แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา...

nn ข้าพเจ้าขอฝากคติไว้เป็นเครื่องกำกับใจมีคุณธรรมข้อหนึ่งที่สำคัญ ซึ่งท่านต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัดอยู่เสมอ คือ ความสัตย์สุจริต ประเทศบ้านเมืองจะวัฒนาถาวรอยู่ได้ ก็ย่อมอาศัยความสัตย์สุจริตเป็นพื้นฐาน ท่านทั้งหลายจะออกไปรับราชการก็ดี หรือประกอบกิจการงานส่วนตัวก็ดี ขอให้มั่นอยู่ในธรรมทั้ง 3 ประการ คือ สุจริตต่อบ้านเมือง สุจริตต่อประชาชน และสุจริตต่อหน้าที่ ท่านจึงจะเป็นผู้ที่ควรแก่การสรรเสริญของมวลชนทั่วไป ข้าพเจ้าขอแสดงความยินดีต่อท่านทั้งหลายในเกียรติที่ท่านได้รับ ณ ท่ามกลางสันนิบาตนี้ และขอให้ท่านจงรำลึกถึงเกียรตินี้ และรักษาไว้ด้วยความสุจริต ให้สมกับพุทธภาษิตว่า “คนย่อมได้เกียรติ คือชื่อเสียงเพราะความสัตย์”... (ความตอนหนึ่งจากพระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 12 มิถุนายน 2497)...

nn กรณีตำรวจไทยไล่ตามจับตัว แป้ง นาโหนด หรือเชาวลิต ทองด้วง ผู้ต้องหาหลบหนีคดี แล้วตำรวจต้องคว้าน้ำเหลวแบบเหลวแล้วเหลวอีกจนน่าสมเพช สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพการทำงานของตำรวจไทยได้อย่างดี เรื่องนี้สาธารณชนวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างครึกโครม ล่าสุด นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตสส.พัทลุงหลายสมัย ออกมาวิจารณ์ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และอัยการสูงสุด โดยอ้างว่าคนพัทลุงเขารู้กันทั้งหมดว่าคดีนี้มีสายสนกลในอย่างไร แต่ผบ.ตร.กับอัยการสูงสุดกลับไม่รู้...

nn นิพิฏฐ์อ้างอีกว่า คนพัทลุงหลายคนรู้ว่าตำรวจและอัยการคนไหนเกี่ยวข้องกับคดีแป้ง นาโหนด และอ้างด้วยว่ารู้ไปถึงว่าตำรวจคนไหนรับเงินจากผู้หลบหนีคดีรายนี้ แล้วก็ยังบอกว่าคำอ้างของแป้ง นาโหนด ไม่ได้เป็นเรื่องเท็จไปเสียทั้งหมด โดยเฉพาะเรื่องที่ผู้หลบหนีคดีร้องขอความเป็นธรรม นิพิฏฐ์วิพากษ์ด้วยว่าตำรวจทำงานไม่เป็นเอกภาพ ไม่มีการข่าวที่ดี จึงตามจับตัวแป้ง นาโหนด ไม่ได้ แล้วก็วิพากษ์ไปยังรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยด้วยว่า ต้องเลือกผู้ว่าราชการจังหวัดให้เหมาะสมกับสถานการณ์ของจังหวัดพัทลุง ทั้งผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดพัทลุง ต้องทำงานประสานกัน ไม่ใช่ต่างคนต่างทำ ต่างคนต่างอยู่ เมื่อนิพิฏฐ์ออกมาบอกเช่นนี้ เลยมีตำรวจบางรายสรุปว่างานนี้ ตำรวจน่าจะต้องไปขอคำแนะนำการทำงานจากนิพิฏฐ์ แล้วดูต่อไปว่าคำแนะนำของนิพิฏฐ์จะทำให้จับตัวแป้ง นาโหนด ได้หรือไม่ แล้วฝากกระซิบถามนิพิฏฐ์ว่า ถ้ารู้ว่าตำรวจ และอัยการคนไหนรับเงินแป้ง นาโหนด ทำไมนิพิฏฐ์ไม่แจ้งความดำเนินคดี จะรออะไรอยู่หรือ...

nn พรรคประชาธิปัตย์จะมีหัวหน้าพรรคเป็นสตรีหรือไม่ก็ต้องรอดูการลงมติเลือกหัวหน้าพรรคในวันที่ 9 ธันวาคมนี้ หลังจากวทันยา บุนนาค นักการเมืองหน้าใหม่ของพรรคประชาธิปัตย์ ประกาศชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค หลังจากอ้ำๆ อึ้งๆ มานาน เพราะธรรมกรเคยถามไปก็ไม่ได้รับคำตอบชัดเจน แต่สังคมได้ข่าวชัดๆ มานานพอสมควรว่านราพัฒน์ แก้วทอง เปิดหน้าท้าชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคมาก่อน ก็ต้องดูว่าใครจะหนุนหลังวทันยาในเกมนี้ แต่สำหรับนราพัฒน์นั้นได้รับการหนุนหลังจากเฉลิมชัย ศรีอ่อน และกลุ่มของ เดชอิศม์ ขาวทอง ซึ่งสังกัดกลุ่มสส.ใต้กลุ่มหนึ่งของประชาธิปัตย์ แต่สส.ใต้กลุ่มนี้เป็นคนละกลุ่มกับกลุ่มบ้านใหญ่ปักษ์ใต้...

nn คอข่าวการเมืองที่ติดตามพรรคประชาธิปัตย์ทราบดีว่าเกิดความแตกแยกในพรรคอย่างค่อนข้างรุนแรง โดยปรากฏชัดในรูปความล้มเหลวการประชุมใหญ่วิสามัญของพรรค ถึงสองครั้งสองครา โดยความล้มเหลวครั้งที่ 2 เกิดขึ้นในการประชุมพรรคเมื่อเดือนสิงหาคม เมื่อการประชุมพรรคล่มสองครั้งติดต่อกัน ทำให้เฉลิมชัย รักษาการเลขาธิการพรรค ถึงกับฉุนขาด แล้วพา สส. ในกลุ่มของตนออกจากห้องประชุม แล้วเปิดฉากประณามผู้พยายามล้มการประชุมพรรค แต่ไม่ได้กล่าวชื่อตรงๆ...

nn ส่วนคำถามที่ว่า อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์จะมีโอกาสกลับมาเป็นหัวหน้าพรรคได้อีกครั้งหรือไม่นั้น มีคำตอบแว่วๆ ลอยลมมาจากคนในพรรค แต่ทว่าเป็นกลุ่ม สส. สังกัดเดชอิศม์ ว่าน่าจะยากมาก ยกเว้นจะมีปาฏิหาริย์บังเกิดขึ้น...

nn จับตาเฝ้าดูก็แล้วกันว่าการประชุมพรรคประชาธิปัตย์ วันที่ 9 ธันวาคมนี้ จะล้มเป็นครั้งที่สามหรือไม่ แล้วพรรคเก่าแก่พรรคนี้จะมีหัวหน้าพรรคคนใหม่ชื่ออะไร เป็นหญิงหรือชาย จะเป็นลูกหม้อของพรรค หรือเป็นคนหน้าใหม่ของพรรค อย่างไรก็ตาม ต้องไม่ลืมความจริงคือ ปัจจุบันพรรคประชาธิปัตย์มีสถานะเป็นฝ่ายค้าน แต่ไม่มีหัวหน้าพรรค ไม่มีเลขาธิการพรรค และไม่มีคณะผู้บริหารพรรค ในสภาวะแบบนี้ ก็จึงทำให้เกิดคำถามว่า แล้วทุกวันนี้คนของประชาธิปัตย์อยู่กันอย่างไร ใครนำใคร ใครตามใคร แล้วใครคือคนกำหนดทิศทางของพรรค...

nn เมื่อรัฐบาลชุดนี้ (จริงๆ ก็ทุกชุดนั่นแหละ) ประกาศหาเสียงทางการเมือง ว่าจะช่วยคนที่เป็นหนี้เป็นสินให้รอดพ้นจากการเป็นหนี้ที่จงใจก่อขึ้น โดยเน้นหนักไปที่กลุ่มลูกหนี้ที่เจอปัญหาดอกเบี้ยเงินกู้มหาโหด และเจ้าหนี้อำมหิต ซึ่งก็เข้าใจได้ว่าจำเป็นต้องช่วยลูกหนี้กลุ่มนี้ให้พ้นทุกข์ แต่ก็มีคำถามว่า แล้วเจ้าหนี้มหาโหดเหล่านั้นเขาไปบีบบังคับให้ลูกหนี้ต้องกู้ยืมเงินจากเขาหรือ ไม่ใช่เพราะว่าลูกหนี้ตั้งใจไปขอกู้จากเขาเอง หรอกหรือ แล้วก่อนจะกู้ ลูกหนี้ไม่รู้หรือว่าเจ้าหนี้เงินกู้จอมโหดคิดดอกเบี้ยโหดเพียงไหน...

nn จริงๆ ต้องยอมรับว่าลูกหนี้รู้ดี แต่ก็ยังตั้งใจกู้ เพราะไม่มีที่พึ่งที่อื่นอีกแล้ว จะไปกู้สส. และรัฐมนตรี ก็ไม่มีวันได้เงินอย่างแน่นอน จะไปกู้หัวคะแนนของพรรคการเมือง ก็หนีไม่พ้นเจอดอกเบี้ยโหดอีกนั่นแหละ จะไปกู้ธนาคาร ก็ไม่มีทางได้ เพราะไม่มีหลักทรัพย์ใดๆ ไปค้ำประกันเงินกู้ คำถามที่ลูกหนี้ต้องตอบให้ได้คือ รู้ใช่ไหมว่ากำลังเข้าไปขอกู้เงินจากผู้ให้กู้จอมโหด แล้วทำไมจึงยังพาตัวเข้าไปตกอยู่ในอันตราย ถามอีกทีนะ เจ้าหนี้เงินกู้จอมโหดเขาบังคับให้ไปกู้เขาหรือ ที่เขียนแบบนี้ไม่ได้เข้าข้างเจ้าหนี้หรือผู้ให้กู้จอมโหด แต่ถามเพราะต้องการย้ำว่าคนกู้รู้อยู่แล้วใช่ไหมว่าจะเจอปัญหาอะไร แล้วทำไมยังกระโดดเข้าไปในกองเพลิง...

nn เมื่อรัฐบาลสร้างภาพหาคะแนนนิยมว่าจะช่วยลูกหนี้แล้ว ก็มีเสียงเรียกร้องจากเจ้าหนี้ใจดี ที่ถูกลูกหนี้ชักดาบไม่ใช้หนี้ หนีหนี้ อมหนี้ กลุ่มเจ้าหนี้ใจดีถามว่าทำไมรัฐบาลไม่เหลียวแลพวกเขาบ้าง รัฐบาลรู้บ้างไหมว่าทุกวันนี้เจ้าหนี้ใจดีถูกลูกหนี้ชักดาบเงินกู้เป็นจำนวนมาก เจ้าหนี้ใจดีบางรายบอกว่าทวงหนี้จนอายลูกหนี้ แต่ลูกหนี้ก็ไม่รู้สึกสะทกสะท้านแต่ประการใด เพราะทวงเท่าไรก็ไม่ยอมจ่ายหนี้ ไม่ว่าจะพูดดี หรือพูดร้าย ก็ยังเจอลูกหนี้ชักดาบเป็นประจำ ดังนั้น จึงมีเสียงเรียกร้องจากเจ้าหนี้ใจดีขอให้รัฐบาลช่วยตามหนี้ให้ด้วย โดยเฉพาะลูกหนี้ที่ชอบอ้างว่า ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย ไม่อาย ไม่กลัว...

nn ส่วนลูกหนี้จำพวกครูที่ชอบกู้ตามสิทธิ์นั้น รัฐบาลควรจะต้องดัดนิสัยเสียบ้าง เวลากู้ไม่คิด แต่เวลาถูกทวงหนี้กลับโวยวาย อ้างว่าดอกแพง ไม่มีเงินเหลือใช้ซื้อข้าวกินในแต่ละวัน ก็ต้องถามพวกครูจอมกู้หนี้ว่า ทำไมก่อนกู้ไม่คิด กู้ไปแล้ว จะมาโวยวายทำไม ใครเขาบังคับให้กู้หรือ อย่าทำตัวเป็นคนหน้าไม่อายเลยนะ จำไว้ว่าเป็นหนี้ก็ต้องจ่ายหนี้ อย่าทำนิสัยเป็นหนี้แล้วชักดาบ...nn

ธรรมกร