“บุคคลแนวหน้า ในหนังสือพิมพ์แนวหน้า www.naewna.com สื่ออุดมการณ์มั่นคง ตรงไป ตรงมา” ฉบับนี้ “ไม้หน้าสาม ย่อโลกทัศน์ที่กว้างให้แคบ ขยายโลกทัศน์ที่แคบให้กว้าง ทำความจริงให้ปรากฏให้ทันเล่ห์นักการเมืองเสียชาติเกิด นักเลือกตั้งชังชาติ รู้ทันทรราชย์ขี้ฉ้อทุนสามานย์, สัมภเวสีอย่างเท่าเทียม”...

nn เนื่องจากเขียนต้นฉบับนี้ในวันครู จึงขอเริ่มต้นกันด้วย พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อเป็นข้อคิดและเครื่องเตือนใจให้แก่ปวงชนชาวไทยได้น้อมนำไปยึดถือปฏิบัติเพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต และการปฏิบัติหน้าที่ รวมทั้งเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ และทรงมีน้ำพระราชหฤทัยห่วงใยทุกข์สุขของชาวไทยทั้งแผ่นดิน ความว่า “งานของครูนั้น ถือได้ว่าเป็นงานสร้างสรรค์อย่างแท้จริง เพราะเป็นการวางรากฐานความรู้ ความดี และความสามารถทุกๆ ด้านแก่ศิษย์ เพื่อช่วยให้สามารถดำรงตนเป็นคนดี มีอาชีพเป็นหลักฐานและเป็นประโยชน์ต่อสังคม เพราะเหตุที่งานของครูเป็นงานที่หนักและเป็นงานสร้างสรรค์ที่บริสุทธิ์ ผู้เป็นครูจึงต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความตั้งใจที่แน่วแน่ ด้วยความพากเพียร อดทน และด้วยความเมตตากรุณาอย่างสูง ทั้งต้องสำรวมระวังตนในเรื่องความประพฤติปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ไม่ปล่อยตัวปล่อยใจไปตามความต้องการที่ไม่สมควรแก่ฐานะและเกียรติภูมิของครู...”...

nn น่าเสียดายที่เวลาเปลี่ยนบุคลากรทางการศึกษาก็เปลี่ยนอุดมการณ์ลดจรรยาบรรณจริยธรรมลงอย่างน่าตกใจ สังคมไทยเริ่มเห็นเหตุการณ์พ่อพิมพ์แม่พิมพ์ของชาติจำนวนหนึ่งล่วงละเมิดทางเพศลูกศิษย์ และล่าสุดเห็นข่าวพ่อพิมพ์แม่พิมพ์ของชาติ “สตอเบอแหล” ป้อนข้อมูลอันเป็นเท็จใส่ร้าย “ปูชนียบุคคลที่มากด้วยคุณูปการต่อประเทศชาติ” ให้เยาวชนไทยเข้าใจในสิ่งผิดอย่างไม่ละอาย สะทกสะท้านในจริยธรรมจรรยาบรรณ “วิชาชีพครู” แม้แต่น้อย เมื่อมีผู้โต้แย้งก็ตั้งกรรมการสอบแบบเงียบๆ ไม่ “อินังขังขอบ” ต่อความรู้สึกของประชาชนและสังคมไทยที่เลื่อมใสศรัทธาแต่อย่างใด...

nn กลายเป็นดราม่าอย่างรุนแรง ทัวร์ลงสนั่นโลกโซเชียลกับการประกวด “มิสยูนิเวิร์ส-นางงามจักรวาล ครั้งที่ 71” ที่ “แม่แอน-จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์” หรือรู้จักในนาม แอน-จักรพงษ์ เป็นนักธุรกิจหญิงข้ามเพศชาวไทย ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ของบริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด ที่เพิ่งจะซื้อ “ลิขสิทธิ์การประกวดมิสยูนิเวิร์ส” มาถือเองในปีนี้ ท่ามกลางการคาดหวังแบบเข้าข้างตนเองของกองเชียร์ “แอนนา เสืองามเอี่ยม” สาวลูกครึ่งไทย-เยอรมัน ตัวแทนสาวไทยในการประกวดรายการนี้...

nn หลายคนคาดหวังว่าน่าจะมีที่ว่าง 1 ใน 5 ของผู้ชนะเลิศการประกวดให้น้องแอนนาได้ครอบครอง ทว่าสาวไทยตกรอบแรก (ไม่ผ่านเข้ารอบ 16 คนสุดท้าย) ทั้งที่ผู้ผ่านเข้าไปในรอบนี้หลายคนไม่ได้งดงามสมควรแก่การข้ามหัว “แอนนา” เสียด้วยซ้ำ เพราะอย่างน้อยเจ้าของลิขสิทธิ์เวทีนางงามนี้เป็นบริษัทของคนไทยที่คนในสังคมนี้รู้จักมักคุ้นเป็นอย่างดี จนลืมไปว่าการเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์การประกวด ไม่ใช่ลิขสิทธิ์เป็นผู้คัดสรรกรรมการ และไม่ใช่เรื่องการันตีว่า เมื่อลิขสิทธิ์นี้เป็นของประเทศไทยแล้ว ตัวแทนสาวไทยต้องตกพุ่ม “ความสำเร็จ” เหมือนบางเวทีที่ทำให้สาวไทยสมหวังแบบค้านสายตาคนดู เสียงชื่นชมกลายเป็นเสียงวิพากษ์วิจารณ์ก่นด่า แล้วกรรมก็ตกกับนางงาม แต่โชคชะตาความร่ำรวยกลับตกอยู่กับนายทุนเสียอย่างนั้น สังคมไทยต้องการให้เกิดเรื่องเยี่ยงนี้หรือ จะภาคภูมิใจกันได้จริงไหม เมื่อต้องมีตราบาป “โคตรโกง” อย่างใครบางคน...

nn พูดถึงเรื่องประกวดนางงามจะข้ามเรื่องการหาเสียงเลือกตั้งไม่ได้เลย ณ เวลานี้ “พรรคเพื่อไทย” ดึงเชงประกาศตัว “แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี” ออกไปเป็นเดือนหน้า โดยจะเสนอชื่อตามรัฐธรรมนูญกำหนด (3 รายชื่อ) ซึ่งตอนนี้แน่นอนแล้วคือ คุณแม่ลูกสองวัย 36 กะรัต ดีเอ็นเอสัมภเวสี “อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร” ที่ขึ้นเวทีประกาศความพร้อมเป็น “นายกรัฐมนตรีจากยุทธการแลนด์สไลด์” ยืนยันหนักแน่นบนเวทีปราศรัยที่เมืองหลวงคนเสื้อแดง “อุดรธานี” ว่าจะนำโทนี่กลับมาเลี้ยงหลานที่บ้านหลังชนะการเลือกตั้ง เยี่ยงนั้นเท่ากับ “ลุงโทนี่ วู้ดซัม” ได้กลับบ้านโดยไม่ต้องรับโทษทัณฑ์, โทษาณุโทษตามคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอย่างนั้นหรือ แล้วสำรอกสำราก “ลดความเหลื่อมล้ำ” เพื่อ!?!?!...

nn คนที่สองที่จะถูกเสนอเป็นแคนดิเดต “พรรคเพื่อไทย” คือ “เสี่ยนิด-เศรษฐา ทวีสิน” ประธานบริหารบริษัท “แสนสิริ”เจ้าพ่อวงการอสังหาริมทรัพย์ ... ส่วนคนที่สามยังอยู่ระหว่างการพิจารณาเลือกระหว่าง “ชัยเกษม นิติสิริ” อดีตอัยการสูงสุด, แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเมื่อการเลือกตั้ง 26 มี.ค. 2562 แต่สอบตก กับ “หมอชลน่าน ศรีแก้วผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย” งานนี้ไม่รู้“นายใหญ่เจ้าของคอกสุนัขจันทร์ส่องหล้า” จะ “เคาะกะลา ให้หมาดีใจ” หรือไม่??...

nn ตกพุ่ม “ปากปราศรัย น้ำใจเชือดคอ” อีกแล้วงานนี้ “นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ” นักการเมืองอาวุโสจากปักษ์ใต้ย้ายค่ายจาก “พระแม่ธรณีบีบมวยผมไปอยู่พรรคสร้างอนาคตไทยของ “อุตตม-สนธิรัตน์-สมคิด” ไม่ทัน “หายเหม็นลมตด” ก็ย้ายเข้าสังกัด “พลังประชารัฐ” ชะรอยตามรอยเท้าเดิม “ยามศึกเรารบ ยามสงบกัดกันเอง” ซัดพรรคก้าวไกลบางคน สร้างภาพว่าเป็นคนดี แต่พอมีอำนาจนิดหน่อยก็แสวงหาประโยชน์ เข้าไปมีผลประโยชน์ในการจัดหาผู้ประมูลร้านอาหารในรัฐสภา ทำให้อาหารไม่มีคุณภาพเป็นสาเหตุทำให้สภาล่มด้วยหรือไม่ ท่านผู้อาวุโสที่น่าคบเคารพครับ...

nn ทิ้งท้ายฉบับนี้อย่างที่กล่าวแต่ต้นเขียนต้นฉบับนี้ในวันครู “ไม้หน้าสาม”ก็ศิษย์มีอาจารย์หนึ่งบ้าง ขอกราบและรำลึกถึงพระคุณ “ป๋าพา-ครูพาไชยเดช” ครูใหญ่โรงเรียนอำนวยศิลป์ พญาไท ... ครูแม่เสาวลักษณ์ รามณรงค์ ครูประจำชั้นผู้ล่วงลับ, ครูเพ็ญศรี อินทร์จันทร์ณรงค์, ครูจำลอง เอมแย้ม และคุณครูผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชาให้มีความรู้ความสามารถอย่างในปัจจุบัน รวมทั้งสื่อมวลชนอาวุโส, คอลัมนิสต์ 18 อรหันต์ ที่เพาะบ่มความรู้งานด้านสื่อสารมวลชนจนสามารถประกอบวิชาชีพได้อย่างในปัจจุบัน...nn

ไม้หน้าสาม