แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา...

■■ การศึกษาในมหาวิทยาลัย มิใช่การศึกษาทางวิชาการอย่างเดียว หากรวมถึงการศึกษาหาประสบการณ์ทางด้านอื่นด้วย เช่น ด้านสังคม เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตาม การศึกษาในมหาวิทยาลัย หรือการศึกษาวิชาการชั้นสูงนี้จะต้องมุ่งหมายถึง วิชาการ และต้องถือเอาวิชาการเป็นหัวใจหรือเป็นแกนกลางก่อน และให้ประสบการณ์ด้านอื่นเจริญงอกงามจากแกนวิชาการนั้น ซึ่งจะช่วยให้เกิดความรู้รอบและความเฉลียวฉลาดรู้เท่าทันสิ่งต่างๆ อันจะส่งเสริมให้สามารถนำเอาวิชาการที่มีอยู่ออกใช้ได้ถูกต้องเหมาะสมและเป็นประโยชน์แท้จริง ถ้ามหาวิทยาลัยเกิดเห็นว่ากิจกรรมอื่นๆ สำคัญไปกว่าวิชาการแล้ว ความหมายของคำว่ามหาวิทยาลัยก็จะเปลี่ยนแปรไป คือมิใช่แหล่งความรู้แหล่งวิทยาการที่แท้จริงนักศึกษาก็ดี บัณฑิตก็ดี ครูบาอาจารย์และผู้บริหารงานของมหาวิทยาลัยก็ดี จึงควรอย่างยิ่งที่จะรักษาความหมายที่แท้จริงไว้ อย่าให้กลายเป็นอื่น... (ความตอนหนึ่งจากพระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 27 กรกฎาคม 2521)...

■■ คำถามตัวโตในสังคมไทยวันนี้คือ MOU 44 ที่ทำในยุครัฐบาล ทักษิณ ชินวัตร เป็นเรื่องผิดกฎหมายหรือไม่ เรื่องนี้ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรหรือไม่ ผู้ลงนามใน MOU 44 คือ สุรเกียรติ์ เสถียรไทยอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศในยุคนั้น ต้องรับผิดชอบทางกฎหมายหรือไม่และอย่างไร ส่วน ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ใช้อำนาจอะไรเพื่อให้รัฐบาลยุคนั้นไปทำ MOU 44 กับกัมพูชา...

■■ มีคำถามตามมาว่า สรุปแล้วอดีตรัฐบาลทักษิณทำ MOU 44 เพื่ออะไร เพื่อผลประโยชน์ของไทยหรือของกัมพูชา MOU 44 ให้ผลดีหรีอผลเสียกับไทยอย่างไรเมื่อถามเรื่องนี้กับนพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ อ้างว่า MOU 44 ไม่ได้ให้การยอมรับเส้นเขตแดนใดๆ ที่เขียนโดยฝ่ายกัมพูชาและฝ่ายไทย ก็ไม่เคยให้การยอมรับเส้นใดๆ ที่ลากโดยกัมพูชา ส่วน วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โต้ นพดล ปัทมะ ว่า หาก นพดล อ้างว่าไม่ยอมรับเส้นไหล่ทวีปที่ทำโดยฝ่ายกัมพูชา ซึ่งลากผ่าเกาะกูด แล้วเหตุใดแผนที่แนบท้าย MOU 44 จึงระบุว่ามีพื้นที่ทับซ้อน ถ้าเช่นนั้น พื้นที่ทับซ้อนมันเกิดขึ้นมาได้อย่างไร ในฐานะที่ นพดล เป็นถึงรัฐมนตรีต่างประเทศมาก่อน ขอร้องอย่าตอบคำถามแบบอุ๊งอิ๊งค์...

■■ ที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นที่ดินที่ในหลวง รัชกาลที่ 5 (พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว) พระราชทานแก่กรมรถไฟหลวงมาตั้งแต่เมื่อกว่า 100 ปีมาแล้ว เพราะฉะนั้น ที่ดินของการรถไฟฯ ก็คือที่ดินของการรถไฟฯ แม้ที่ดินดังกล่าวจะถูกใครบางคนฉ้อโกงยักยอกเอาไปเป็นของตนเอง ก็ต้องย้ำเหมือนเดิมว่ามันเหล่านั้นฉ้อโกงยักยอกที่ดินของการรถไฟฯ ซึ่งเรื่องนี้หน่วยงานของรัฐบาลที่มีหน้าที่ดูแลกิจการของการรถไฟฯ ต้องเคร่งครัดกับการรักษาที่ดินนี้ไว้...

■■ การที่ ทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ออกมาแถว่า การรถไฟฯ จะเอาที่ไปทำอะไร ในเมื่อประชาชนใช้ที่ (ที่บุกรุกจากการรถไฟฯ) ทำกินอยู่ เมื่อทรงศักดิ์ถามแบบแถเช่นนี้ก็ทำให้คนที่เขาไม่หน้าทน ไม่นิยมการบุกรุกที่ของการรถไฟฯ และที่ของคนอื่นออกมาบอกว่าก็ในเมื่อเป็นที่ของการรถไฟฯ ก็ไม่ต้องถามว่าการรถไฟฯ จะเอาที่ของเขาไปทำอะไร เพราะการรถไฟฯ มีหน้าที่รักษาสมบัติของการรถไฟฯ ไว้ตลอดไป...

■■ ทรงศักดิ์ ต้องรู้ไว้ด้วยว่าการบุกรุกเข้าครอบครองที่ของคนอื่นคือการทำผิดกฎหมายเพราะฉะนั้น ไม่ต้องทำเป็นโลกสวยอ้างว่าผู้บุกรุกต้องได้รับความเป็นธรรม เพราะมันไม่เป็นธรรมมาตั้งแต่แรกแล้ว เนื่องจากผู้บุกรุกคือผู้ทำผิดกฎหมาย ทรงศักดิ์ไม่ต้องอ้างเรื่องความเป็นธรรมกับการบุกรุกที่ดินเขากระโดง บุรีรัมย์ ไม่ต้องอ้างเรื่องสิทธิใดๆ เพราะบุกรุกก็คือการทำผิดกฎหมาย คนทำผิดกฎหมายก็คือคนทำผิดกฎหมาย จะมีคนทำผิดกฎหมาย 1-2 คน หรือ 800-900 คน ก็คือผิดกฎหมายเหมือนกัน ไม่ใช่หมายความว่าคนจำนวนมากทำผิดกฎหมายแล้วกลายเป็นทำถูกกฎหมาย ดังนั้น การที่ทรงศักดิ์อ้างว่าคน 900 คน ซึ่งบุกรุกที่ดินเขากระโดงได้ที่ดินมาโดยถูกกฎหมายจะเป็นการจงใจส่งเสริมให้คนทำผิดกฎหมาย เพราะฉะนั้น ทรงศักดิ์ จะบอกว่าคนบุกรุกทำถูกกฎหมายไม่ได้ หรือว่า ทรงศักดิ์ไม่นิยมไม่ศรัทธาการทำในสิ่งที่ถูกกฎหมาย มีคำถามอีกว่า ทรงศักดิ์ ถูกอบรมสั่งสอนว่าการทำผิดกฎหมายเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ เช่นนั้นหรือ...

■■ พิชัย ชุณหวชิระ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง บอกว่า เตรียมรับมือเรื่องที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ล่าสุดของสหรัฐฯ จะเก็บภาษีสินค้านำเข้าเพิ่มในอัตราอย่างน้อย 10 เปอร์เซ็นต์จากประเทศต่างๆ ที่ส่งสินค้าไปขายในสหรัฐฯ และทำให้สหรัฐฯ เสียดุลการค้ากับประเทศเหล่านั้น พิชัยบอกว่าการรับมือเรื่องนี้คือการดึงนักลงทุนต่างประเทศเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น...

■■ เมื่อพิชัยบอกว่าการดึงนักลงทุนทั่วโลกเข้ามาลงทุนในไทยมากๆ คือการรับมือกับมาตรการขึ้นภาษีสินค้าขาเข้าโดย ทรัมป์ ก็ทำให้มีคำถามว่าแล้วหากนักลงทุนจีนเข้ามาลงทุนทำโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ในไทยมากมายมหาศาล ซึ่งก็หมายความว่าเป็นโรงงานของจีน แต่ลงทุนในไทย ซึ่งก็ยังถูกมองว่าเป็นสินค้าจีนแต่เปลี่ยนฐานการผลิตเท่านั้น แบบนี้สหรัฐฯ จะไม่เก็บภาษีสินค้าเหล่านั้นเพิ่มขึ้นหรือ หรือ พิชัย คิดว่าสหรัฐฯ เข้าใจว่าโรงงานที่ผลิตสินค้าในไทยคือโรงงานของคนไทยร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ไม่ว่าจะอย่างไรพิชัย ก็ต้องรู้ไว้ด้วยว่า สหรัฐฯ ก็ขู่จะเก็บภาษีสินค้าไทยเพิ่มขึ้นด้วยเพราะสหรัฐฯ เสียดุลการค้าให้ไทยทุกปี...

■■ ประเทศไทยยังคงหวังรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างประเทศเพื่อให้ได้เงินมหาศาลมาหล่อเลี้ยงเศรษฐกิจไทยซึ่งไม่ใช่เรื่องผิด แต่คำถามคือแล้วคิดบ้างไหมว่าเมื่อนักท่องเที่ยวเข้ามามากๆ จะก่อปัญหาสาหัสให้ประเทศอย่างไรบ้าง เคยคิดบ้างไหมว่าการปล่อยให้มี Visa Free กับนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบหว่านแหเหวี่ยงแหสะเปสะปะ ไม่กลั่นไม่กรองนักท่องเที่ยวให้ดี คือการก่อให้เกิดปัญหาความไม่มั่นคงภายในประเทศไทย ทุกวันนี้ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองของไทยมีปัญญาแก้ปัญหาคนที่เข้าเมืองแบบผิดกฎหมายในรูปแบบนักท่องเที่ยวที่เข้าประเทศไทยด้วย Visa Free หรือไม่ ทางการไทยรู้หรือไม่ว่านักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาไทยโดย Visa Free สร้างปัญหาต่างๆ นานาสารพัดให้กับสังคมไทย หรือว่ารัฐบาลไทยไม่คิดอะไรมาก เพราะต้องการนับหัวนักท่องเที่ยวต่างชาติเท่านั้น แต่ไม่สนใจไม่นำพาว่าจะเกิดปัญหาสังคมร้ายแรงรุนแรงอย่างไรจากการมีนักท่องเที่ยวไร้คุณภาพเต็มเมืองไทย ขอโทษที่ต้องเตือนสติตรงๆ แรงๆ ว่าเลิกบ้าเลิกโง่กับการนับตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียทีเถอะ จงทบทวนด้วยว่ามีปัญหาสาหัสอะไรอันเกิดจากนโยบาย Visa Free บ้าง...

■■ การประกาศเลิกจ้างพนักงานของสถานีโทรทัศน์ ช่อง 3 โดยมีข้ออ้างว่าเพื่อให้กิจการของบริษัทดำเนินการต่อไปได้ ทำให้เกิดความระส่ำระสายในหมู่พนักงานของทีวีสีช่องสามอย่างมากเพื่อนๆ นักข่าว และทีมงานเทคนิคในช่องสามบางคนเล่าให้ ธรรมกร ฟัง (ในฐานะคนเคยคุ้นกันมาก่อน) แหม! พี่ครับพวกผมไม่เป็นอันทำงานทำการกันเลยครับ เพราะเขาใช้วิธีแจ้งว่าจะเลิกจ้างใครด้วยการแจ้งทางไลน์ “ผมก็ไม่รู้นะว่าทำไมเขาไม่แจ้งด้วยจดหมาย หรือว่าเขาอาจต้องการประหยัดกระดาษ” การเลิกจ้างครั้งนี้กระจายไปทุกระดับตั้งแต่บรรณาธิการข่าวไล่เรื่อยไปจนถึงพนักงานทั่วไป ธรรมกร จึงถามเพื่อนพ้องน้องพี่ชาวช่อง 3 ที่รู้จักมักคุ้นกันว่า ทำไมจึงไม่ตัดสินใจลาออกก่อน หากชิงลาออกก็เป็นจำนวนมาก ช่อง 3 ก็ไปไม่รอด เพื่อนพ้องช่อง 3 บอกว่า โอย! ลาออกก็ไม่ได้เงินชดเชยสิครับ ต้องให้เขาปลดออก เพื่อจะได้เงินชดเชย ธรรมกรถามต่อไปว่า แล้วถ้าโดยปลดออกจะไปทำอะไร เพื่อนพ้องบอกว่าก็ยังคงทำข่าวต่อไป เพราะทำอย่างอื่นไม่คล่องเหมือนทำข่าว แต่จะไปทำข่าว online...■■

ธรรมกร