วันศุกร์ ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2568
การชิงชัยเป็นประธานาธิบดี คนที่ 47 ของสหรัฐอเมริการะหว่าง “กมลา แฮร์ริส” วัย 60 ปี แห่งพรรคเดโมแครต กับ “โดนัลด์ ทรัมป์” วัย 78 ปี แห่งพรรครีพับลิกันนั้น แม้คะแนนจะยังไม่ประกาศออกมาอย่างเป็นทางการแต่ชาวบ้าน ชาวเมือง และสื่อทั้งหลายทั่วโลกต่างก็รู้แล้วว่า “ทรัมป์ชนะ”
ทรัมป์ชนะทั้งระบบ Electoral Vote และชนะทั้งระบบ Popular Vote แบบ “ลอยลำ” ไม่มีพลิกผันจน “ช็อกโลก”
โดยการเลือกผู้นำอินทรีหัวขาวครั้งนี้ ไม่มี “ฝ่ายแพ้” ยกมวลชนออกมาประท้วง ต่อต้าน และกล่าวหาว่า “โกงเลือกตั้ง” และทำการ “หักดิบ” ด้วยการยกกำลังเข้ายึดสภา เหมือนกับครั้งที่ “ทรัมป์ปากจู๋ พ่ายแพ้การเลือกตั้ง เมื่อปี 2020”
ดูเหมือนสื่อทั้งหลายต่างได้เชิญกูรูทางการเมืองมาออกรายการอย่าง “สุดกระหน่ำ” เพื่อเจาะลึกว่า “อะไรทำให้ทรัมป์ชนะ?” และ “เหตุไฉนแฮร์ริสจึงพ่ายแพ้?”
นอกจากนั้น ก็ได้สร้างสีสันให้กูรูทั้งหลายวิเคราะห์ว่า “ทรัมป์ขึ้นมาเป็นเบอร์ 1ครั้งนี้ สงครามรัสเซียกับยูเครน จบหรือไม่? จบเร็วตามที่ทรัมป์เคยโม้หรือเปล่า?”
“ส่วนสงครามยิวกับฮามาสและนักรบกลุ่มอื่นๆ ในตะวันออกกลางนั้น จะจบแบบไหน? ลุงเน ไซออนิสต์ที่มีวิญญาณฮิตเลอร์ขี่คอเกาะหลังจะงอแงระดับไหน?”
นอกจากนั้น สื่อบางสำนัก ยังยิงคำถามใส่กูรูที่มาออกรายการว่า “สงครามการค้ารอบใหม่ของทรัมป์จอมราวี จะต่อต้านจีนอย่างดุเดือด ดุดัน และดุฉกรรจ์มากกว่าสงครามการค้ารอบแรกหรือไม่?”
ในบรรดาข่าวสารเกี่ยวกับ “ทรัมป์ชนะเลือกตั้ง” กลับไม่มีใครถามถึง การสู้ระหว่างชายและหญิง อนาคตข้างหน้าหญิงจะชนะชายได้หรือไม่? ทำไมชาวอเมริกันยังไม่เปิดโอกาสให้ผู้หญิงเป็นผู้นำเบอร์ 1?
กรณีนี้ ดูเหมือน “หนอนหนังสือ” ที่ขยันอ่านนวนิยายของชาวอเมริกันอย่างสุดกระหน่ำ และ “นักดูหนัง” ที่เป็น “แฟนพันธุ์แท้” ของหนังคาวบอยชักปืนไวทุกเรื่อง ต่างออกมาตอบแทนดังนี้
ประวัติศาสตร์การสร้างประเทศสหรัฐอเมริกานั้น “มาจากปืน” โดยนักสู้ผู้ขยันใช้ “ปืนพูด” ล้วนเป็น “ผู้ชายที่มีลูกกลมๆ ห้อย” ทั้งสิ้น ต่างเป็น “แรมโบ้ จังโก้ริงโก้และเฟอร์นานโด ซานโจ้” ที่ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ผิวสีทองแดงที่เป็นเจ้าของแผ่นดินอย่างสุดโหดและสุดมัน โดยมี “ผู้หญิง” เป็นแม่บ้าน หอบลูกอุ้มหลานให้กำลังใจสามีที่ “เก่งฉกาจ ดุฉกรรจ์”
แม้ผู้หญิงจะเป็น “สิ่งมีค่า” ของชายชาวอเมริกัน แต่ก็เป็น “เพศอ่อนแอ” ที่จะต้องได้รับการ “ปกป้อง” มาตลอดอย่างยาวนาน
ดังนั้น ในสังคมมะริกัน จึงยังไม่มั่นใจจะให้ผู้หญิงขึ้นมาเป็น “ผู้นำเบอร์ 1” ที่สามารถทำหน้าที่เป็น “อินทรีผงาดฟ้า” สุดแข็งแกร่ง “สมศักดิ์ศรีมหาอำนาจโลก”ได้หรือไม่?
ความเชื่อที่ฝังใจลึกๆ โดยไม่บอกใครว่า “ผู้ชายเท่านั้นที่จะทำให้สหรัฐอเมริกาเป็นตำรวจโลกที่ยิ่งใหญ่” ยังขี่คอเกาะหลังชาวอเมริกันตลอดมา
ดังนั้น หญิงอเมริกันที่สุดเก่ง สุดแกร่ง สุดเจ๋งที่จะเป็นเบอร์ 1 ได้คงต้อง“รอวัน”ที่ชาวอเมริกันจะ “ทำใจยอมรับ” และมีความเปลี่ยนแปลงตามมา
แล้ววันนั้น จะเป็นวันที่สหรัฐอเมริกา มีประธานาธิบดีเป็นหญิงคนแรก

สถาปนา สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมพระนราธิวาสราชนครินทร์ บดินทรเชษฐภคินี
ในหลวง พระราชินี ทรงวางพวงมาลาถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 9
ตร.เร่งสอบข้อเท็จจริง เหยื่อโผล่โร่แจ้งความ เวย์ ไทเทเนี่ยม อ้างหลอกลงทุนสูญ 50 ล้าน
คอนเสิร์ต land of music 2025 ยังไม่เลื่อน แฟนเพลงกังวลหลัง นานา โดนคดีฉ้อโกง
อึ้งกันอีก! ปวิน เปิดภาพ อุ๊งอิ๊งค์ ร่วมงานแต่ง ยิม เลียก

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี