“บุคคลแนวหน้า ในหนังสือพิมพ์แนวหน้า สื่ออุดมการณ์ มั่นคงตรงไปตรงมา www.naewna.com” ฉบับนี้ “ไม้หน้าสาม ขยายโลกทัศน์ที่แคบให้กว้าง ย่อโลกทัศน์ที่กว้างให้แคบ ทำความจริงให้ปรากฏให้สังคมไทยทันเล่ห์เหลี่ยมนักการเมืองเสียชาติเกิด นักเลือกตั้งชังชาติ ส่ำสัตว์ติ่งสัมภเวสีคนโกงอย่างเท่าเทียม”...
nn เริ่มต้นด้วยบรรยากาศทางการเมืองที่เสมือนเป็นควันหลงจากการเลือกตั้ง เปลี่ยนใหม่หรือไปต่อ 14 พ.ค.2566 ว่าด้วยเรื่อง “พรรคเพื่อไทย”ที่อิงแอบใต้อุ้งสัมภเวสี กับ “พรรคก้าวไกล”ที่ว่า “สุดโต่ง” ต่างกันเยอะทั้งเนื้อหานโยบาย แนวคิด วิธีปฏิบัติ การสื่อสาร รวมถึงกลุ่มผู้สนับสนุนด้วย ช่วงการหาเสียงที่ผ่านมาจึงคล้ายการต่อสู้ระหว่างพรรคเพื่อไทย “ตัวแทนกลุ่มอำนาจใหม่ทุนสามานย์” กับพรรคประชาธิปัตย์ ตัวแทนกลุ่มอนุรักษ์นิยม ในอดีต ... “ไม้หน้าสาม” มองว่าไม่ควรแม้แต่น้อยที่จะร่วมรัฐบาลกัน พรรคไหนชนะก็เป็นรัฐบาลอีกพรรคก็ควรรับผลพิพากษาเป็นฝ่ายค้านสลับกัน ประชาชนจะได้ประโยชน์สูงสุด อย่างสองทศวรรษที่แล้วที่ “พรรคประชาธิปัตย์”ทำหน้าที่ขัดแข้งขัดขาปิดกั้นวงจรอุบาทว์ในระบอบทักษิณจนบ้านเมืองไม่เสียหายสามารถกอบกู้ได้...
nn จึงไม่น่าแปลกใจที่ชายหนุ่มอย่าง “ทิม –พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ผู้มาดมั่นตั้งใจกับเก้าอี้นายกรัฐมนตรีจะยอมเจ็บตัวเล่านิทานเผด็จการขย้ำขยี้ข่มขืนใจเมื่อปี 2549 อย่างไม่กระดากปากก็ปัดความรับผิดชอบมาให้สื่อแขนงต่างๆ จะปฏิเสธบทบาทพระเอก ประกาศชัดไม่โหวตให้ “แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี”ของ “พรรคเพื่อไทย” เป็น “นายกรัฐมนตรี” ถ้า “พรรคก้าวไกล” ไม่ถูกเลือกให้ร่วมรัฐบาลด้วยเงื่อนไขบางข้อใน 3 ข้อเงื่อนไขให้พรรคการเมืองร่วมรัฐบาล... สำรอกดังขนาดนี้ “อุ๊งอิ๊ง-เศรษฐา”คาบกองอาจมไปให้นายใหญ่ดื่มด่ำตัดสินใจโดยพลันหากชนะเลือกตั้งจริง...
nn ขึ้นชื่อว่าผีเปรต อย่างไรก็สุขสมกับอาจมอุจจาระ เลือกตั้งพฤษภา 2566 เปลี่ยนใหม่หรือไปต่อ ?? ถ้าเปลี่ยนประเทศไทยไม่เหมือนเดิม นักเคลื่อนไหวมาทำระยำจัญไรบนสถานีตำรวจ ให้สังคมเดิมไปต่อเถอะ!! คำรุ่นเก่าพวกเขาแยกแยะได้ว่าตำรวจระดับปฏิบัติการในสน. ไม่ใช่คู่กรณีของใคร ไม่จำเป็นต้องทำลายข้าวของ ไม่ต้องหยาบคายใส่ อะไรที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อเป้าหมายของการเคลื่อนไหวทั้งแก้ผ้าตัวเองปัสสาวะอย่างหน้าด้านๆ ไม่มียางอาย ใช้เสื้อในแขวนคอเรียกร้องความสนใจ เขาไม่ทำกัน ... “ไม้หน้าสาม”ว่าอยู่อย่างเดิมยังมีวัฒนธรรมจารีตประเพณีที่ยกย่องสรรเสริญได้ดีกว่า อ้ายอีทั้งหลายที่เรียกร้องช่วยเหลือเยาวชนไร้สมอง 2 คนนี้คิดอย่างไร หรือเป็นผู้นิยม “อนาธิปไตย” ใช่ผู้ไร้สามัญสำนึกในไฟลั่มเดียวกันหรือไม่...
nn นับตั้งแต่วันจันทร์ที่ 15 พฤษภาคม 2566 เป็นต้นไป เดือดร้อนวัดเดือดร้อนพระสงฆ์ ผู้คนเกิดอาการผวาหวาดหวั่นใจขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ เพราะคืนหมาหอนหัวคะแนนเดินขาขวิดแทบเข่าหลุดจ่ายกันไม่ยั้งแบงก์พันว่อนในหลายๆ ที่มีกินฟรีช็อปฟรีแต่มีคะแนนไม่ตรงเป้า ถึงคราวเอาคืนกันแล้ว...
nn เดิม“ไม้หน้าสาม”เคยรู้น้อยอ่านน้อย จนไม่เข้าใจความหมายของสำนวนไทยที่ว่า “หมาเห่าใบตองแห้ง”อย่างแท้จริง กระทั่งได้ฟังและอ่านสปีชของ “อดีตอำมาตย์กระทรวงพาณิชย์, เต้น – ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ” พูดราวกับว่า คนเสื้อแดงเป็นสิ่งเดียวกับพรรคเพื่อไทย …การพูดอย่างนี้ทำให้คนฟังคล้อยตามว่า ในเมื่อคนเสื้อแดงสู้มา เสียสละมา ข้อกล่าวหาที่ว่าพรรคพท. ไม่สู้ หรือสู้ไม่พอ นั้นจึงไม่จริง ทั้งที่ข้อเท็จจริงในสปีชนั้นชาวประชาเขาหมายถึงว่าเมื่อครั้งหลอกรากหญ้าได้เป็นรัฐบาลแล้ว ไม่ทำอะไรตลอดสองปีกว่า นอกจากทุจริตคอร์รัปชั่นโครงการรับจำนำข้าวทุกเม็ดจาก “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ” กับรอสถานการณ์สุกงอมมีจังหวะ ก็จัดการลักหลับสังคมไทย “นิรโทษกรรมเหมาเข่ง” ไม่แยแสเห็นศีรษะใครทั้งนั้น ผลประโยชน์กูมาก่อนเฉยเลย ท่านอดีตอำมาตย์จำอะไรได้บ้างไหม ดื่มน้ำหลายอึกกับคำถามสื่อมวลชนที่ไม่มีอะไรมากมาย ถามง่ายๆ แต่คำตอบมันจุกคอหอยน่ะเวรกรรม โดยแท้...
nn คนที่ “พูดพล่าม พูดโดยไม่คิด พูดในสิ่งที่ไม่ควรพูด จนทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน”อย่างนี้ “ไม้หน้าสาม”สมควรเรียก“ปากไม่มีหูรูด หรือ ปากพล่อย” ดีไม่รู้ถึงจะสำเหนียก เกิดสามัญสำนึกกับข้อความบน “ทวิตเตอร์”ของอดีตเลขาธิการพรรคไทยรักไทย “ติ่งเนื้อสำคัญของสัมภเวสี”ที่อยู่จำพวกว่า “ขุปปีปาสิกเปรต” ที่ว่า “งานเข้าอีกแล้ว ไปรษณีย์ส่งบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าไม่ได้อีก 300,000 กว่าใบ” โพสต์นี้เพื่อหวังผลว่าประชาชนจะระแวงพฤติกรรมการจัดการเลือกตั้งของคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าจัดการเลือกตั้งไม่ตั้งอยู่บนความบริสุทธิ์ยุติรรมให้ฝ่ายตนเองเป็นฝ่ายพ่ายแพ้การเลือกตั้งครั้งนี้ ทั้งที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริงเยี่ยงนี้จะมีมนุษย์ตนใดยืดอกชูคอออกมาแสดงความรับผิดชอบบ้าง...
nn “เต็มปากเต็มคำ มั่นอกมั่นใจมาก” กับวาทกรรม “บิ๊กบี้ – พลเอกณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) นักเรียนเก่า“คณะเรา – อำนวยศิลป์ รุ่นสกายแล็ป 53” ที่ว่า “พรรคก้าวไกล”เข้ามาเป็นรัฐบาลจะปฏิรูปกองทัพก็เป็นเรื่องของฝ่ายบริหาร ใครเข้ามาก็มีสิทธิที่จะทำตามนโยบายของเขา ในส่วนของเราที่เป็นทหาร ก็มีสิทธิทำข้อมูลชี้แจง ถึงความจำเป็นในการมีทหาร หรือจำเป็นในการเกณฑ์ทหาร ... ก็มีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เป็นเรื่องปกติเป็นสิทธิ แล้วแต่แนวคิดหรือมุมมองด้านใดก็ได้...nn ผมไม่ห่วง เพราะเชื่อว่ามีบทเรียนมามากแล้วในอดีต เพราะฉะนั้นเมื่อมาถึงจุดนี้ การเมืองในระบอบประชาธิปไตยก็ต้องเดินไป แต่ทุกคนก็ต้องมีสติว่าอะไรควร ไม่ควร จะไม่มีการปฏิวัติหลังการเลือกตั้งคำนี้ มันควรไม่มีแล้ว คำนี้ที่คิดว่า ไม่ดีไม่เหมาะสมกับประเทศ จึงสมควรลบออกไปจากพจนานุกรมของกองทัพและผู้สื่อข่าว ต้องฟังอีกครั้งหรือไม่สังคมไทยคำว่า “สุภาพบุรุษ” ... ไม่มีขายหาซื้อไม่ได้ แต่มีสั่งสอนที่ “คณะเรา – อำนวยศิลป์”...
nn ทิ้งท้าย“นักการเมืองให้ปลา พระราชาให้เบ็ด” นโยบายแจกๆๆๆไม่ได้ฝึกฝนให้รู้จักทำกินทำให้ประชาชนติดนิสัยรอกินเดี๋ยวนี้ เลี้ยงลูกหลานแบบนกคือชูคออ้าปาก รอพ่อแม่นำเหยื่อมาป้อนพอปีกกล้า ขาแข็งก็โบยบินจากไปไม่เลี้ยงลูกหลานแบบไก่คือฝึกพาคุ้ยเขี่ยหากินแต่เล็กโตมาจะได้คุ้ยเขี่ยหากินด้วยตัวเองยังอยู่รวมกันเป็นฝูง สังคมไทยมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร
ไม้หน้าสาม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี