แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา...■■ สิ่งสำคัญที่สุดที่ท่านต้องมีอยู่เสมอไปในการทำงาน คือความกระตือรือร้น ความบริสุทธิ์ใจ และอุดมคติ ซึ่งมีอยู่พร้อมมูลในตัวท่านแล้วในขณะนี้ ถ้าท่านรักษาคุณสมบัติเหล่านี้ไว้ได้โดยตลอด อนาคตของท่านและของประเทศชาติจะต้องแจ่มใสอย่างไม่ต้องสงสัย... (ความตอนหนึ่งจากพระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 13 กรกฎาคม 2510)

...■■ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีหุ่นกระบอกของไทยไปกัมพูชาอีกแล้ว ทั้งๆ ที่เพิ่งไปมาเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมาถามว่าไปทำไมบ่อยๆ ไม่มีผู้นำประเทศไหนเขาไปเยือนแบบซ้ำๆ ซากๆ มันจึงน่าสงสัยว่าไปทำไม มีอะไรซ่อนเร้นอยู่หรือ จึงต้องไปบ่อยๆ

...■■ ตึกที่ทำการแห่งใหม่ของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) พังถล่มลงมาจะครบหนึ่งเดือนแล้ว แต่ยังไม่มีความจริงปรากฏว่าเหตุใดตึกสูง 33 ชั้นจึงพังถล่มลงมาจนราบเป็นหน้ากลองอย่างง่ายดาย และนับเป็นเพียงตึกเดียวของประเทศไทยที่พังถล่มลงมาในวันที่ประเทศได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวจากเมืองมัณฑเลย์ เมียนมา ยิ่งความจริงเรื่องนี้ปรากฏช้าเท่าไร ก็หมายความว่าความจริงของโศกนาฏกรรมครั้งนี้น่าจะเลือนรางไปเรื่อยๆ

...■■ ถามเหมือนเดิมว่า ใครออกแบบตึก สตง.ที่พังถล่ม (อันที่จริงรู้แล้ว) บริษัทใดรับจ้างก่อสร้างตึก ใครคุมการก่อสร้างตึกใครหน้าไหนใน สตง. คือคนเปลี่ยนแปลงสถานที่ก่อสร้างจากเดิมที่อยู่ในเขตจังหวัดปทุมธานี แล้วย้ายไปสร้างบนพื้นที่เช่าของการรถไฟแห่งประเทศไทยถนนกำแพงเพชร ทำไมเปลี่ยนแบบตึกเดิมที่ออกแบบโดย อาวุธ เงินชูกลิ่น ศิลปินแห่งชาติ ปี 2541 และอดีตอธิบดีกรมศิลปากร แล้วเปลี่ยนไปใช้แบบใหม่ที่ต่อมาคือตึกที่พังถล่ม

...■■ ย้ำถามว่าทำไมต้องเปลี่ยนแบบจากเดิมที่ อาวุธ เงินชูกลิ่นออกแบบไว้ แล้วทำไมต้องย้ายที่ตั้งอาคารสำนักงาน เรื่องเหล่านี้คนที่ตอบคำถามได้ดีที่สุดคือ พิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส อดีตผู้ว่าการ สตง.

...■■ พิศิษฐ์คือคนที่เคยถูกกล่าวขานกันภายใน สตง. ว่าเป็นมือขวาของคุณหญิงเป็ด จารุวรรณ เมณฑกาแต่สุดท้ายพิศิษฐ์ก็ถูกกล่าวขานโดยคนใน สตง. ว่าเป็นคนที่ทำให้คุณหญิงเป็ดเจ็บแสบมากที่สุดคนใน สตง. บอกว่า คุณหญิงเป็ดเคยพูดว่า คนเนรคุณคนอกตัญญู ไม่มีวันเจริญ ไม่มีวันพบจุดจบดี ซึ่งคนวงในของ สตง. และโดยเฉพาะพิศิษฐ์รู้ดีอยู่แก่ใจว่าหมายถึงใคร

...■■ มีคำถามมากมายก่ายกองจากสังคมว่า ทำไมไม่เห็นคุณหญิงเป็ดออกมาให้ข้อมูลเรื่องตึก สตง. ถล่ม เพราะหลายคนเชื่อตรงกันว่าคุณหญิงเป็ดต้องมีข้อมูลลึกๆ ในเรื่องนี้ แต่ก็มีคำถามเช่นกันว่า ทำไมพิศิษฐ์ขยันให้สัมภาษณ์รายการทีวี แล้วก็มีคำถามอีกว่าแล้วอดีตผู้ว่าการ สตง.คนหลังจากพิศิษฐ์ ที่ชื่อ ประจักษ์ บุญยัง หายไปไหน ทำไมไม่ให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนบ้าง และก็มีคำถามด้วยว่า มณเฑียร เจริญผล ผู้ว่าการ สตง. คนล่าสุด มีข้อมูลลึกๆ ลับๆ อันนำไปสู่เหตุการณ์ตึก สตง. ถล่มบ้างไหม

...■■ คนในของ สตง. บอกว่าเรื่องตึกใหม่ของ สตง. ถล่มนั้น มีเบื้องหน้าเบื้องหลังซับซ้อนมาก แต่ก็ไม่มากจนเกินกำลังจะหาความจริงได้ หากรัฐบาลต้องการทำความจริงให้ปรากฏขณะเดียวกันก็มีการตั้งคำถามไปยังประธานคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ที่ชื่อชนะทัพ อินทามระ ว่ามีคำตอบเรื่องตึก สตง. ถล่มบ้างไหม เพราะประธาน คตง. น่าจะมีข้อมูลลึกๆ บ้าง

...■■ ชนะทัพ อินทามระ จบจากโรงเรียนเตรียมทหาร รุ่น 15และจบโรงเรียนนายร้อย จปร. รุ่นเดียวกับ ไพบูลย์ คุ้มฉายา ปรีชา จันทร์โอชา ทั้งนี้ชนะทัพได้เข้ารับตำแหน่งประธาน คตง. ในปี 2560 ซึ่งเป็นยุคที่บ้านเมืองยังอยู่ในอำนาจของ คสช. ที่ ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นผู้ทำรัฐประหาร หากจะย้อนไปดูว่าก่อนชนะทัพได้ตำแหน่งประธาน คตง. เขาเคยชิงตำแหน่งกรรมการ ป.ป.ช. เมื่อปี 2558 แต่พลาดหวัง

...■■ คนใน สตง. เขาบอกเบาะแสว่าเรื่องที่มีการระบุว่าการจัดซื้อพรม ชักโครก ฝักบัว โทรศัพท์ ห้องฉายภาพยนตร์ ระบบเครื่องเสียง ที่จะใช้ในตึกใหม่ สตง. แล้วปรากฏว่ามีราคาแพงโคตรแพงนั้น ขอให้เสาะสืบสาวลงไปลึกๆแล้วจะเจอว่ามีต้นตอมาจากญาติพี่น้องของคนบางคนที่มีอิทธิฤทธิ์อิทธิเดชใน สตง. และมีเสียงเล่าลือด้วยว่า คนใหญ่คนโตใน สตง. บางคนนั้น เวลาจะไปไหนมาไหนต้องมีรถจักรยานยนต์ตำรวจนำหน้าด้วย ทั้งๆ ที่มันก็นั่งอยู่ในรถยนต์เพียงแค่คันเดียวเท่านั้น โอย! ใหญ่โตคับ สตง. เสียจริงๆ

...■■ ส่วนอีกเรื่องที่คนวงใน สตง. เล่ากันเสียงดังสนันเมื่อยุคพิศิษฐ์เป็นใหญ่ใน สตง. คือ พิศิษฐ์นี่น่าจะเชื่อถือเรื่องไสยศาสตร์อย่างหนัก เพราะมีเครื่องรางของขลังเยอะแยะเต็มไปหมด มีแม้กระทั่งยันต์สารพัดชนิด ไม่รู้ว่าทำไมต้องเน้นเครื่องรางของขลังมากมายขนาดนั้น

...■■ มีอีกเรื่องหนึ่งที่คน สตง. ยังเล่ากันไม่จบไม่สิ้นคือห้องทำงานเดิมของคุณหญิงเป็ด ในฐานะผู้ว่าการ สตง. ยังไม่มีใครเข้าไปใช้จนถึงบัดนี้ ธรรมกร ก็จึงถามคนของ สตง. ว่า แล้วปล่อยทิ้งไว้ทำไม ทำไมไม่เข้าไปใช้ประโยชน์ ก็ไหนบอกว่าไม่มีที่จะนั่งทำงานอย่างไรเล่า ก็มีเสียงตอบมาว่า ไม่รู้ว่าทำไมไม่ใช้ แต่น่าสงสัยเรื่องไสยศาสตร์มนต์ดำกระมัง อุ๊ย! ตกลง สตง. เป็นที่ทำงานของคนที่ร่ำเรียนมาทางด้านบัญชี การเงิน เศรษฐศาสตร์ หรือด้านไสยศาสตร์กันแน่

...■■ ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ อดีตเจ้าหน้าที่ของหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ พาอดีตข้าราชการ สตง. ชื่อ ณรัฐนันทน์ วิภากรวิทย์ ไปให้ปากคำกับ DSI พร้อมมอบเอกสาร และพยานวัตถุสำคัญกับ DSI เพื่อสาวไปสู่ต้นตอของตึก สตง. ถล่ม สาระสำคัญที่พอจะสรุปได้จากการที่ณรัฐนันทน์เข้าไปพบ DSI คือเขาทำงานใกล้ชิดกับผู้บริหาร สตง. คนหนึ่งและถูกใช้ให้ทำงานให้หลายๆ อย่าง แต่สุดท้ายถูกทอดทิ้ง สำหรับประเด็นนี้น่าสนใจว่า ทำงานให้ผู้ใหญ่คนไหนของ สตง. และทำอะไร และถูกทอดทิ้งอย่างไร อะไรคือการทอดทิ้ง แต่ยังมีประเด็นที่ปานเทพบอกด้วยว่ามีข้อมูลจากข้าราชการ สตง. อีกมากมายที่เป็นประโยชน์กับปมตึกถล่ม มีทั้งบันทึกรายงานการประชุม โดยเฉพาะค่าออกแบบตึก สตง. ที่ไปจ้างเอกชนออกแบบให้ รวมถึงเรื่องการย้ายที่ตั้งตึกจากปทุมธานีไปอยู่ที่ของการรถไฟฯ และมีเรื่องราวของผู้บริหาร คตง. รายหนึ่งที่หน้าห้องเป็นตำรวจ

...■■ เรื่องตึก สตง. ถล่มนั้น หากรัฐบาลจะตามตัวคนกระทำผิดจริงๆ รับรองว่าทำได้ และทำได้สำเร็จไปตั้งแต่หลังเกิดเหตุตึกถล่มเพียง 2-3 วันเท่านั้น แต่การที่ลังเลรีรอก็เพราะไม่ต้องการทำความจริงให้กระจ่าง เพราะหากความจริงกระจ่างแล้ว จะพาดพิงเชื่อมโยงไปถึงใครบางคน แล้วคนที่ถูกพาดพิงก็อาจจะพาดพิงต่อๆ ไปจนถึงคนใหญ่คนโตบางกลุ่มบางพวกด้วย เมื่อเป็นแบบนี้ก็จึงทำทุกอย่างให้ความจริงหายไป

