แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา...■■ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชดำริเริ่มโครงการเพื่อช่วยเหลือประชาชนไว้เป็นจำนวนมากทุกภาค อย่างโครงการอ่างเก็บน้ำเขาเต่า อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทรงเริ่มเมื่อ พ.ศ.2506 จากนั้น ระหว่างประทับที่วังไกลกังวล ได้เสด็จฯ เยี่ยมราษฎรในพื้นที่ จังหวัดเพชรบุรี และราษฎรในพื้นที่ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประจำ ทรงพบว่าปัญหาหลัก คือ ดินเป็นทราย ปลูกพืชไม่ค่อยขึ้น จึงทรงพระราชดำริริเริ่มโครงการเกษตรขึ้นหลายแห่ง เช่น ที่หุบกระพงดอนขุนห้วย ที่สำคัญคือ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทราย จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งทดลองการปรับปรุงบำรุงสภาพดิน จากดินที่แห้งแข็ง จนสามารถปลูกพืชเศรษฐกิจได้หลายชนิด และทรงสร้างอ่างเก็บน้ำ ไว้แก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำในพื้นที่ด้วย ผลงานสำคัญ เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง ในภาคกลางก็เช่น เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ และเขื่อนขุนด่านปราการชล เป็นต้น...(ความตอนหนึ่งจาก พระราชดำรัส สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระราชทานแก่คณะบุคคล ที่เข้าเฝ้าฯ ถวายชัยมงคลในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศาลาดุสิดาลัย พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต 11 สิงหาคม 2553)

...■■ เจ้าของพรรคเพื่อไทยในยามนี้ตกอยู่ในภาวะกรรม (เลว-ชั่ว) ตามทัน เพราะได้ทำกรรม (ชั่ว-เลว) ไว้มากมายจนเกินจะบรรยายได้หมดในเวลาอันสั้น นี่แหละหนา เมื่อเวลามีอำนาจรัฐ ก็ใช้อำนาจอย่างไม่บันยะบันยัง ใช้อำนาจราวกับว่าชีวิตนี้จะไม่มีวันถึงจุดจบ ยามนี้เจ้าของพรรคเพื่อไทยคงตระหนักแล้วว่า เมื่อมีอำนาจรัฐแล้วเหลิง ยามไร้อำนาจรัฐก็จึงอยู่อย่างไม่มีความสุข แต่ก็ต้องไม่ลืมว่า เจ้าของพรรคเพื่อไทยเคยประกาศไว้ว่า หากตนเองไม่มีความสุข ก็อย่าหวังว่าคนอื่นๆ จะมีความสุข

...■■หลายคนอาจถามว่า ใครคือเจ้าของพรรคเพื่อไทย ทักษิณ ชินวัตร หรือ หญิงอ้อ-พจมาน ดามาพงศ์ หรือทั้งสองต่างร่วมกันเป็นเจ้าของพรรคเพื่อไทย ดังนั้น จึงมีคนการเมืองบอกว่าหากพรรคเพื่อไทยจะยังดำรงคงอยู่ได้ในยามนี้ ก็จำเป็นต้องให้หญิงอ้อประกาศให้ดังลั่นสนั่นพสุธาว่า ตนเองจะนำหน้าพรรคเอง เพราะหากนายหญิงแห่งจันทร์ส่องหล้ากล้าประกาศเช่นนี้ก็อาจทำให้เลือดหยุดไหลออกจากพรรคเพื่อไทยได้บ้าง แต่ก็น่าสนใจมิใช่น้อย หากนายหญิงแห่งจันทร์ส่องหล้ากล้าประกาศเช่นว่าแล้ว อยากรู้จริงๆ ว่า เนวิน ชิดชอบ และ อนุทิน ชาญวีรกูล แห่งพรรคบุรีรัมย์แลนด์จะมีท่าทางและท่วงทีอย่างไร

...■■ ขอย้ำว่า ผลการเลือกตั้งสส. ครั้งหน้า ไม่มีทางที่พรรคเพื่อไทยจะได้เสียงเป็นอันดับหนึ่ง ย้ำและขีดเส้นใต้ว่า ไม่มีทางไม่มีวัน และ impossible ที่เพื่อไทยจะได้ สส. เป็นอันดับหนึ่ง อย่าว่าแต่อันดับหนึ่งเลย เพราะแม้แต่อันดับสองก็ยังไม่มีทางได้ แต่ที่แน่ๆ คือพรรคเพื่อไทยจะยังไม่ตายไปจากแผ่นดินไทยในระยะ 5 ปีข้างหน้านี้ เพราะหากทักษิณยังไม่หมดลมหายใจ พรรคเพื่อไทยก็ยังจำเป็นต้องอยู่ต่อไป แต่หากทักษิณหมดลมปราณในวันใด ก็ไม่ต้องหวังว่าพรรคเพื่อไทยจะดำรงอยู่ต่อไปเพราะเมื่อผู้นำจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทยไปเสียแล้ว ก็ยากที่พรรคจะดำรงอยู่ ยกเว้นว่าหญิงอ้อจะลุกขึ้นมาสวมบทเจ้าของพรรคเพื่อไทยให้ปรากฏชัด

...■■ วิเคราะห์กันว่าการเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคเพื่อไทยจะได้ สส. ไม่เกิน 60 คน แต่ก็ยังนับว่ามากโขอยู่นะ เพราะหากได้ สส. ประมาณ 60 คนจริงๆ ก็หมายความว่าพรรคเพื่อไทยยังมีโอกาสร่วมเป็นรัฐบาล เพราะในการเลือกตั้งครั้งหน้านั้น ไม่มีทางที่พรรคภูมิใจไทยหรือพรรคประชาชนจะได้ สส. เกินพรรคละ 150 คน ย้ำว่าไม่มีทาง เพราะมันเป็น impossible dream

...■■ แต่หากถามว่าแล้วพรรคของผู้กองตุ๋ย-ธรรมนัส พรหมเผ่า แห่งกล้าธรรม ที่หลายคนบอกว่าพรรคนี้ช่างกล้าทำจริงๆ เพราะเจ้าของพรรคกล้าธรรม ได้ทำในสิ่งที่โลกตะลึงมาแล้ว คือการบอกว่ามันคือแป้งมัน ส่วนที่ถามว่าพรรคของผู้กองตุ๋ยจะได้ สส. เกิน 60 คนหรือไม่ คำตอบคือ ไม่แน่นะเพราะเจ้าของพรรคนี้ทุ่มทุกสรรพกำลัง โดยเฉพาะกระสุนแบบชนิดที่ว่ายิงได้ไม่อั้นแต่ขอให้ชนะเท่านั้นพอ ดังนั้น ก็จึงต้องมองการเคลื่อนตัวของพรรคกล้าธรรมให้ดี เพราะพรรคนี้เขาไม่เคยประกาศว่าเขาจะได้ สส. เป็นร้อย แต่เขาก็มั่นใจว่าจะได้เป็นรัฐบาลอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้น ก็ต้องมาดูกันว่าพรรคอันดับสามในการเลือกตั้งครั้งหน้าจะชื่อกล้าธรรมหรือเพื่อไทย

...■■ พรรคประชาชนก็ยังน่าจะได้คะแนนนิยมจากเด็กที่เป็นกลุ่ม first voters และ new voters ต่อไป เพราะพรรคประชาชนมีความชำนิชำนาญในการกระจายข่าวของพรรคผ่านระบบsocial media ซึ่งเป็นช่องทางการสื่อสารที่เข้าถึงเด็กจำพวก first and new votersได้ดีที่สุด แต่อันที่จริงก็ไม่อยากจะบอกว่าเด็กเป็นพวกที่หลงใหลคลั่งไคล้ใน social media เพียงกลุ่มเดียว เพราะเมื่อดูเข้าจริงๆ แล้วก็พบว่าคนหัวหงอกบางรายก็หลงใหลกับการเสพข่าวจริงบ้าง เท็จบ้างจาก social media แต่ที่แน่ๆ คือเด็ก ๆ ก็ยังคงจะเลือกพรรคประชาชนต่อไป แต่ก็ไม่มีทางที่พรรคประชาชนจะได้ สส. เกินครึ่งสภา เอาให้ได้เท่าเดิมคือประมาณ 140-150 เสียง ก็นับว่าบุญแล้ว

...■■ ยามนี้พรรคภูมิใจไทยเนื้อหอมมากเหลือเกิน อย่าว่าแต่เนื้อหอมเลย บางคนแซวว่าขี้ของภูมิใจไทยก็อาจจะยังหอมเลย ดังนั้น จึงไม่ต้องประหลาดใจว่าทำไมนักการเมืองจำพวกที่กลัวพลาดเก้าอี้ สส. ต่างไหลไปรวมกับภูมิใจไทย ไม่เว้นแม้กระทั่ง วราวุธ ศิลปอาชา ลูกชายเจ้าของพรรคชาติไทยพัฒนา ถามว่าทำไมวราวุธไม่อยู่กับพรรคการเมืองของเตี่ยบรรหาร ตอบได้เลยว่า เพราะหากยังอยู่กับพรรคเตี่ยต่อไป ก็อาจจะต้องกลายเป็นฝ่ายค้าน แล้วเตี่ยก็คงไม่อยากให้ลูกชายเป็นฝ่ายค้าน เพราะเป็นแล้วมันอดอยากปากแห้ง ดังนั้น เมื่อไม่ต้องการอดอยากปากแห้งก็ขอไปอยู่กับภูมิใจไทยก่อนก็แล้วกัน แต่ก็ยังเก็บพรรคของเตี่ยเอาไว้ เพราะหากวันหน้าพรรคภูมิใจไทยมีอันเป็นไป ก็จะได้กลับไปอยู่พรรคของเตี่ยตามเดิม

...■■ พรรคภูมิใจไทยในยามนี้นั้น ดูๆ ไปแล้วไม่ต่างจากพรรคไทยรักไทยของทักษิณ ชินวัตร ในอดีต เพราะใช้กลอุบายเดียวกันคือ ดูด ดูด แล้วก็ดูดนักการเมืองจากพรรคต่างๆ ให้ไหลเข้าไปรวมกันในพรรค แต่ก็ต้องไม่ลืมความจริงว่า ทักษิณเคยใหญ่คับแผ่นดิน จนไม่มีแผ่นดินไทยให้อาศัยอยู่ประมาณ 17 ปี แต่บัดนี้คนเคยใหญ่คับแผ่นดินก็กลายเป็นคนเสมือนจนตรอก ไม่มีแม้กระทั่งลูกน้องเก่าอย่าง เนวิน อนุทิน ไปเยี่ยมในคุก ถามว่าหากคุณเป็นทักษิณในยามนี้ จะกระอักเลือดหรือไม่ ถามซ้ำ จะกระอักเลือดหรือไม่

...■■ ตอนนี้ขณะนี้เส้นกราฟการเมืองของอนุทินขึ้นสูง เพราะมีตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นเครื่องพยุงเส้นกราฟ แล้วที่สำคัญคืออนุทินก็มีอำนาจรัฐอยู่ในมือแบบชนิด powerful เพราะแม้จะไม่ใช่พรรคอันดับหนึ่งที่มี สส. มากที่สุด แต่ก็ได้รับการสนับสนุนจากพรรคประชาชนให้ได้กินตำแหน่งรัฐบาล แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น อนุทินก็ไม่เคยปราศจากความหวาดระแวงพรรคประชาชน เพราะรู้ดีว่าพรรคประชาชนไม่มีทางให้อนุทินขี่คอตลอดไป แต่จะอย่างไรก็ตาม ในยามนี้พรรคประชาชนก็คือฐานการเมืองให้พรรคภูมิใจไทยเหยียบขึ้นไปกินตำแหน่งรัฐบาล ส่วนพรรคประชาชนก็ยังคงสับสนกับตัวเอง เพราะไม่รู้ว่าสถานะของตัวเองจะเป็นฝ่ายค้าน ฝ่ายค้ำ หรือฝ่ายรัฐบาล แต่มันดูกึ่งๆ กลางๆ ดูๆ แล้วก็น่าสมเพชมิใช่น้อย

...■■ พรรคประชาชนจะทำอย่างไรหากวันที่ 12 ธันวาคมนี้ อนุทิน ประกาศยุบสภา (หากเพื่อไทยยื่นขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ อนุทิน และรัฐบาลทั้งคณะ หรือยื่นอภิปรายฯ อนุทินเพียงคนเดียว) พรรคประชาชนจะไปทำอะไรได้เพราะไม่มีอำนาจทำอะไร เนื่องจากอำนาจยุบสภาเป็นของนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่ของคนที่เป็นฐานให้นายกรัฐมนตรีเหยียบ ดังนั้น พรรคประชาชนก็จึงทำได้เพียงบ่นด้วยความน้อยใจและโกรธตัวเองที่ยอมเป็นฐานให้อนุทิน เหยียบขึ้นไปเป็นนายกรัฐมนตรี ดังนั้น จึงไม่ต้องประหลาดใจที่จะเห็น ไอติม-พริษฐ์ วัชรสินธุ แห่งพรรคประชาชนบอกแบบบ่นๆ บ่อยๆ ว่า หาก อนุทิน ยุบสภา ก็เปรียบเสมือนผู้รับเหมาทิ้งงาน แต่อนุทินคงไม่แคร์หรอก เพราะหากทิ้งงานแล้ว แต่ในงานหน้าก็ยังมีคนมาจ้างให้ทำงานต่อไป แบบนี้ก็ไม่จำเป็นต้องกลัวคำต่อว่าเรื่องทิ้งงาน เพราะทิ้งกี่ครั้งก็ได้งานใหม่ทุกครั้ง จะต้องไปกลัวอะไร

...■■ มีผู้ตั้งคำถามว่า เมื่อ วราวุธ ศิลปอาชา แห่งชาติไทยพัฒนา ยอมทิ้งพรรคของเตี่ยไปอยู่กับ เสี่ยหนู-อนุทิน แล้ว เมื่อเวลา วราวุธ เจอหน้าเสี่ยตือ-สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล และเหล่าบรรดากุมารของ เสี่ยตือวราวุธ จะทำหน้าอย่างไร เพราะ เสี่ยตือ คือคนที่อยู่กับ เตี่ยบรรหาร มายาวนาน แล้วก็เคยได้ใบบุญของ บรรหารจนได้เติบโตกล้าแข็งทางการเมือง แต่ก็มีเสียงตอบกลับว่า วราวุธ เองนั่นแหละที่ต้องรู้สึกอาย เสี่ยตือ และเหล่ากุมารของเสี่ยตือ เพราะการที่ เสี่ยตือ ทิ้งพรรคชาติไทยพัฒนาของ บรรหาร ยังไม่น่าอับอายเท่ากับลูกชายเตี่ยบรรหารทิ้งพรรคของเตี่ย แต่ไม่ว่าจะอะไรก็ตาม เสี่ยตือกับวราวุธก็น่าจะมีแนวคิดเดียวกัน คือ เป็นฝ่ายค้านมันอดอยากปากแห้ง

...■■ ปิดท้ายด้วยความเก๋าเกมการเมืองของ อนุทิน เพราะเห็นชัดๆ ว่า แม้จะพลิ้วเรื่องเอาชื่อ เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ กับ ศุภจี สุธรรมพันธ์ุไปเป็นผู้ชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีร่วมในนามพรรคภูมิใจไทย ทั้งๆ ที่ เอกนิติ และ ศุภจี ยังไม่รู้ตัวมาก่อน แต่เมื่อ candidates ทั้งสองรายไม่ได้ตอบสนองการกระทำของ อนุทิน มากนัก แต่ก็ไม่ได้ประกาศคัดค้านต่อต้านการกระทำของอนุทิน ก็น่าจะเท่ากับว่าสองรายนั้นก็น่าจะเออออห่อหมกอยู่มิใช่น้อย แต่มีคำถามว่า เอกนิติกับศุภจี แน่ใจจริงๆ หรือว่าจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี ถามจริงๆ คอการเมืองบอกว่าหากศุภจีได้เป็นนายกรัฐมนตรีจริงๆ ละก็ ต้องบอกเลยว่า เป็นสิ่งมหัศจรรย์อันดับ 8 ของโลก แต่สำหรับ อนุทิน แล้ว ก็ต้องบอกว่าเจ๋งสุดๆ เพราะวิ่งแก้ปัญหางานต่างๆ แบบลิงแก้แห เพราะไม่ว่าจะมีปัญหาอะไรตรงไหนเกิดขึ้น อนุทิน ก็จะพุ่งไปทันที แต่จะแก้ปัญหาได้หรือไม่ ไม่รู้ แต่รู้แค่ว่าเมื่อมีปัญหาที่ไหน หนู-อนุทิน ไปปรากฏกายทันที แต่ไปแล้วปัญหาหมดหรือไม่หมดไม่ใช่สาระสำคัญ สำคัญอยู่ที่ได้ไปปรากฏตัวแล้วเท่านั้น แบบนี้ไม่ได้คะแนนการเมืองจากคนที่ตามเกมไม่ทัน ก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรแล้ว...■■

ธรรมกร