เต็มไปด้วยสาระและข้อเท็จจริง คือ หนังสือพิมพ์แนวหน้าwww.naewna.com ทุกบรรทัด ตรงไป ตรงมา...
nn ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ กฎกระทรวง กำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษและวัตถุออกฤทธิ์ที่ให้สันนิษฐานว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ พ.ศ.2567 โดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 24 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ.2564 และมาตรา 107 วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายยาเสพติด...
nn ในกฎกระทรวงดังกล่าวมีชื่อยาเสพติดมากมายที่มีการกำหนดปริมาณโดยให้ถือว่าเป็นผู้เสพ แต่ที่เป็นที่สนใจโดยทั่วไปคือ เมทแอมเฟตามีน (methamphetamine หรือ metamfetamine) มีปริมาณไม่เกิน 5 หน่วยการใช้ หรือมีน้ำหนักสุทธิไม่เกิน 500 มิลลิกรัม หรือในกรณีที่เป็นเกล็ด ผง ผลึก มีน้ำหนักสุทธิไม่เกิน 100 มิลลิกรัม หรือให้ตัดจบตรงประเด็นคือ ยาบ้า 5 เม็ดให้เป็นผู้เสพ !!!...
nn ทั้งนี้ หลังจากที่กฎกระทรวงฯ ประกาศใช้แล้ว นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข และคณะ ก็ได้มีการแถลงข่าวชี้แจงเรื่องดังกล่าว โดย นพ.ชลน่าน ระบุว่า “การเสพยาเสพติดให้โทษ โดยเฉพาะเมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) หากไม่เกินปริมาณที่กฎหมายกำหนด คือ 5 เม็ด และไม่มีพฤติการณ์แวดล้อมที่ระบุว่าเป็นผู้ค้า ให้ถือเป็นผู้เสพต้องเข้ารับการบำบัด แต่ถ้ามีพฤติการณ์หรือสภาพแวดล้อมเชื่อมโยงได้ว่าเป็นผู้ค้า แม้เพียง 1 เม็ดก็ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย”...
nn และยังย้ำว่า การออกกฎกระทรวงครั้งนี้เป็นมติเอกฉันท์ร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อวางหลักเกณฑ์ในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดประเภทยาบ้า โดยผู้ที่มียาบ้าในครอบครองไม่เกิน 5 เม็ดให้สันนิษฐานว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ และถือเป็นผู้ป่วยที่ต้องนำไปบำบัดรักษาให้หาย...
nn แต่ทั้งนี้ขึ้นกับความสมัครใจของผู้นั้น ถ้าไม่สมัครใจรับการบำบัด ก็จะถูกดำเนินคดีข้อหา “ครอบครองเพื่อเสพ” ตาม มาตรา 164 ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ...
nn พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กล่าวว่า ป.ป.ส มีหน้าที่บูรณาการทั้งการบำบัด ฟื้นฟู สนับสนุน การบังคับใช้กฎหมาย และกำหนดนโยบาย ซึ่งรัฐบาลมีนโยบายแก้ไขปัญหายาเสพติด มติที่มีความเห็นร่วมกันเรื่องปริมาณการเสพและการครอบครองที่ออกมาแล้วนั้น ถือเป็นเอกฉันท์...
nn ทั้งนี้ การครอบครองยาเสพติดไม่ว่าจำนวนกี่เม็ด เจ้าหน้าที่ตำรวจจะพิจารณาจากพฤติกรรมและรายงานการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ด้วย การมี 1-2 เม็ดแล้วจะอ้างว่ามีไว้เพื่อเสพแต่เจ้าหน้าที่สืบสวนพบมีพฤติการณ์เป็นผู้ขายก็ต้องได้รับโทษ...
nn บิ๊กต่อ-พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก็ระบุว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับ ป.ป.ส. ดำเนินการป้องปรามและบังคับใช้กฎหมายมาโดยตลอด ซึ่งกฎกระทรวงดังกล่าว จะช่วยให้การจำแนกความผิดข้อหา “ครอบครองเพื่อเสพ” และข้อหา “ครอบครอง” มีความชัดเจนมากขึ้น...
nn ด้าน พ.ต.อ.อุเทพ นุ้ยพิน รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็ชี้แจงเพิ่มเติมว่า “ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลในสื่อสังคมออนไลน์ถึงประเด็นเรื่อง กฎหมายยาเสพติดฉบับใหม่ ผู้เสพ หรือผู้ครอบครองยาเสพติดไม่เกิน 5 เม็ด ไม่มีโทษอีกต่อไปนั้น เป็นการเผยแพร่ข้อมูลที่คลาดเคลื่อน เนื่องจากกฎกระทรวงฯ ยังกำหนดโทษผู้เสพตาม ป.ยาเสพติด มาตรา 104, 162มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ...
nn แต่หากผู้เสพสมัครใจเข้ารับการบำบัดรักษาและเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด และดำเนินการเข้ารับการบำบัดจนครบถ้วน ก็จะไม่มีความผิดตาม ป.ยาเสพติด มาตรา 113...
nn ทั้งนี้ บทลงโทษทางกฎหมายยังคงมีอยู่ แต่กฎหมายมีเจตนารมณ์จะช่วยเหลือให้เข้ารับบำบัดโดยไม่เอาผิดทางอาญา หรือการลดการเป็นอาชญากรรมของผู้เสพ (decriminalization) จึงมองผู้เสพ เป็นผู้ป่วย ใช้กระบวนการทางสาธารณสุขและสุขภาพในการแก้ไขปัญหาผู้เสพผู้ติด
ดังนั้น ผมขอเรียนประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบว่า การเสพยาเสพติดทุกชนิดประเภท การครอบครองยาเสพติดทุกชนิดประเภท ไม่ว่าจำนวนเท่าใดยังคงเป็นความผิดตามกฎหมาย ถูกจับกุม ดำเนินคดีได้...
nn “มือปราบ” ก็เข้าใจดีถึงปัญหายาเสพติด ที่ทำลายสังคมตั้งแต่ครอบครัวไปจนถึงประเทศชาติ ซึ่งมาตรการหนึ่งที่ใช้กันอยู่ก็คือ การเปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย เพราะวงจรผู้ค้ายาเสพติดหากต้องการให้ธุรกิจยังเดินหน้าต่อไปได้ จำต้องมีผู้เสพอยู่ในวงจร ...
nn หากมีการดึงผู้เสพออกจากวงจร จากเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยให้แรงจูงใจทั้งการให้เกียรติ การฝึกอาชีพ ฯลฯ ก็จะทำให้ผู้ค้าหมดหนทาง
ในการขายยาเสพติดได้...
nn แต่ถ้าหากใครอาศัยช่องโหว่ทางกฎหมายโดยอาจจะซื้อมาขายไป ถึงไม่เกิน 5 เม็ด แต่ถ้าขยายตัวเป็นผู้ค้ารายใหญ่แล้ว ก็จะต้องถูกดำเนินตามกฎหมาย และทรัพย์ที่ได้มาก็ต้องถูกยึดทรัพย์ให้ตกเป็นของแผ่นดินต่อไปด้วย...nn สวัสดีครับ
มือปราบ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี