แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา...nn การพัฒนาประเทศจำเป็นต้องทำตามลำดับขั้น ต้องสร้างพื้นฐานคือ ความพอมีพอกิน พอใช้ ของประชาชนส่วนใหญ่เป็นเบื้องต้นก่อน โดยใช้วิธีการและใช้อุปกรณ์ที่ประหยัด แต่ถูกต้องตามหลักวิชา เมื่อได้พื้นฐานมั่นคงพร้อมพอควรและปฏิบัติได้แล้ว จึงค่อยสร้างเสริมความเจริญและฐานะเศรษฐกิจชั้นที่สูงขึ้นโดยลำดับต่อไป... (ความตอนหนึ่งจากพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยขอนแก่น 20 ธันวาคม 2516)...
nn ชัดเจนแจ่มแจ้งแล้วว่าพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง สส. ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ โดยตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 7 ต่อ 2 เสียง และขั้นตอนต่อจากนี้คือประธานรัฐสภา ชวน หลีกภัย จะส่งร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ให้รัฐบาล โดยรัฐบาลมีเวลาอีก 5 วัน เพื่อรอดูว่าจะมีผู้ยื่นคัดค้านที่ศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ หากไม่มีการคัดค้านก็จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย คอการเมืองวิเคราะห์ว่าพระราชบัญญัติดังกล่าวจะมีผลบังคับประมาณช่วงเดือนธันวาคมหรือมกราคม แล้วหลังจากนั้นก็ให้จับตาดูว่าอาจจะมีการประกาศยุบสภา...
nn สิ่งที่ต้องตามดูต่อไปก็คือพรรคการเมืองเล็กๆ จำพวกพรรคที่เคยได้ สส. 1-2 คน หรือไม่เกิน 3 คน น่าจะสูญพันธุ์ไปโดยปริยาย แล้วก็น่าจะมีการยุบพรรคเล็กไปรวมกับพรรคใหญ่ หรืออาจจะรวมตัวกันเอง แล้วเมื่อการเลือกตั้ง สส. มาถึง ก็หมายความว่า พรรคการเมืองใหญ่ของไทยเช่น พรรคเพื่อไทย น่าจะกวาดเก้าอี้ สส. ได้เป็นอันดับหนึ่ง ซึ่งอาจจะมากถึง 200 คนส่วนพรรคการเมืองอันดับสอง และสาม ก็อาจจะได้ สส. น้อยกว่าพรรคเพื่อไทยอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งอาจจะได้เพียงหลัก 50-60 คนเท่านั้น ก็ขอให้จับตาดูก็แล้วกันว่าพรรคประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย พลังประชารัฐ รวมไทยสร้างชาติ ชาติไทยพัฒนา ชาติพัฒนากล้า และพรรคเกิดใหม่สารพัดพรรคที่มักใช้ชื่อพรรคทำนองสร้างไทย รวมไทย รักไทย และอีกสารพัดชื่อที่สุดจะสรรหามาตั้งชื่อจนคนทั่วไปไม่สามารถจดจำชื่อพรรคเกิดใหม่ได้ แม้กระทั่งนักการเมืองด้วยกันเองก็ยังไม่สามารถจดจำชื่อพรรคเกิดใหม่ได้ เพราะพูดชื่อพรรคใหม่ผิดตลอดเวลา ต้องตามดูว่าพรรคเหล่านี้จะได้สส. สักกี่คน ซึ่งไม่มีใครเชื่อว่าจะได้ สส. เกินพรรคละ 100 คนอย่างเด็ดขาด...
nn แต่อาวุธสำคัญที่จะช่วยให้บิ๊กตู่-ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้ที่ยังไม่เปิดเผยชัดๆ ว่าจะเข้าร่วมเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติหรือไม่ จะสามารถเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปได้ก็คือ จำนวน 250 เสียงของ สว. เพราะฉะนั้นก็จึงไม่ต้องสงสัยว่านายกรัฐมนตรีคนต่อไปจะชื่อประยุทธ์หรือเปล่า เพราะหากไม่ใช่ชื่อประยุทธ์ ก็อย่าหวังว่า สว. ทั้ง 250 เสียงจะเทคะแนนให้...
nn สิ่งที่ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิดนับจากวันนี้เป็นต้นไปคือ จะมีนักการเมืองจำพวกเขี้ยวลากดินเดินพาเหรดเข้าพรรคเพื่อไทยอย่างมากมาย และพรรคเพื่อไทยก็คงมีสิทธิ์เลือกว่าจะรับใครเข้าพรรคตามความพอใจ เนื่องจากเป็นพรรคใหญ่ที่เนื้อหอมมาก เพราะการหาร 100 ย่อมหมายความว่าพรรคใหญ่ได้เปรียบอย่างถล่มถลาย แล้วเรื่องที่หลายคนวิเคราะห์หรือเดาว่า พรรคของบิ๊กป้อม คือพรรคพลังประชารัฐอาจจะไปจับมือกับพรรคเพื่อไทยของทักษิณ ชินวัตร ก็เป็นเรื่องที่น่าติดตามดู แต่ก็อย่าหวังว่าพรรคทักษิณจะอ้าแขนรับพรรคบิ๊กป้อมง่ายๆ หากพรรคบิ๊กป้อมได้ สส. แค่เพียงเล็กน้อยไม่เกิน 50 ที่หากเป็นเช่นนั้นจริงๆ พรรคบิ๊กป้อมก็น่าจะต้องหาทางรวมตัวกับพรรคที่ได้ สส. ประมาณ 30-40 ที่ เป็นการด่วน เพื่อให้สามารถฟอร์มตัวตั้งรัฐบาลให้ได้เร็วที่สุด ...
nn แต่อย่าลืมว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยังถูกนักการเมืองฝ่ายค้านมองว่าเป็นเครื่องมือสำคัญของรัฐบาลประยุทธ์ ดังนั้นสิ่งที่ต้องจับตาดู กกต. ก็คือจะออกฤทธิ์เดชในรูปแบบใด จะมีการประกาศแบ่งเขตเลือกตั้งอย่างไร และจะมีการประกาศยุบพรรคการเมืองบางพรรคหรือไม่ สิ่งเหล่านี้ล้วนน่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง เพราะต้องไม่ลืมว่าในขณะที่อำนาจรัฐยังอยู่ในมือของนักการเมืองฝ่ายใด อำนาจรัฐก็สามารถจะถูกใช้เพื่อแทรกแซงองค์กรต่างๆ นานาบนแผ่นดินไทยได้ แม้องค์กรเหล่านั้นจะใช้ชื่อสุดแสนไพเราะว่าองค์กรอิสระ หรือหน่วยงานอิสระ เพราะคำว่าอิสระนั้นเป็นนามธรรม ซึ่งไม่เคยมีอยู่จริงในระบบที่อำนาจการเมืองเข้าไปแทรกแซงหน่วยงานต่างๆ ได้ตลอดเวลา ไม่ต้องดูอะไรมาก ดูจากหัวขบวนของหน่วยงานที่อ้างว่าเป็นองค์กรอิสระก็ได้ หากมาจากแรงหนุนส่ง หรือแรงถีบจากคนมีอำนาจรัฐแล้ว ก็ไม่มีใครเชื่อถือว่าเป็นอิสระเป็นอันขาด...
nn ส่วนบิ๊กป้อม-ประวิตร วงษ์สุวรรณ กับบิ๊กตู่-ประยุทธ์ จันทร์โอชา แตกกันจริงหรือไม่ หรือเป็นเพียงการสร้างภาพว่าแตกกัน เรื่องนี้หากมองตามภาพการเมืองก็น่าจะเรียกว่าแตกกันจริง แต่บางคนก็ยังมองว่า พี่น้อง 2 ป.ไม่แตกกันหรอก เพราะการแตกกันรังแต่จะนำมาซึ่งความพ่ายแพ้ให้กับทั้งสอง แต่ก็ว่าไม่ได้นะขอรับ เพราะอำนาจรัฐสูงสุดในฐานะนายกรัฐมนตรีมีเพียงตำแหน่งเดียว บิ๊กตู่ก็คงเสพติดรสชาติของการเป็นนายกรัฐมนตรีไปเสียแล้ว ส่วนบิ๊กป้อมก็น่าจะไม่อยากพลาดโอกาสการได้นั่งเก้าอี้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอย่างจริงๆ จังๆ หลังจากได้รักษาการตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาระยะเวลาหนึ่ง ดังนั้นเมื่อตัวจริงก็ไม่อยากเสียเก้าอี้นายกฯ ส่วนตัวสำรองที่เคยรักษาการตำแหน่งนายกฯ ก็ติดใจในอำนาจ ก็ทำให้ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกัน ต่อให้เป็นพี่เป็นน้องก็เถอะ เพราะอำนาจของนายกฯ มันแบ่งกันไม่ได้ ยกเว้นจะเลียนแบบนายกฯ กัมพูชาที่อยู่ในอำนาจครั้งละสองคนพร้อมๆ กัน...
