แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา...nn การพัฒนาประเทศ จำเป็นต้องทำตามลำดับขั้น ต้องสร้างพื้นฐานคือความพอมี พอกิน พอใช้ ของประชาชนส่วนใหญ่เป็นเบื้องต้นก่อน โดยใช้วิธีการและอุปกรณ์ที่ประหยัด แต่ถูกต้องตามหลักวิชา เมื่อได้พื้นฐานมั่นคงพร้อมพอควรและปฏิบัติได้แล้ว จึงค่อยสร้างค่อยเสริมความเจริญและฐานะเศรษฐกิจขั้นที่สูงขึ้นโดยลำดับต่อไป...(ความตอนหนึ่งจากพระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระราชทานแก่นิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 18 กรกฎาคม 2517)...
nn สังคมไทยได้ทราบกันแล้วว่าอัยการสูงสุดสั่งฟ้องคดีนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร มีความผิดฐานกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และผิดพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 3 และ 14 (3) และพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2560 มาตรา 8...
nn แต่นักโทษชายทักษิณก็ใช้การเลี่ยงไปพบอัยการสูงสุด โดยอ้างว่าป่วยเพราะเป็นโรคโควิด-19 แล้วให้ทนายไปขอเลื่อนการเข้าฟังคำสั่งของอัยการสูงสุด โดยขอเลื่อนไปเป็นวันที่ 25 มิถุนายน พร้อมกับแนบใบรับรองแพทย์ว่าป่วยจริง แต่อัยการสั่งให้นักโทษชายทักษิณต้องเข้าพบอัยการสูงสุดในวันที่ 18 มิถุนายน เพื่อยื่นฟ้องศาลต่อไป ...
nn น่าประหลาดมากที่เจ้าหน้าที่ของอัยการสูงสุดไม่ได้เปิดเผยว่าแพทย์จากโรงพยาบาลใดเป็นผู้ออกใบรับรองแพทย์ให้นักโทษชายทักษิณ แต่ในการแถลงของอัยการสูงสุดบอกว่าแพทย์ให้พักดูอาการถึงเพียงวันที่ 3 มิถุนายน แต่ทำไมนักโทษชายทักษิณจะขอเข้าพบอัยการสูงสุดในวันที่ 25 มิถุนายน แล้วทำไมอัยการสูงสุดจึงใจดีอนุญาตให้นักโทษชายทักษิณเข้ารายงานตัววันที่ 18 มิถุนายน คำถามคือในเมื่อแพทย์บอกว่าพักถึงวันที่ 3 มิถุนายน แล้วมีเหตุใดต้องขยายระยะเวลาการเข้าพบอัยการสูงสุดเป็นวันที่ 18 มิถุนายน ทำไมไม่นัดให้ไปพบอัยการวันที่ 4 มิถุนายน...
nn สำหรับใครก็ตามที่ได้ฟังคำพูดของนักโทษชายทักษิณที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อฯ เกาหลีใต้ เมื่อครั้งที่นักโทษชายรายนี้ยังหลบหนีคดีอาญา ก็จะบอกได้ตรงกันว่าสามหาวเป็นที่สุด จาบจ้วงล่วงละเมิดพระมหากษัตริย์อย่างชัดเจน และหากใครก็ตามที่ติดตามฟังคำสัมภาษณ์ของนักโทษชายทักษิณทุกครั้ง ไม่ว่าจะให้สัมภาษณ์สื่อฯ เกาหลีใต้ หรือสื่อฯ ตะวันตกก็ตาม ก็จะต้องบอกตรงกันว่านักโทษชายทักษิณจงใจล่วงละเมิด และจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยเป็นประจำ ดังนั้นจึงไม่ต้องถามอีกต่อไปว่านักโทษชายทักษิณจงใจหมิ่นพระบรมเดชานุภาพหรือไม่...
nn ขอเตือนความจำคนไทยที่อาจหลงลืมเรื่องราวต่างๆ นานา ที่นักโทษชายทักษิณได้เคยกระทำไว้คือ เขาผู้นี้หนีคดีอาญาไปจากประเทศไทยกว่า 10 ปีระหว่างหลบหนีคดีอาญานั้น เขาได้พยายามก่อสถานการณ์ต่างๆ โดยการใช้รูปแบบการโฆษณาเชิญชวน และปลุกระดมผ่านระบบการสื่อสารทางไกลผ่านสารพัดวิธี เช่น skype, club house, video conference, โทรศัพท์ เป็นต้น...
nn สิ่งหนึ่งที่คนไทยจำได้ไม่มีวันลืมคือ นักโทษชายทักษิณเรียกร้องให้คนไทยลุกขึ้นเดินขบวนต่อต้านโดยมีวัตถุประสงค์ทางการเมืองเพื่อตัวของเขาเอง มีประโยคหนึ่งที่เขากล่าวคือ หากมีเสียงปืนนัดแรกดังขึ้น เขาจะกลับมาเดินนำหน้าการเดินขบวน แต่ทั้งหมดก็เป็นเพียงโฆษณาชวนเชื่อเท่านั้น จนกระทั่ง 22 สิงหาคม 2566 เขากลับประเทศไทย โดยก่อนกลับเขาบอกว่าเขาจะกลับมาเลี้ยงหลาน เขาจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง...
nn นักโทษชายทักษิณ มีความผิดในคดีต่างๆ 3 คดี ถูกพิพากษาให้ต้องรับโทษรวม 8 ปี ตามคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และได้รับพระราชทานอภัยลดโทษ เพราะขอพระราชทานอภัยโทษโดยทูลเกล้าฯ ถวายฎีกา จึงเหลือโทษจำคุกเพียง 1 ปี แต่สุดท้ายแล้ว สังคมไทยไม่เคยเห็นว่านักโทษชายทักษิณต้องโทษถูกคุมขังในคุกแม้แต่เพียงวันเดียว แถมยังได้รับการพักโทษแบบสุดมหัศจรรย์ แล้วหลังจากได้รับการพักโทษ ก็พบว่านักโทษชายทักษิณแสดงอิทธิฤทธิ์ทางการเมืองแบบไม่สำนึกแม้แต่น้อยว่าตนเองยังมีสถานภาพนักโทษ...
nn วิษณุ เครืองาม เจ้าของฉายาเนติบริกร ซึ่งนักข่าวสายทำเนียบรัฐบาลตั้งให้เมื่อหลายปีที่ผ่านมา บัดนี้ แม้ร่างกายของวิษณุจะไม่ค่อยแข็งแรงมากนัก เพราะมีโรคภัยรุมเร้า แต่ถึงกระนั้นชื่อของวิษณุในด้านการเมืองก็ยังไม่ถูกลบหายไปล่าสุด วิษณุรับเป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมายให้กับเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ผู้ที่สาธารณชนวิพากษ์ตรงกันว่า เป็นนายกรัฐมนตรีโดยตำแหน่ง แต่ไม่น่าจะมีอำนาจบริหารงานโดยตรง วันนี้ ยามนี้เศรษฐาต้องกลับไปพึ่งวิษณุ หลังจากตกเป็นจำเลยหลังจากถูก สว. 40 คนเข้าชื่อร่วมกันแล้วร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ให้ถอดถอนเศรษฐาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพราะมีข้อด่างพร้อยเรื่องการแต่งตั้ง พิชิต ชื่นบาน ให้รับตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี...
nn อันที่จริง เศรษฐาเคยวิพากษ์วิษณุเมื่อครั้งที่วิษณุยังทำหน้าที่เนติบริกรให้กับรัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยใช้คำวิพากษ์ทำนองว่าไร้ยางอาย แต่มาบัดนี้ สาธารณชนก็กลับพบว่าผู้ที่วิพากษ์วิษณุอย่างรุนแรง กลับต้องมาขอใช้บริการจากคนที่เศรษฐาเคยวิพากษ์ไว้อย่างรุนแรง เมื่อการณ์กลับเป็นแบบนี้ ก็เลยทำให้เกิดคำถามว่า ระหว่างผู้ที่เคยวิพากษ์วิษณุประมาณว่าไร้ยางอาย ตกลงแล้วคนที่เคยวิพากษ์วิษณุนั้นมียางอายบ้างหรือไม่ หรือว่าไม่รู้จักว่ายางอายคืออะไร...
nn อย่างไรก็ตาม อย่าลืมว่าวิษณุเคยทำงานให้กับรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร มาก่อน แล้วเมื่อใกล้ถึงช่วงที่รัฐบาลทักษิณจะถูกโค่นด้วยการทำรัฐประหารโดยสนธิ บุญยรัตกลิน หรือบิ๊กบัง เมื่อปี 2549 ก็ปรากฏว่าวิษณุชิงลาออกจากการทำงานให้รัฐบาลทักษิณแบบราวกับว่ามีพรายกระซิบให้รีบออกไปเสียก่อน แล้วก็ต้องไม่ลืมว่าวิษณุนั้นทำงานการเมืองให้กับรัฐบาลต่างๆ มาแล้ว 13 ชุด โดยรับใช้นายกรัฐมนตรีมาแล้ว 9 คน คือชาติชาย ชุณหะวัณ อานันท์ ปันยารชุน สุจินดา คราประยูร ชวน หลีกภัย บรรหาร ศิลปอาชา ชวลิต ยงใจยุทธ ทักษิณ ชินวัตร ประยุทธ์ จันทร์โอชา และเศรษฐา ทวีสิน มาบัดนี้วิษณุรับปากจะเข้าไปช่วยรัฐบาลเศรษฐา ก็ทำให้มีเสียงวิพากษ์ว่า เขาจะเข้าไปประคับประคองให้รัฐบาลเศรษฐาอยู่ในตำแหน่งได้อีกยาวนาน...
nn คอการเมืองไทยเชื่อตรงกันว่าการกลับเข้าทำเนียบรัฐบาลของวิษณุในครั้งนี้ ไม่ได้เกิดมาจากความสนิทสนมกลมเกลียวโดยตรงระหว่างเศรษฐากับวิษณุ แต่มาจากตัวกลางรายหนึ่งที่ดึงวิษณุไปหาเศรษฐา โดยเบื้องต้นให้เศรษฐาเล่นเกมว่าไปขอพบวิษณุก่อน...
nn มีข่าวเล่าว่าแรกเริ่มนั้นเศรษฐาจะตั้งวิษณุเป็นรองนายกรัฐมนตรี ให้ดูแลด้านกฎหมาย แต่วิษณุไม่รับ โดยบอกว่าขอรับเพียงตำแหน่งที่ปรึกษาสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี โดยก่อนที่จะตกลงกันในตำแหน่งนั้น ก็มีข่าวว่าเศรษฐาจะให้วิษณุรับตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี แต่วิษณุก็ยังคงปฏิเสธ โดยยืนยันว่าขอเพียงตำแหน่งที่ปรึกษาสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี...
nn รอดูกันต่อไปว่า เมื่อเศรษฐาได้เนติบริกรเข้าไปช่วยงานแล้ว เศรษฐาจะรั้งตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไว้ได้ยาวนานสักแค่ไหน แล้วเรื่องราวต่างๆ ที่เศรษฐาไม่ค่อยได้รับความร่วมมือที่ดีจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา จะเปลี่ยนเป็นหวานชื่นรื่นรมย์มากกว่าเดิมหรือไม่ แต่ก็ต้องจับตาดูกันด้วยว่าวันใดที่วิษณุจะโบกมืออำลาจากเศรษฐา หากวันนั้นมาถึง ก็หมายความว่าชะตาของเศรษฐาในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้ขาดลงแล้ว...nn
ธรรมกร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี