“บุคคลแนวหน้า ใน หนังสือพิมพ์แนวหน้า www.naewna.com สื่ออุดมการณ์มั่นคง ตรงไป ตรงมา” ฉบับนี้ “ไม้หน้าสาม ย่อโลกทัศน์ที่กว้างให้แคบ ขยายโลกทัศน์ที่แคบให้กว้าง ทำความจริงให้ปรากฏ ให้สังคมทันเล่ห์นักการเมืองเสียชาติเกิด นักเลือกตั้งชังชาติส่ำสัตว์ติ่งสัมภเวสี อย่างเท่าเทียม” ความจริงเรื่องแรกในฉบับนี้“ไม้หน้าสาม” พาไปตรวจเสียง จิ้งจก 2 ตัวร้องทัก ที่มีความหมายเดียวกัน...ตัวแรก “เทพกิมเซียมซู,คางคกผู้มั่งคั่ง-จตุพร พรหมพันธุ์”ตัวที่สอง “เจ้าพ่ออ่างทองคำ–Chuweed cannabis, ชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์”กับคำว่า “ขงเบ้ง”...จู เก่อ เหลียง รัฐบุรุษและนักยุทธศาสตร์การทหาร,อัครมหาเสนาบดีแห่งจ๊กก๊ก เป็นบัณฑิตปราดเปรื่องและคงแก่เรียนมาแต่ครั้งที่ยังใช้ชีวิตปลีกวิเวก โดยได้รับสมญาว่า “มังกรหลับ” เป็น “นักปราชญ์ลัทธิขงจื๊อที่ยึดถือหลักปรัชญานิตินิยม” จิ้งจกทั้งสองตัวพยายามโยง “ขงเบ้ง เข้ากับ เศรษฐา” หรือตั้งใจจะตอกย้ำถึง “เบ้ง”หรือ “พี่เบ้ง-ทศพงษ์ จารุทวี อดีตผู้บริหารแนเชอรัล พาร์ค”ผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีเรื่องราวเป็นที่โจษขาน และหวือหวามากที่สุดคนหนึ่งในประเทศไทย คู่เขย “เศรษฐา ทวีสิน” ที่เมื่อปี 2547 เผยถึงรายได้หลักของแนเชอรัล พาร์ค ในอนาคตว่าถูกกำหนดไว้ 2 ส่วน คือจากการขาย และรายได้จากการเช่าที่และที่สำคัญมาจากสองบริษัท คือ บริษัทแสนสิริ จำกัด (มหาชน) และบริษัทแปซิฟิค แอสเซ็ทส์ จำกัด (มหาชน)...

nn ภรรยาคุณเศรษฐาคือ “แพทย์หญิงพักตร์พิไล ทวีสิน” ในขณะที่เสี่ยเบ้งนั้นได้ “น้องสาวหมอพักตร์พิไล” เป็นภรรยาแต่เลิกรากันนานแล้วนี่คือสายสัมพันธ์ทางชาติตระกูล...นอกจากนี้ “แนเชอรัล พาร์ค” ยังเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ใน “แสนสิริ” แต่ต่อมาได้ขายหุ้นกว่า 20% ให้กับกลุ่มทุนฮ่องกง ทำให้บริษัท “พี่เบ้ง–ทศพงษ์ จารุทวี” พ้นจากความเป็นผู้ถือหุ้นอันดับต้นๆ ของ “แสนสิริ” ในปี 2550...

nn สังคมไทยจะเดินหน้าเหมือน “นาฬิกา” อย่างนั้นหรือ จนได้ “นิวระบอบทักษิณหรือ ระบอบเศรษฐา” ในการบริหารประเทศอีกครั้งหรือไม่ เพราะ “รวยแล้วไม่โกง!?!?!ไม่มี”...เดิมเคยมี “อัศวินคลื่นลูกที่สาม” วันนี้อย่ามี “อัศวิน 5จี” เลย ล่าสุด “เศรษฐา ทวีสิน” ประกาศหยุดงานที่ “แสนสิริ” เดินหน้าการเมืองเต็มตัว “ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย” ลั่นเป้า “แลนด์สไลด์ 310 ที่นั่ง” ขนาดนั้นจริงหรือ...

nn“ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ช่วย “พรรคก้าวไกล” หาเสียง “พรรคก้าวไกล”ออกนโยบายหาเสียงเรื่องที่ดินทำกินของเกษตรกร โดยเปลี่ยนจากที่ดิน ส.ป.ก. ให้เป็น “โฉนดทองคำ” อย่างที่ “พรรคพลังประชารัฐ”เคยกำหนดเป็นนโยบายหาเสียงเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา เปิดโอกาสทองให้เกษตรกรผู้ครอบครองที่ดิน ส.ป.ก. จำนวนกว่า 2.8 ล้านราย สามารถขายโอนกรรมสิทธิ์ให้กับบุคคลอื่นๆ โดย ยกเลิกเงื่อนไขที่ให้ใช้ที่ดิน ส.ป.ก.เพื่อทำการเกษตรอย่างเดียวเปิดช่องให้นำที่ดิน ส.ป.ก.ไปทำธุรกิจต่างๆ ได้ครบวงจร แต่เจอกระแสคัดค้านอย่างรุนแรง จนต้องนำนโยบายนี้เก็บใส่ลิ้นชักมาหลายปี...

nn มาเลือกตั้งครั้งนี้ “พรรคก้าวไกล” ออกนโยบาย “ปลุกผีโฉนดทองคำ” อีกครั้งโดยขึ้นคัทเอาท์ว่า “คืนที่ดิน ให้ประชาชน เปลี่ยนส.ป.ก.นายทุน เป็นโฉนดให้เกษตรกร พร้อมชง กฎหมาย 40 ฉบับเปลี่ยนแปลงประเทศไทย”... “ไม้หน้าสาม” เห็นว่าน่าสนใจพร้อมเกิดคำถามบางเรื่องในใจเลยเอามาให้สังคมไทยได้พิเคราะห์พิจารณานั่นคือ มั่นใจได้อย่างไรว่าเกษตรกรจะไม่นำโฉนดที่ดินไปจำนำจำนองไปขายให้นายทุน แตกต่างกับเสียงครหาหวาดหวั่นกับนโยบาย “โฉนดทองคำ” ของ “พรรคพลังประชารัฐ”อย่างไร แถมศาสดาของ “พรรคก้าวไกล”และคนในครอบครัวยังมีคดีความที่ยังไม่เคลียร์ให้แล้วเสร็จกรณี “ตระกูลจึงรุ่งเรืองกิจ” ทั้ง “สมพร, ชนาพรรณ, ธนาธร” รุกที่ดินป่าสงวน ต.ด่านทับตะโก, ต.รางบัว อ.จอมบึง จังหวัดราชบุรี จนถูกกรมป่าไม้เพิกหนังสือรับรองการทำผลประโยชน์ (นส.3ก.)59 ฉบับ จำนวนที่ดิน 2,111 ไร่ แต่คิดเพื่อออกนโยบายประชานิยมออกโฉนดทองคำค้านอย่างไรวิพากษ์วิจารณ์อย่างไร จำกันบ้างไหม “พรรคก้าวไกล” มั่นใจหรือว่าจะไม่มีคนใน “ตระกูลจึงรุ่งเรืองกิจ หรือตระกูลเจ้าสัวคหบดี” มากว้านซื้อที่ดินเหล่านี้จากเกษตรกร...

nn ทุกวิชาชีพมีทั้งคนดีและคนชั่วปะปนกันไป องค์กรตำรวจก็เช่นกัน ใช่ว่าจะมีตำรวจเลวนอกแถวไปเสียหมด “ไม้หน้าสาม” ยินดีที่จะชื่นชมการทำหน้าที่ “ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์” อย่างจริงจังจริงใจ...เรื่องที่น่าชื่นชมกับเครื่องแบบสีกากีขอเริ่มเอ่ยที่ “พลตำรวจตรีนพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. รับผิดชอบงานสืบสวน” ใส่ใจติดตามกำชับ “พันตำรวจเอกอธิวัฒน์ นุชถาวร ผกก.สน.บึงกุ่ม, พันตำรวจตรีธีระ หล้านามวงศ์ สวส.”นำกำลังชุดสืบสวน สน.บึงกุ่ม และ บก.น.4 ติดตามคดีคนร้ายย่องเบาเข้าบ้านฉกทรัพย์สิน อาทิ โน้ตบุ๊ก ไอแพด ไอโฟน แหวนเพชร แหวนนพเก้า มูลค่าหลายแสนบาท ก่อนประสานชุดสืบสวน สน.สุวินทวงศ์ ภายใต้การกำกับดูแลของ “พ.ต.อ.พีรรัฐ โยมา ผกก.สน.สุวินทวงศ์” ได้โน้ตบุ๊กกลับมา 1 เครื่อง ติดต่อคืนผู้เสียหายแล้ว ส่วนคนร้ายและของกลางที่เหลืออยู่ระหว่างติดตาม เห็นทีมสืบสวน สน.บึงกุ่ม กับสน.สุวินทวงศ์ ทำงานขยันขันแข็ง โดยไม่มีรางวัลสินบนใดๆ สมกับเป็นตำรวจยุคใหม่ใส่ใจประชาชน ไม่ว่าคดีเล็กใหญ่เต็มที่ทุกคดี ขอชื่นชมตำรวจน้ำดีของนครบาล...

nn ทิ้งท้าย ฉบับนี้ “เพื่อไทย” แลนด์สไลด์เป็นรัฐบาลพรรคเดียวเมื่อปี 2544 มีนโยบายไหนทำสำ-เร็จบ้าง รถคันแรกสำเร็จไหม เจ๊ง!!จนถึงทุกวันนี้ นโยบายนี้แค่ต้องการปั่นจีดีพีให้โตออกกฎหมาย เพื่อกู้เงิน 2 ล้านล้าน นโยบายนี้ทำให้เกิดการจองรถเป็นล้านคัน บริษัทผู้ผลิตค่ายต่างๆ ก็ต้องเพิ่มกำลังการผลิต จ้างงานเพิ่ม จีดีพีก็โตขึ้นทุกๆ ปี แต่พอรัฐบาลรีเจคโครงการค่ายรถยนต์เหล่านั้นประสบภาวะขาดทุนเจ๊งระเนระนาด “รัฐบาลเพื่อไทย” ออกมาอุ้มให้ความช่วยเหลือหรือชดใช้ค่าเสียหายบ้างไหม...nn

ไม้หน้าสาม