nn พรรคพลังประชารัฐกับรวมไทยสร้างชาติ จะแยกกันเดินรวมกันตี หรือจะแยกกันจริงๆ ในการรณรงค์หาเสียงชิง สส. ในการเลือกตั้งครั้งหน้า เรื่องนี้ก็น่าติดตาม เพราะในเมื่อบิ๊กป้อมยังอยู่ในตำแหน่งหัวเรือใหญ่ของพลังประชารัฐ แล้วยังดึงเสี่ยแป้งมัน ธรรมนัส พรหมเผ่า มาอยู่กับพลังประชารัฐแบบนี้จะให้บิ๊กตู่-ประยุทธ์ ไปอยู่กับพลังประชารัฐคงเป็นเรื่องยากมาก แต่รวมไทยสร้างชาติก็คงไม่อยากเป็นศัตรูกับพลังประชารัฐอย่างแน่นอน เพราะเป็นบิ๊กตู่กับบิ๊กป้อมต่างก็เป็นวัวเคยค้า ม้าเคยขี่ แล้วก็ต้องไม่ลืมว่าบิ๊กตู่จะสามารถครอบตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้อีกแค่ประมาณ 2 ปีเท่านั้น ปัญหาคือการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีครั้งหน้าจะเอาอย่างไรดี จะเสนอชื่อบิ๊กตู่คู่กับใคร หากเสนอชื่อบิ๊กตู่ประกบบิ๊กป้อม แล้วถ้าหากพรรคพลังประชารัฐไม่โหวตให้บิ๊กตู่เป็นนายกรัฐมนตรีก่อนแต่ดันโหวตให้บิ๊กป้อมเป็นนายกรัฐมนตรีไปเลยทีเดียว แบบนี้บิ๊กตู่จะยอมหรือ งานนี้จะมีนายกฯ หารสองแบ่งครึ่งในแบบไหน ใครจะเป็นก่อน เป็นหลัง เรื่องแบบนี้พี่จะยอมให้น้องเป็นก่อนสองปี แล้วพี่เป็นต่ออีกสองปี พี่ป้อมจะยอมหรือ ...
nn ไปดูเรื่องที่บริษัทธนายง ผู้ให้บริการเดินรถไฟบีทีเอสประจานกรุงเทพฯ ว่าติดหนี้สี่หมื่นล้านบาทแล้วไม่ยอมจ่าย โดยประจานทุกวี่ทุกวันบนรถไฟฟ้าบีทีเอส เรื่องนี้ทำให้เกิดคำถามว่า สรุปว่ากรุงเทพมหานครมีปัญญาจ่ายหนี้ให้ธนายงหรือไม่ ไม่ต้องถามว่า กทม. เป็นหนี้ธนายงจริงไหม ตอบได้ชัดๆ ว่าเป็นหนี้จริง แต่คำถามคือแล้วทำไมไม่จ่าย จะอมหนี้ไปเพื่ออะไร ส่วนธนายงก็ยังคงประจาน กทม. อยู่ทุกวัน วันละหลายร้อยครั้ง แต่เมื่อฟังเสียงของผู้บริหารกทม. บอกว่าไม่เบี้ยวหนี้ แต่ก็ไม่ยอมจ่ายหนี้ ก็เลยสงสัยว่า ทำไมไม่จ่ายหนี้ให้จบๆ กันไป จะลากหนี้ไปเพื่ออะไร หากวันเลวคืนเลวมาถึง ธนายงดันประกาศยุติการให้บริการประชาชนโดยอ้างว่าไม่มีเงินทำธุรกิจต่อ กทม. จะมีปัญญาแก้ปัญหาหรือ แต่ได้ยินว่าธนายงจะปร้บขึ้นค่าบริการการใช้รถไฟฟ้า เพราะว่ามีเงินบริหารกิจการ ฟังๆ เรื่องนี้แล้วก็บอกได้คำเดียวว่าพอๆ กัน ทั้งเอกชนและหน่วยงานของรัฐ แต่ที่ดูแล้วเลวร้ายยิ่งกว่าก็คือการที่หน่วยงานรัฐเป็นหนี้เอกชนแล้วไม่ยอมใช้ นี่เป็นสิ่งที่บอกได้คำเดียวว่า หนังหน้าของผู้บริหารหน่วยงานของรัฐไทยน่าจะมีความทนทานเป็นที่สุด เพราะปล่อยให้เอกชนทวงเงินทุกวัน แต่ก็ไม่ยอมชำระหนี้...
nn เมื่อรัฐบาลสร้างหนี้ไว้บานเบอะ สร้างหนี้ไว้ตลอดเวลา สร้างหนี้ทุกวี่ทุกวัน หนทางหาเงินใช้หนี้ที่พอกเป็นดินพอกหางหมูก็คือการออกพันธบัตรแล้วใช้กลยุทธ์ให้ดอกเบี้ยตอบแทนเพื่อดูดเงินจากประชาชนไปใช้หนี้ โปรดจำไว้เถอะว่ายิ่งรัฐบาลกู้เงินด้วยการออกพันธบัตรมากเท่าไร ก็หมายความว่ารัฐบาลสร้างหนี้ไว้มากมายมหาศาลบานตะไท รัฐบาลที่ดีต้องไม่สร้างหนี้มหาศาลนะขอรับ เพราะหนี้ที่รัฐบาลสร้าง หมายความว่าเป็นหนี้ของแผ่นดิน ซึ่งประชาชนทุกคนต้องชดใช้โดยไม่มีทางหลีกเลี่ยง รัฐบาลที่ดีมีปัญญาต้องสร้างรายได้ให้ประเทศ มิใช่ก่อหนี้ทิ้งไว้ให้ประเทศต้องแบกรับ...nn
ธรรมกร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี