่อง “ไทยแลนด์ วิชชั่น 2024” เนื่องในวันครบรอบวันเกิด “สื่อมวลชนเครือเดอะเนชั่น” ก่อนที่จะขยายความต่อเนื่องนี้ในเวทีของ Forb CEO ทว่ายังไม่มีรายละเอียดอะไร กระทั่ง “ขุนคลังแสนรู้” ผู้ถูกฝึกให้หมอบคลานยกสองขา แลกขนมเป็นรางวัล ตามด้วยเบอร์หนึ่งด้านการคลังของประเทศ “ลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง” ออกมารับลูกตามลักษณะคุ้นเคยใน “ระบอบทักษิณ” ปลัดคลังก็มารับลูกแล้วก็ตามด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ราวกับมีการวางเป้าหมายว่าจะเอา 15% แล้วที่เหลือเนี่ยค่อยไปคิดว่าจะทำให้เป็น 15% ได้อย่างไร” ไม่เหมือนการครอบงำ บงการ บัญชาการเลยกระนั้นหรือ... เพราะวงการศึกษาไทยเข้มข้น ไร้ข้อเท็จจริงเรื่องข้อสอบรั่ว โกงการสอบ เข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศ สังคมไทยจึงได้นางลูกสาวนักโทษที่ฉลาดปราดเปรื่องเลอเลิศอย่าง “ออเฟียส, มาดามแพ /- แพทองธาร ชินวัตรดีเอ็นเอนักโทษเด็ดขาดชายคดีทุจริตคอร์รัปชั่นโกงบ้านกินเมืองฉ้อฉลเงินแผ่นดิน, นักการเมืองฝึกงานนายกรัฐมนตรีสืบสันดาน”ไม่มีสมองจะบริหารประเทศชาติบ้านเมืองอย่างที่ขันอาสาก็ควรยอมรับความจริง เลิกพยายามแสดงละครลาออกให้บุคลากรที่มีความรู้ความสามารถความพร้อมในการแก้ไขปัญหา หรือสามารถกระทำได้อย่างที่ “นายพลผู้เฒ่า, ลุงตู่ /- พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” เคยบริหารประเทศไว้เมื่อสองสามปีก่อน แต่มีเส้นผมมาบดบังยอดเขาพระสุเมรุ ทำให้คูหาเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ประชาชนเลือกกากบาทกับอ้อยตาลเสียมากกว่า...

nn ทิ้งท้ายฉบับนี้ “โธมัส เจฟเฟอสัน ประธานาธิบดีคนที่ 3 ของจักรวรรดินิยมอินทรีย์/-สหรัฐอเมริกา กล่าวว่า...เมื่อความอยุติธรรมกลายเป็นกฎหมาย การต่อต้านก็กลายเป็นหน้าที่ของประชาชน...“เมื่อผู้ปกครองปล้นชาติปล้นแผ่นดิน การสามัคคีกันโค่นล้มก็กลายเป็นหน้าที่...สำนึกรักบ้านเกิด”สมควรแก่เวลาที่ต้องหยิบรองเท้าผ้าใบก้าวตาม “ผู้เฒ่าลิ้ม /- สนธิ ลิ้มทองกุล” ลงถนนต่อต้าน “รัฐบาลขายชาติ”...nn