วันเสาร์ ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
อาณาจักรอิสราเอลโบราณที่สร้างใน “ดินแดนคำมั่นสัญญาจากพระเจ้า (Philistia)” แท้จริงก็คือ “ดินแดนปาเลสไตน์” ในปัจจุบัน ซึ่งมีพื้นที่มากกว่าดินแดน ณ วันนี้ถึง 5 เท่า ซึ่งขณะนั้นพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลในตะวันออกกลาง มีอาณาจักรเกิดขึ้น 7 อาณาจักรด้วยกัน คือ
“1.อาณาจักรฟินิเซีย 2.อาณาจักรอัสซีเรีย 3.อาณาจักรเปอร์เซีย 4.อาณาจักรอัคคาเดีย 5.อาณาจักรแคลเดีย 6.อาณาจักรอาระเบีย และ 7.อาณาจักรอิสราเอล หรืออาณาจักรฮิบรู”
หลังจากกษัตริย์โซโลมอนแห่งอาณาจักรฮิบรู หรืออาณาจักรอิสราเอลสิ้นพระชนม์ อาณาจักรอิสราเอล หรืออาณาจักรปาเลสไตน์ก็เกิดการ “แตกแยก” อย่างรุนแรง จนแตกแยกออกเป็นสองประเทศ
“ประเทศฝ่ายเหนือ” เรียกตัวเองเป็น “ประเทศอิสราเอล” ในขณะที่ “ประเทศฝ่ายใต้” เรียกเป็น “ประเทศยูดาห์” โดยยิวทั้งสองประเทศเกิดความขัดแย้งกันอย่างรุนแรงถึงขั้นรบราฆ่าฟันกันเองอย่างยาวนาน
ในที่สุด “ประเทศอิสราเอลที่เป็นยิวฝ่ายเหนือ” ก็ถูกกองทัพ “อัสซีเรีย” ยึดเป็นเมืองขึ้น (อาณาจักรอัสซีเรียสร้างขึ้นระหว่าง 1900 ปีถึง 539 ปีก่อนค.ศ.) ในปี 730 ปีก่อนค.ศ.และ “ประเทศยูดาห์ที่เป็นยิวฝ่ายใต้” ก็ถูกอัสซีเรียยึดครองในปี 701 ก่อนค.ศ.ทำให้อาณาจักรยิวที่สร้างขึ้นก่อนค.ศ.1200 ปีกลายเป็นเมืองขึ้นอัสซีเรียปกครองอย่างเบ็ดเสร็จ
ขณะที่อัสซีเรียยึดอาณาจักรอิสราเอลอยู่นั้น ปรากฏว่า “อาณาจักรเปอร์เซีย (อิหร่าน)” ที่ก่อตั้งขึ้น 1,000 ปีก่อนค.ศ.ได้กลายเป็นประเทศมหาอำนาจขึ้นมาใน“ยุคพระเจ้าไซรัสมหาราช” ตั้งแต่ปี 560 ก่อนค.ศ.และได้โค่นล้มอาณาจักรอัสซีเรีย
จึงไม่น่าแปลกใจที่อาณาจักรอิสราเอลได้กลายเป็นเมืองขึ้นของอาณาจักรเปอร์เซียด้วย เหมือนชาติอื่นๆ ละแวกนั้นที่ถูกไล่ล่าโดยเปอร์เซีย
แต่แล้วอาณาจักรเปอร์เซียก็ถูกกษัตริย์กรีกได้แก่ “อเล็กซานเดอร์มหาราช”ดับรัศมีความยิ่งใหญ่ในปี 313 ก่อนค.ศ.
สรุปแล้วอาณาจักรอิสราเอลที่ตั้งขึ้น 1,200 ปีก่อนค.ศ.นับแต่ปี 730 ก่อนค.ศ.เป็นต้นมาก็ตกเป็นเมืองขึ้นของอัสซีเรียของเปอร์เซียและกรีกตามลำดับ รวมเวลากว่า 300 ปี
“หลังจากอเล็กซานเดอร์สวรรคต อิสราเอลก็ตกเป็นเมืองขึ้นของอียิปต์ในราชวงศ์ปโตเลมี โดยอียิปต์ปกครองอิสราเอลแบบหลวมๆ ปล่อยให้มีเสรีภาพและอิสรภาพเกือบทุกด้าน”
แต่แล้วยิวก็ต้องมาพบกับ “ชะตากรรมอันเลวร้าย” อีกครั้ง “เมื่ออาณาจักรโรมันมีอำนาจสูงสุด” ขึ้นมาจนเป็นมหาอำนาจโลกครอบครองดินแดนทั่วยุโรป แอฟริกาเหนือและเอเชียไมเนอร์ และเข้ายึดอิสราเอลในปีค.ศ.66
คราวนี้ยิวสู้ตาย แต่ก็เหมือนแมงเม่าบินเข้ากองไฟ เพราะโรมันเกรียงไกรเกินกว่าชาติใดจะต้านไหว สงครามครั้งนั้นโรมันฆ่ายิวตายไปกว่า 600,000 ราย
ดังนั้น “ฮิตเลอร์” ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ยิวตายไปกว่า 6 ล้านคนในสงครามโลกครั้งที่ 2 จึง “ไม่ใช่รายแรกของโลก” ที่ฆ่ายิวตายไปเป็นจำนวนมาก แต่เป็น “โรมัน” ต่างหาก
ยังมีต่อฉบับหน้า
กมลศักดิ์ ตั้งธรรมนิยม

'อ.เจษฎ์'มาเอง! เปิด7ข้อเคลียร์ความเชื่อผิดๆปมดื่มนมไทย เปิดวาร์ปนมไทยที่เป็นนมโคแท้
'ปราชญ์ สามสี'ฟาด! 'พรรคส้ม' ใช้ 'สองมาตรฐาน' โจมตีกองทัพ แต่ปัดรับผิดคดีในพรรค
ผีตายยาก!เดอ ลิกต์ โขกทดเจ็บบุกแบ่งแต้มไก่
'กัน จอมพลัง' ควงลูกเมียเปิดใจน้ำตาซึม เผยความผิดพลาด เอาเวลาครอบครัวไปช่วยคนอื่น
'กัมพูชา'ขยับแรง! บุกทลาย2รังใหญ่แก๊งสแกมเมอร์ รวบผู้ต้องหากว่า600คนส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี