l ตอนที่ 1 ฉันเริ่มจาก วันปีใหม่ไทย ๒๕๖๗ ฉันทำอะไรไปบ้าง? ถึงวันนี้ วันปีใหม่ไทย 13 14 15 เมษายน 2567 ก็กลายเป็นอดีต เป็นเมื่อวานไปแล้ว
@ ฉันจึงเขียนว่า
เมื่อวาน “วันนี้” พรุ่งนี้ : สำคัญ
วันวานฉันยังเด็กเป็น “ด.ช.”
โตขึ้นเป็น “นาย” ผ่านมาเยอะ
วันนี้เป็นชราชนแข็งอยู่
พรุ่งนี้อยู่อีกกี่ปี จึงจรจาก
วันนี้ขอทำสุดใจด้วยสุขเอย
@ เมื่อวานของฉัน เริ่มจากฉันก่อเกิด เป็นเด็กชาย เป็นนาย เป็น อะไร เยอะแยะแต่ สิ่งสำคัญ ฉันคิด และทำอะไรให้กับตัวเอง พ่อแม่ พี่น้อง ครอบครัว เพื่อนมิตร บ้านเมืองเพื่อนสนิท น้องรักที่เชื่อมั่น และตามฉันมาตลอด สรุปคล้ายกันว่า “อาจารย์ชัยวัฒน์ พี่จิ๊บ” เป็นคนไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน ฟังดูแล้ว เหมือนยกยอ ยกย่องสูงเหลือเกิน แต่ก็เป็นความจริงชีวิตของคนแต่ละคนมีแบบฉบับของตนเอง ไม่เหมือนใครอาจจะดูคล้ายๆ กัน แต่ไม่เหมือนกันเพราะ แม้แต่ฝาแฝด ก็ยังต่างกัน
ข้อสำคัญ คือ “ตัวเรา” คิดและทำอะไร เพื่อใคร อย่างไร
l งานสำคัญ ที่เริ่มมีมากขึ้น เมื่อเวลาเดินไปข้างหน้า นำฉันเข้าสู่วัยชรา
เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นธรรมดาของชีวิตในยามเฒ่าชรา ไปงานศพส่งเพื่อนมิตรไปสู่สุคติเป็นว่าเล่น
@ เดือนเมษายนนี้ มีมาหลายราย ในส่วนที่ฉันรู้จัก และเคารพ
-งานใหญ่ ที่ธรรมดา เรียบง่าย คือ “สมณะพ่อครูโพธิรักษ์ละสังขาร คืนสู่ธาตุธรรม” เป็นงานใหญ่ของบ้านเมือง ที่นานๆ ที จะมีปรากฏขึ้น ที่มีผู้คน เป็นคนมีศีล มีใจงดงาม จำนวนนับพันๆ คน เข้ามาร่วมพิธี ด้วยความสงบนิ่ง รวมทั้งฝ่ายต้อนรับ ที่ทำหน้าที่ “บริการด้วยใจที่ใหญ่”
-งานเพื่อนขุน ชาญวิทย์ คล่องพิทยากุล เพื่อนวิศวะจุฬาฯ ๒๕๑๐ ที่ได้เห็น “น้ำใจของเพื่อนมิตร” ที่ช่วยดูแลเพื่อนที่ป่วยไข้ รวมทั้งครอบครัวของเขา ได้ฟัง คำพูดจาก “ภรรยา” ที่กล่าวขอบคุณเพื่อนและแขกผู้มีเกียรติทุกคนที่มาร่วมฯ
-งานดร.สุณี ศรีอรทัยกุล เพื่อนชาวสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติรุ่นแรกงานใหญ่ที่ ในหลวงและพระราชินี พระราชทานน้ำหลวงอาบศพและพวงมาลาฯ ร่วมงานรวมทั้งประธานาธิบดีและพระราชินีแห่งสวีเดนฯ
-งานโกเหลียง เกรียงศักดิ์ วนชยางกุล ผู้เป็นเพื่อนจุฬาฯรุ่น ๒๕๑๐ และญาติมิตรที่มีผลงานในการทำงานเทศบาลลำปางได้ดี เป็นที่ยอมรับฯ
-เทิดภูมิ ใจดี ผู้นำกรรมกร ที่มีบทบาทในยุคต่อเนื่องจาก ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖ ที่ผมได้มีโอกาสช่วยแนะนำ เรื่องการรักษาเปลี่ยนไต เมื่อหลายปีก่อนการมาเยี่ยมเยือนในช่วง ระยะสุดท้ายของชีวิต ทั้งที่โรงพยาบาลและที่วัดฯ พาเพื่อนมิตรมาเยี่ยม และส่งข่าวคราวให้เพื่อนอย่างต่อเนื่องฯ
ฯลฯ
@ คนที่จากไปทางประวัติศาสตร์ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖
คือ ๗๓ วีรชน ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖
ในหลวง ร.๙ เสด็จฯไปพระราชทานเพลิงศพ ๑๓-๑๕ ตุลาคม ๒๕๑๗ ณ ท้องสนามหลวง
เป็นงานที่ปลาบปลื้มและประทับใจยิ่ง
ที่ได้เห็น ในหลวง ร.๙ ทรงให้ความสำคัญกับ “วีรชนสามัญชน”
เพื่อน ๕ คน ใน ๑๓ กบฏเรียกร้องรัฐธรรมนูญ
๑.อาจารย์ทวี หมื่นนิกร
26 สิงหาคม 2473-25 เมษายน 2533
๒.พี่ไขแสง สุกใส
10 กันยายน 2472-20 มีนาคม 2543
๓.อาจารย์นพพร สุวรรณพานิช
6 ธันวาคม 2489-17 พฤศจิกายน 2553
๔.พี่ประพันธ์ศักดิ์ กมลเพ็ชร
7 ธันวาคม 2481-9 มกราคม 2563
๕.อ๋า ธัญญา ชุนชฎาธาร
1 มิถุนายน 2495 (จริง 2493)-23 กรกฎาคม 2565
สังเกตไหม ๔ คนแรก ที่ระยะห่างกัน ๑๐ ปี แต่มาถึงคนที่ ๕ ห่างกัน ๒ ปี ส่วนที่เหลือ ต้องให้ความสำคัญ กับการรักษาสุขภาพ กายและใจ เพราะคงเหลือเวลาที่จะทำงานตอบแทนคุณแผ่นดินไม่มากแล้ว
@ ปู่จิ๊บ ให้ความสำคัญ ต่อเพื่อนมิตรที่จากไป
๑.เสียใจที่เพื่อนจากไปก่อน รวมทั้งครอบครัวเพื่อนที่จากไป
๒.ส่งข่าวสารให้กับเพื่อนมิตรทราบ เท่าที่ทำได้
๓.ไปร่วมส่งเพื่อนไปสู่สุคติ ในวันฌาปนกิจศพ ที่วัดฯ
• มีเรื่องสำคัญไม่น้อยก่อนจาก
เพื่อนส่วนหนึ่ง เจ็บป่วยไข้ นอนติดเตียง ขาดเงินทองรายได้มารักษาเป็นสภาพความทุกข์ของตัว และครอบครัวการช่วยเพื่อนในยามนี้ มีคุณค่ายิ่งเป็นการช่วยลดทุกข์ ไปได้ในระดับหนึ่งก่อนเพื่อนหมดทุกข์ ลาจากไปสู่ธรรมชาติ
@ ปู่จิ๊บ เห็นความสำคัญ และทำในเรื่องนี้ ทั้งที่ไม่มีรายได้มายาวนาน
แต่ได้ลงคิดลงแรง เขียนหนังสือที่มีสาระคุณค่าต่อชีวิตออกมาจำหน่าย ด้วยตนเอง เพื่อให้ได้รายได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย (การฝากสายส่งขาย ต้องถูกหักค่าใช้จ่ายร่วม ๕๐% ใช้เวลานานกว่าจะได้เงิน) ยอมเหนื่อย จัดการเอง ห่อส่งเอง และใช้การโทรขอการสนับสนุนจากพี่เพื่อนมิตรที่มีกำลังซึ่งครั้งที่ผ่านมา ในวาระครบรอบ ๗๐ ปี ได้เงินสนับสนุนมา ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท ตั้งเป็นกองทุนเพื่อนช่วยเพื่อน ๑๐๐ กองทุน กองทุนละ ๑๐,๐๐๐ บาท ช่วยเพื่อนทุกข์ไปได้ ๑๐๐ ราย ภายใน ๕ ปี
@ ปีนี้ ได้ลงคิดลงแรง เขียนเรียบเรียง “หนังสือ๕๐ ปี ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖”
ใช้เวลาหลายปี หลายเดือน พบปะผู้คนที่เกี่ยวข้องที่รับรู้เหตุการณ์ตรงอ้อมหลายฝ่ายศึกษา ข้อมูล จากหนังสือต่างๆ หลากหลาย ที่มีผู้เขียนลงสื่อและพิมพ์ออกมาหนังสือ ในโอกาสงานครบ ๕๐ ปี ๑๔ ตุลาคม ๒๖๕๑๖ ได้รับข้อมูล จากศูนย์รวบรวมข้อมูลของเหตุการณ์ จาก นสพ.เก่าๆ ในยุคนั้นและภาพจากที่ต่างๆ โดยเฉพาะจาก มูลนิธิ ๑๔ ตุลา ฯลฯประมาณการว่า คงได้ข้อมูลประมาณ ๗๐% และหวังว่า “คงมีนักวิชาการ ผู้นำนักศึกษาประชาชน ฯลฯ” ไปศึกษาต่อ
หนังสือประวัติศาสตร์ เล่มนี้ คงจะออกมาสู่สายตาประชาชน ประมาณต้นเดือนพฤษภาคมนี้ ช่วยกับซื้อช่วยกันสนับสนุนได้ความรู้ความจริงเหตุการณ์ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖ที่จะได้นำไปต่อยอดเพื่อพัฒนาสังคมได้ทุกทางและการได้ร่วมกันทำบุญ ช่วยเหลือเพื่อนมิตรที่ทุกข์และลำบาก ก่อนจากไปสู่สุคติ
l การช่วยเหลือคน ด้วยการให้ ให้แก่คนที่ทุกข์ลำบาก เป็นธรรมชั้นสูง
สูงสุด คือ “การให้ความรู้ ความจริง” ให้คนรู้จักตนเอง เข้าใจตนเองรู้ปัญหา และหนทางแก้ไข เพื่อให้พึ่งตนเอง พัฒนาตนจนเป็นอิสระคิดเองทำเองได้ และเมื่อช่วยตนเองให้พึ่งตนเองได้แล้วจะมีความคิดที่ถูกต้องด้วยตนเอง คือ การไปช่วยเหลือคนอื่นต่อ
@ ผู้ที่ทำได้ผลจริง ต้องเป็นผู้มีความรู้จริง รู้แท้มีศักยภาพสูง ทำให้คนเชื่อถือ และปฏิบัติตามได้เช่น องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า หรือ ฯลฯ
@ ส่วนเรา มีศักยภาพจำกัด ก็ทำหน้าที่ได้ตามสภาพทำเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่เราทำได้ไม่ยาก
เช่น
๑.ส่งข่าวสาร ข้อมูลที่มีสาระ เป็นจริง ไปให้เพื่อนมิตร และผู้สนใจเป็นประจำทุกเช้า และเมื่อมีโอกาสโดยรัก เคารพความจริง เคารพผู้อื่น เคารพตนเองคือ เราต้องศึกษา จนแน่ใจในระดับหนึ่งว่า “เป็นความจริง” จึงส่งต่อ
๒.ช่วยเหลือเพื่อนมิตรที่ทุกข์ ตามที่กล่าวมาและทำตามสภาพ
๓.ช่วยให้กำลังใจ แก่คนที่เราพบเห็น และมีปัญหามีทุกข์
๔.ง่ายๆ ช่วยซื้อของ คนขายที่จน หรือให้เขาสิ่งของที่เรามี แก่คนที่ต้องการ โดยตรง
๕.ทำตัว หรือปรับตัว ทั้งกายและใจ มองคนด้านบวก สร้างสรรค์
ฯลฯ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี