ตำนานของ “คนไม่อยากตาย ขอมีชีวิตอยู่ไปชั่วฟ้าดินสลาย” อย่างอมตะนั้นน่าจะมีปรากฏอยู่ในเรื่องราวที่ “กึ่งจริง กึ่งนิทาน” ของทุกชาติทุกภาษา
“โดยเฉพาะเรื่องราวของจักรพรรดิทั้งหลาย พระราชาทั้งปวงและฮ่องเต้ทุกพระองค์ ที่มีอำนาจล้นฟ้า มีเพชรนิลจินดาและทองคำอย่างมหาศาลมักจะเป็นมนุษย์ที่โหยหายาอายุวัฒนะ หรือผลอำมฤตยิ่งกว่าคนทั่วๆ ไป”
อย่างเช่น “จิ๋นซีฮ่องเต้” จักรพรรดิจีนที่ยิ่งใหญ่เกรียงไกรเมื่อกว่า3,000 ปีก่อน ก็เป็นผู้ “โหยหายาอมตะและผลอำมฤต” อย่างถึงพริกถึงขิง
“บางตำนาน” ระบุว่า “จักรพรรดิจิ๋นซี” ถึงกับจัดตั้ง “กำลังพลกว่า 3,000 คน”ประกอบไปด้วย “นักรบที่สุดยอด แพทย์ที่สุดเก่งและซินแสสายมูที่สุดเจ๋ง” ออกไล่ล่าหายาอมตะ
ตำนานเล่าขานว่า ยังได้เดินทางสู่ทะเลจีน มุ่งหน้าไปสู่ดินแดนอาทิตย์อุทัยแต่แล้วกองกำลังดังกล่าวก็หายไปอย่างไร้ร่องรอยโดยไม่มีใครได้ยืนยันชัดชัด “ชาวฮั่นระดับหัวกะทิ” เหล่านั้น “หายไปไหน?”
แต่กลับมีเสียงเล่าขาน ราวกับเทพนิยาย หรือนิทานและเป็นตำนานว่า “3,000 ชาวฮั่นหายาอมตะไม่พบและไม่กล้ากลับสู่อาณาจักรมังกร” เพราะขืนกลับมาแบบ “มือเปล่า” รับรองได้ “หัวขาด” แน่นอน
ดังนั้น “ชาวฮั่นหัวกะทิทั้ง 3,000 คน จึงปักหลักอยู่ในแดนอาทิตย์อุทัยสร้างครอบครัวอยู่ที่นั่น และสร้างชาติชาวอาทิตย์อุทัยจนเกรียงไกร”
ส่วน “ตำนานชีวิตอมตะ” ที่เล่าขานในประเทศอินเดียก็มีเรื่องเล่าอย่างมากมาย แต่ตำนานที่น่าสนใจที่สุด เป็นตำนานที่นำมาจาก “วรรณคดีโบราณของแคว้นกัษมีระ” ได้แก่ “ตำนานกถาสวิตสาคร” ของกวีโบราณผู้ใช้นามว่า “โสมเทวะ” ที่เรียบเรียงขึ้นเมื่อพ.ศ.1613 โดยใช้ “ภาษาสันสกฤต มีความยาว 22,000 โศลก” รวมเป็นนิทานประมาณ 300 เรื่อง โดยมีเรื่องหนึ่งที่กล่าวถึงพระราชาชื่อ “พระภรรตฤราช” ผู้มีชีวิตอมตะ เพราะ“ได้เสวยผลอำมฤต”
ตำนาน “กึ่งจริง” และ “กึ่งนิทาน” ที่เขียนโดยกวี “โสมเทวะ” นั้นมีความว่า “กว่า 2,000 ปีที่แล้ว กษัตริย์วิกรมาทิตย์ ได้ครองกรุงอุชชยินี” ทรงเป็นนักรบที่เกรียงไกร และปกครองบ้านเมืองจนรุ่งเรือง ครั้นพระชนมายุได้ 30 ปี ก็ได้มอบให้พระอนุชา นามว่า“พระภรรตฤราช” ปกครองบ้านเมืองแทนชั่วคราว ส่วน“พระวิกรมมาทิตย์” ได้ปลอมตนเป็นโยคี ทรงเที่ยวเตร็ดเตร่อยู่ในป่า และเมืองต่างๆ อยู่หลายปี
“พระภรรตฤราช” ผู้เป็นอนุชาได้ครองราชย์แทนพระเชษฐาอย่างสงบสุขอยู่หลายปี จนมีเหตุการณ์ “สุดอัศจรรย์” เกิดตำนาน “ผลอำมฤต” ขึ้น โดย “พระภรรตฤราช” ได้เสวยผลไม้ดังกล่าวและกลายเป็น “ผู้มีชีวิตอมตะจนถึงปัจจุบัน”
ตำนานผลไม้อมตะในกรุงอุชชยินีเป็นมาอย่างไร? อ่านได้ในฉบับวันพุธนี้
กมลศักดิ์ ตั้งธรรมนิยม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี