แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา...

nn งานพัฒนาบ้านเมืองนั้น ต้องอาศัยบุคคลสองประเภทคือ นักวิชาการกับผู้ปฏิบัติ นักวิชาการเป็นผู้วางโครงการ เป็นผู้นำ เป็นผู้ชี้ทาง เป็นที่ปรึกษาของผู้ปฏิบัติ ส่วนผู้ปฏิบัตินั้นเป็นผู้ลงมือลงแรงกระทำงาน งานจะได้ผลหรือไม่เพียงไร ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลสองฝ่ายนี้ ถ้ามีความเข้าใจและร่วมงานกัน ก็ไม่มีอุปสรรค ได้ผลงานเต็มเม็ดเต็มหน่วย แต่ถ้าหากไม่เข้าใจกันก็เกิดอุปสรรคล่าช้า ซึ่งมักปรากฏอยู่เสมอ และจำเป็นจะต้องแก้ไข ท่านทั้งหลายซึ่งสำเร็จการศึกษาชั้นปริญญาแล้วนี้ เป็นผู้มีความรู้และความคิดอ่านอันกว้างขวาง อยู่ในฐานะที่จะเป็นทั้งนักวิชาการและผู้ปฏิบัติ ควรเป็นผู้สามารถสร้างความเข้าใจตามหลักวิชาและหลักปฏิบัติได้เป็นอย่างดี เพราะฉะนั้น เมื่อออกไปมีตำแหน่งมีหน้าที่การงานแล้ว ขอให้ตั้งใจใช้ความรู้ ความคิด และความสามารถ สร้างความเข้าใจและความสัมพันธ์อันดีขึ้นในวงงาน เพื่อแก้ไขกำจัดอุปสรรคขัดข้องต่างๆ และเพื่อให้งานบรรลุผลสมบูรณ์ เป็นประโยชน์เกื้อกูลประเทศชาติและประชาชนโดยแท้จริง... (ความตอนหนึ่งจากพระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 16 กรกฎาคม 2513)...

nn มีการไถ่ถามกันอย่างอึงมี่ว่าใครคือหวานใจของบิ๊กการเมือง ระดับรองนายกรัฐมนตรี ที่ตกเป็นข่าวรุกที่ ส.ป.ก. ที่ตำรวจอ้างว่าพบความพัวพันกับเส้นทางเงิน 10 ล้านบาท เมื่อมีข่าวนี้ปรากฏก็ทำให้นักข่าวกรูกันไปถาม จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ว่าแล้วนักข่าวก็ระดมยิงคำถาม เช่น เกี่ยวข้องกับอดีตรองนายกฯ ที่อยู่บ้านป่าหรือไม่ พอเจอคำถามนี้จรูญเกียรติไม่ตอบ นักข่าวก็จี้ถามต่อไปว่าแล้วเกี่ยวข้องกับ สามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตคนสนิทของบิ๊กบ้านป่าหรือไม่ เจอคำถามนี้ตำรวจก็ตอบว่าก็มีความเกี่ยวข้องกัน เป็นคนใกล้ชิดกัน นักข่าวถามต่ออีกว่า คดีนี้จะทำต่อได้ไหม เพราะน่าจะเจอตอใหญ่ ตำรวจบอกว่าไม่กลัว หากมีหลักฐานโยงไปถึงใครก็จะจัดการทั้งหมด ต้องทำคดีต่อไป หากไม่ทำคดีต่อ ประเทศไทยจะอยู่ยาก คนผิดก็ว่าไปตามผิด คนถูกก็ว่าไปตามถูกสังคมจะน่าอยู่มากขึ้น ธรรมกร บอกตรงๆ ว่าฟังตำรวจพูดแบบนี้แล้วฟันธงได้เลยว่างานนี้ไม่สามารถจับตัวคนใหญ่คนโตได้อย่างแน่นอน เพราะคนตัวใหญ่ตัวโตในบ้านเมืองนี้ไม่เคยทำผิดแล้วต้องติดคุก...

nn เหตุเรือรบเมียนมายิงเรือประมงไทยในเขตใกล้กับเกาะพยาม จังหวัดระนอง จนเป็นเหตุให้ลูกเรือประมงไทยตาย (เพราะตกน้ำแล้วจมทะเล???) เรื่องนี้กระทรวงกลาโหมบอกว่าต้องประท้วงเมียนมา และบอกว่าเมียนมาต้องส่งลูกเรือประมง 31 คน พร้อมเรือกลับไทยภายใน 1-2 วัน มีคำถามจากสาธารณชนว่าทำไมต้องให้เวลาเมียนมาส่งกลับใน 1-2 วัน ทำไมไม่เรียกร้องให้ส่งกลับโดยทันที หากมั่นใจว่าเรือไทยไม่ได้รุกล้ำน่านน้ำเมียนมา...

nn ทางด้านกองทัพเรือไทยบอกว่าต้องสอบสวนเรื่องนี้ก่อนว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนที่เรือรบเมียนมาจะยิงเรือประมงไทยหากเรือรบเมียนมายิงเรือไทยในเขตอธิปไตยของไทย จะต้องตอบโต้กลับอย่างแน่นอน...

nn เรื่องเรือรบเมียนมายิงเรือประมงไทย ยังไม่ได้ยินการให้ความเห็นเรื่องนี้จากปากของ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ทั้งๆ ที่เรื่องนี้สำคัญไม่น้อย แต่นายกฯยังคงเพลิดเพลินสนุกสนานกับการเดินทางเยี่ยมเยียนจังหวัดเชียงใหม่ ภูมิลำเนาเดิมของทักษิณ ชินวัตร ผู้ครอบครองนายกรัฐมนตรี แต่จะได้ยินแค่ว่ายกเลิก MOU 44 ได้แล้ว หลังจากที่นางเคยเพ้อด้วยความไร้สติว่ายกเลิก MOU 44 ไม่ได้ หากยกเลิกจะถูกกัมพูชาฟ้องร้อง...

nn ในขณะที่บรรดานายธนาคาร นักธุรกิจ นักลงทุน นักเศรษฐศาสตร์ จำนวนไม่น้อยบอกด้วยความเป็นห่วงประเทศว่า ในปีหน้าเศรษฐกิจไทยจะย่ำแย่ตกต่ำกว่าปีนี้ การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจจะลดลงกว่าปีนี้ นักท่องเที่ยวต่างประเทศ ก็ไม่น่าจะมากไปกว่าที่มีอยู่ในขณะนี้ ส่วนการส่งสินค้าออกของไทยก็จะไม่สดใส โดยเฉพาะการส่งสินค้าไปยังประเทศสหรัฐฯ ในยุคที่โดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นไปเป็นประธานาธิบดีรอบที่สอง เพราะทรัมป์จะงัดนโยบายปกป้องการค้า (protectionism) ขั้นรุนแรงมาตอบโต้กับประเทศที่ได้ดุลการค้ากับสหรัฐฯ แต่น่าประหลาดมหัศจรรย์ที่แพทองธาร ยังบอกได้อย่างหน้าชื่นตาบานว่าเศรษฐกิจไทยจะดี จะส่งสินค้าออกไปยังสหรัฐฯ ได้ดีขึ้นได้มากขึ้น เมื่อได้ยินนายกฯ บอกแบบขัดกับข้อเท็จจริงเช่นนี้ ก็ทำให้มีคำถามว่าแล้วเหล่าบรรดาที่ปรึกษาบ้านพิษณุโลก 5 ราย ประกอบด้วย พันศักดิ์ วิญญรัตน์ ศุภวุฒิ สายเชื้อ พงศ์เทพ เทพกาญจนา สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี และธงทอง จันทรางศุ ซึ่งทักษิณ ชินวัตร (เจ้าของพรรคเพื่อไทย ผู้ครอบครองนายกรัฐมนตรี) ส่งไปเป็นกุนซือค่อยป้อนข้อมูลต่างๆ ให้แพทองธาร ไม่บอกความจริงของสถานการณ์โลกให้แพทองธารรับรู้บ้างเลยหรือ หรือว่าบอกไปแล้ว แต่มาดามแพฯ ไม่ฟัง หรือมาดามแพฯ ฟังแล้ว แต่ไม่สามารถเข้าใจได้ หรือจะอะไรอื่นก็สุดจะเดา แต่ที่น่าสมเพชประเทศไทยคือ การมีนายกฯ ที่ไม่รู้ประสีประสาอะไร พูดจาไม่รู้เรื่อง ไม่มีหลักมีฐาน แล้วยังเป็นคนที่ไร้กาลเทศะอีกด้วย จึงมีคำถามว่านี่คือการลงโทษประเทศไทยโดยฟ้าดินใช่ไหม จึงส่งมาดามแพฯ มาเป็นนายกฯ มาเพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของประเทศไทยให้ย่อยยับจนไม่มีอะไรเหลือหลออีกต่อไป...

nn มีเรื่องเบาสมองทำนองไร้สาระแต่น่าค้นหามิใช่น้อยมาเล่าสู่กันฟังมีผู้อ่านแนวหน้าหลายรายถาม ธรรมกร ว่า สามีของนายกรัฐมนตรีไทยคนล่าสุดไม่ต้องทำมาหากิน ไม่ต้องทำงานทำการอะไรหรือ เพราะเห็นเดินตามภรรยาตลอดเวลา นายกรัฐมนตรีไปงานหลวงงานราษฎร์ก็มีสามีเดินตามเกาะติดแจ ธรรมกร ขอสารภาพว่าไม่ทราบจริงๆ ว่าสามีนายกฯ ทำงานทำการอะไร เพราะไม่เคยให้ความสำคัญ เนื่องจากไม่เห็นความสำคัญใดๆ แต่ถ้าหากจะตอบแบบคนรู้น้อยในเรื่องราวของสามีนายกฯ ก็ตอบได้แค่ว่าเพราะเขามีเมียรวย มีเมียเป็นใหญ่เป็นโตมีตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เขาไม่ต้องทำงานก็มีกินมีใช้ไปตลอดชีวิต เพราะทรัพย์สินของภรรยามีมากมายมหาศาล ใช้ไปอีก 10 ชาติก็ไม่หมด ส่วนคำถามที่ว่าแล้วเขาไม่รู้สึกอะไรบ้างหรือกับการเดินตามภรรยา ก็ตอบได้ว่าเขาน่าจะได้ดีเพราะมีภรรยาเป็นนายกฯ ก็เป็นได้ ขอตอบเพียงเท่านี้นะครับ หากรู้อะไรมากกว่าเดิม ก็จะมาบอกเล่าให้ทราบเพิ่มเติมในวันข้างหน้า...

nn ปิดท้ายคอลัมน์วันนี้ด้วยเรื่องกระเป๋าเดินทางที่สูญหาย เรื่องนี้เกิดในสหรัฐฯ เพราะมีร้านชื่อ Unclaimed Baggage ที่เมือง Scottsboro, ที่อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของรัฐ Alabama ร้านนี้ขายของต่างๆ ที่นำมาจากกระเป๋าเดินทางที่สูญหายหาเจ้าของไม่พบ โดยแต่ละปีในสหรัฐฯ จะมีกระเป๋าเดินทางสูญหายเป็นจำนวนหลายล้านใบ เมื่อหาเจ้าของไม่พบตามกำหนดที่ตั้งไว้ เช่น 3-4 เดือน สายการบินที่มีกระเป๋าไร้เจ้าของก็จะนำกระเป๋าเหล่านั้นไปขายให้ร้านนี้ โดยจะแยกข้าวของดังนี้ ของที่ขายได้ก็นำไปขาย ขายไม่ได้ก็นำไปบริจาค หรือขายเพื่อหาเงินช่วยการกุศล หรือหากใช้ประโยชน์ไม่ได้จริงๆ ก็ต้องโยนทิ้งไป มีข้อมูลด้วยว่ามีของแปลกๆ หลายชนิดที่ค้นพบในกระเป๋าที่หาเจ้าของไม่พบ เช่น กุญแจโลงศพ ฟันปลาฉลาม วิกผมสารพัดชนิด และงูสิงสองตัวที่ยังมีชีวิต ความมหัศจรรย์ของร้านนี้ได้กลายเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวไปโดยปริยาย โดยมีนักท่องเที่ยวไปเยือนร้านนี้มากถึงปีละ 1 ล้านคน...nn

ธรรมกร