“บุคคลแนวหน้า ในหนังสือพิมพ์แนวหน้า แนวหน้าออนไลน์ สื่ออุดมการณ์มั่นคง ตรงไป ตรงมา” ฉบับนี้ “ไม้หน้าสาม ย่อโลกทัศน์ที่กว้างให้แคบ ขยายโลกทัศน์ที่แคบให้กว้าง ทำความจริงให้ปรากฏ ให้สังคมไทยทันเล่ห์ทันเหลี่ยมนักการเมืองเสียชาติเกิด นักเลือกตั้งชังชาติติ่งแดงด้อมส้ม ส่ำสัตว์สัมภเวสีอย่างเท่าเทียม”...

nn สุดยอดนักการเมืองยุค 5 จี ดิจิทัล “หมออ๋อง–ปดิพัทธ์ สันติภาดา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพิษณุโลก เขต 1 พรรคก้าวไกล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1” ทวีตอุดมการณ์ลงสื่อโซเชียลยอดฮิต “ทวิตเตอร์” แอคเคาท์ส่วนตัวแบบไม่แคร์ใคร “อะไรที่ทำให้บรรดาคนที่แพ้เลือกตั้ง ตระบัดสัตย์ ทรยศประชาชน ดาหน้ากันออกมาว่าผมไม่มีศักดิ์ศรีหรอ...ผมไม่เสียสมาธิหรอกครับ จะทำงานต่อ จนกว่าสภาฯจะโปร่งใส มีประสิทธิภาพ และเป็นของประชาชน ตามที่ได้สัญญาไว้ครับ”...ที่ผ่านมาความวัวยังไม่ทันหายความหมออ๋องก็เข้ามาแทรก ทั้งกรณีโพสต์ข้อความเชียร์คราฟท์เบียร์ที่อ้างว่าเป็นของท้องถิ่นผ่านสื่อโซเชียลแล้ว “ตะแบง” จนสีข้างถลอกว่า “ให้สังคมได้ถกเถียง ต้องโทษกฎหมายปิดกั้นรายย่อย เอื้อรายใหญ่ โดยเฉพาะมาตรา 32 ของ พ.ร.บ. ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การทำคราฟต์เบียร์ในท้องถิ่นเป็นสิ่งที่เพิ่มมูลค่าให้กับจังหวัดนั้นๆ ได้ แต่เรากลับปิดกั้นการโฆษณา แค่บอกว่าข้างในมีอะไรยังทำไม่ได้” ตะแบงเพียงเอาชนะคะคานเมื่อถูกตำหนิและเรียกร้องความถูกต้อง ก่อนที่จะไปจ่ายค่าปรับตามคำสั่งสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก 50,000 บาท ก่อนจบคดีโฆษณาเบียร์ท้องถิ่น ความหมออ๋องก็กระฉ่อนกรณี “รองประธานหมูกระทะ” ฉายานี้ไม่ได้มาง่ายๆ หรือโชคช่วยนะครับ ไม่สุดยอดหรือมียางสักนิดคงไม่กระทำและไม่ถกเถียงข้างๆ คูๆ อย่างนั้นแน่นอน แล้วอย่างนี้จะไม่ให้มีผู้วิพากษ์วิจารณ์ศักดิ์ศรีที่ไร้สามัญสำนึกในบทบาทรองประธานสภาผู้แทนราษฎรได้อย่างไรครับ...

nn ล่าสุดมีข่าวน่าชื่นชมพฤติกรรม “น่าไหว้” ขนท่านผู้ทรงเกียรติร่วมอุดมการณ์จาก “แอนิมอลฟาร์ม” ที่ชื่อ “ก้าวไกล” ไประเริงบรรยากาศชิลๆ “สิงคโปร์ 4 วัน 4 คืน” ด้วย “ภาษีกู” ล้วนๆจะอ้างอย่างไรก็ตามที “กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา” ชัดเจน เข้าตำรา “เห็นช้างขี้ก็ขี้ตามช้าง” อย่างนั้นสิ และที่ว่า สภาต้องโปร่งใสมีประสิทธิภาพ เป็นของประชาชนนั้น แค่เสียง “ถ่มถุยน้ำลายบูดจากปากนักการเมือง” เยี่ยงนั้นใช่หรือไม่เล่า !?!?!...

nn อีกเคสที่น่าสนใจกรณีวิวาทะระหว่างประชาชนคนธรรมดาที่ใช้ยูสเซอร์เนมว่า “ปีใหม่ ปีใหม่” กับ “เตี้ยหลังม็อบ-(เจี๊ยบ ลูกหัวโต) “อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล” อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรระบบบัญชี และกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ในสื่อสังคมออนไลน์ “ผลไม้พิษจากต้นไม้พิษ” จนกลายเป็นการข่มขู่คุกคามทั้งที่บ้านและสถานที่ทำงานตามพฤติกรรมเดิมๆ โดยคู่กรณีของอดีตสส.ตัวตึง พรรคก้าวไกลนั้น ประกาศชัดเจนว่าเป็น “ติ่งแดง” และมีความไม่พอใจพฤติกรรมสส.ตัวตึงรายนี้เนื่องจากโพสต์ข้อความและให้สัมภาษณ์พาดพิง “คนเสื้อแดงและพรรคเพื่อไทย” อย่างเสียหายมาตลอด จึงได้โพสต์ข้อความที่เป็นข้อมูลข้อเท็จจริงตอบโต้ และบางข้อความที่โพสต์นั้นไม่ได้เอ่ยถึง, กล่าวถึง หมายความถึง “เตี้ยหลังม็อบ-อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ตัวตึงจนเคยตัว” แต่อย่างใด แต่เป็นอาการกินปูนร้อนท้องเสียมากกว่า...“อ๋องหมอสัตว์” ยอมรับ พฤติกรรมคุกคามบ้านสาวคู่กรณีของสส.ตัวตึง พรรคก้าวไกล ไม่เหมาะสม หลังสอบข้อเท็จจริงถ้าผิดพร้อมปลดจากทีมที่ปรึกษารองประธานสภาฯ...