...■■ พฤติกรรมสำคัญของคนที่ประกาศตัวจะลงทำงานการเมือง ไม่ว่าจะการเมืองระดับท้องถิ่นหรือระดับประเทศ คือต้องไม่มีสันดานเป็นอันธพาลกวนเมืองต้องเคารพกฎหมายของบ้านเมือง และต้องมีความเห็นอกเห็นใจผู้คน ไอ้คนชนิดที่ขับรถยนต์ไล่บี้หมายจะเอาเป็นเอาตายกับคนขับรถยนต์คันอื่น แม้จะอ้างว่าคนขับรถยนต์คันอื่นทำให้รถยนต์ของตนเองเสียหายก็ตาม มันก็ต้องนำเรื่องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ไม่ใช่ขับรถยนต์ตามล้างตามผลาญคู่กรณี ครั้นเมื่อคนขับรถยนต์คันที่เป็นคู่กรณีเสียหลักชนกับกำแพงจนคนขับรถบาดเจ็บสาหัส แล้วไอ้คนที่อยากจะเป็นนักการเมืองรายนั้นยังลงไปยืนกอดอกเยาะเย้ย โดยไม่คิดจะช่วยเหลือคนบาดเจ็บ ขอย้ำว่าคนที่มีพฤติกรรมสามานย์ที่ว่านั้น ไม่ควรจะเป็นนักการเมืองแม้แต่น้อย ไม่ว่าจะนักการเมืองระดับใดก็ตาม ส่วนหากคนในจังหวัด อำเภอ ตำบลนั้นยังจะกากบาทเลือกคนเลวๆ เช่นนั้นไปเป็นตัวแทนในนามนักการเมืองของตน ก็ต้องถือเสียว่าคนที่มีสิทธิเลือกตั้งจำพวกนั้น เป็นแค่เพียงสิ่งมีชีวิตที่ไร้สติสิ้นปัญญา และไร้ความสามารถในการแยกแยะผิดชอบชั่วดี เพราะฉะนั้น การเลือกตั้งโดยคนที่ไร้สติสิ้นปัญญาก็จึงไม่ต่างจากการปล่อยให้คนบ้า คนไร้คุณธรรมมีสิทธิเลือกตั้ง

...■■ ปิดท้ายด้วยเรื่องที่น่าจะเข้าข่ายขโมยข้อสอบอีกแล้ว หลังจากมีข่าวเรื่องตำรวจยศพลตำรวจเอกรายหนึ่งที่เข้าไปศึกษาที่คณะนิติศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แล้วจบการศึกษาไปแล้ว อันเป็นเหตุมีข่าวเปิดขบวนการอดีตตำรวจใหญ่ลอกข้อสอบมหาวิทยาลัยชื่อดัง (ย้ำว่าบอกไปเลยก็ได้คือคณะนิติศาสตร์ จุฬาฯ) เรื่องนี้หลุดลอดมาจากกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 ที่จับตัวผู้ต้องหาคดีกระทำความผิดร่วม ด้วยการนำข้อสอบของคณะนิติฯ จุฬาฯ ออกไปให้นายตำรวจใหญ่ยศพลเอกคัดลอก เรื่องนี้เป็นความบกพร่องของคนบางคนในคณะนิติฯ จุฬาฯ ใช่หรือไม่ หรือรู้เห็นเป็นใจ หรือว่ามีการซื้อขายข้อสอบกัน แหม! นิติฯ จุฬาฯ จะทำเลียนแบบมหาวิทยาลัยบางแห่งหรือที่มีการขายข้อสอบกันอย่างเอิกเกริกที่หน้ามหาวิทยาลัย แถมยังมีโฆษณาว่าติวที่นี่รับรองสอบผ่านทุกวิชา ทุกคณะ นั่นมันเรื่องของมหาวิทยาลัยเปิดแห่งหนึ่ง แต่ก็ต้องบอกว่า แหม! จุฬาฯ ยุคนี้มันน่าสงสัยจริงๆ แต่ต้องบอกว่าเรื่องนี้ต้องฟังหูไว้หู เพราะตำรวจใหญ่ชั้นพลตำรวจเอกรายนั้นมีปัญหามากมาย และมีปรปักษ์ทางการเมือง และปรปักษ์ในวงการตำรวจมากล้น...■■

ธรรมกร