nn “นายกฯนิด-เศรษฐา ทวีสิน” เจอดราม่ากรณี “เช่าเหมาลำเครื่องเจ้าจำปีค่ากว่า 30 ล้านบาท”บินไปร่วม “ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ครั้งที่ 78 ที่นครนิวยอร์ก จักรวรรดินิยมอเมริกา” ในคณะประกอบด้วยข้าราชการระดับสูง, แพทย์หญิงพักตร์พิไล ทวีสิน ภริยานายกรัฐมนตรี-สตรีหมายเลขหนึ่งตึกไทยคู่ฟ้า, ชนัญญา ทวีสิน บุตรสาวนายกรัฐมนตรี, ดร.เอิง-คณาพจน์ โจมฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคไทยรักษาชาติ และผอ.โครงการ “คิดเพื่อไทย” เพื่อนรัฐศาสตร์จุฬา“อุ๊งอิ๊ง–แพทองธาร ชินวัตร” หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ซึ่งเป็นผู้ถูกคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญตัดสิทธิ์ทางการเมือง 10 ปี เมื่อยุบ “ทษช.-พรรคไทยรักษาชาติ”... สะท้านโปรแกรมเปิดตัว “นายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน”บนเวทีโลกครั้งนี้...

nn “ไม้หน้าสาม” จี้นายกฯนิดปรับปรุง 3 เรื่อง ก่อนที่รัฐบาลท่านจะพิกลพิการเหมือนรัฐบาล “ลุงตู่-พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” ที่ผลงานเกิดมรรคผลมากมายแต่ไม่มีใครรู้ไม่มีใครเห็น นั่นคือการประชาสัมพันธ์ที่ตรงประเด็นสร้างความน่าสนใจ เรียกว่า ทำ “มาร์เก็ตติ้ง-Marketing”นายกฯนิดระดับเซียนเรียกพี่ พูดแค่นี้เห็นทะลุปรุโปร่งอยู่แล้ว ประชาชนคาดหวังกับผู้นำและพรรคแกนนำรัฐบาลโปร่งใสอย่างไร กรณีการเช่าเหมาลำเครื่องการบินไทย แทนที่จะเป็นเครื่องบินทอ., “Air Force One ซึ่งเป็นเครื่องบินประจำตำแหน่งนายกรัฐมนตรี” ควรชัดเจนกว่านี้ อย่าอ้างแค่ความไม่เหมาะสมกับภารกิจ หรือกรณีที่มีลูกสาวและเพื่อนลูกสาวนายใหญ่ที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองร่วมคณะเดินทางโดยอ้างว่าออกค่าใช้จ่ายเองดูถูกวิจารณญาณสังคมไทยมากไปไหมนี่คือประเด็นที่สองที่ต้องปรับปรุงอย่าลืมว่า “พรรคเพื่อไทย” เวียนว่ายอยู่กับข้อครหา “ทุจริตคอร์รัปชั่นมาทุกยุคสมัย” ตั้งแต่ “ทักษิณ กับระบอบทักษิณ จนถูกรัฐประหารในเดือนกันยายน 2549” มาถึง “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่นำไปสู่การรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557” การเริ่มต้นกับความไม่โปร่งใสในการเดินทางไปต่างประเทศเพื่อปฏิบัติภารกิจครั้งแรกด้วยความเคลือบแคลงเรื่องค่าใช้จ่ายที่เป็น “ภาษีกู” แม้จะน้อยนิด แต่มากค่าทางจิตใจความไว้วางใจ ประเด็นคือ โปร่งใสหรือไม่...

nn สุดท้าย สังคมไทยจะติดตามท่าน “เศรษฐา ทวีสิน” ว่า จะไปขายประเทศไทยว่ามีดีอย่างไร ให้นักลงทุนสนใจเข้ามาลงทุนภายในประเทศมากขึ้น รวมทั้งการต่อรองทางเศรษฐกิจเพื่อผลประโยชน์ของชาติ จริงหรือไม่ มากน้อยอย่างไร การพบปะ “Elon Musk ผู้ผลิต Tesla, Microsoft, Google และทวิตเตอร์ X” จะเกิดผลสัมฤทธิ์แง่ใด อย่าลืมว่าเมื่อตอนขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงท่านตำหนิ “ลุงตู่-พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” ไม่ประสาด้านการขายเลยไม่นำเสนอผลผลิตสินค้าของประเทศไทยไปสู่ตลาดโลก ทำให้รายได้จากการส่งออกตกต่ำ หากดำเนินการตามที่ท่านนายกรัฐมนตรี “เศรษฐา ทวีสิน” กล่าวไว้สำเร็จจนต่างประเทศเข้ามาลงทุนในไทย จะสามารถสร้างรายได้ให้กับประชาชนได้อีกมาก ก้าวแรกสำเร็จโปร่งใส ก้าวต่อไปก็มั่งคั่ง มั่นคง...nn

ไม้หน้าสาม