ชาวลุ่มน้ำคลองวังโตนด จ.จันทบุรี ขานรับแผนสร้างอ่างเก็บน้ำคลองวังโตนดปูทางพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวเชิงนิเวศในพื้นที่สัมผัสความงามของธรรมชาติ 4 อ่างเก็บน้ำ เชิญชวนนักท่องเที่ยวร่วมกิจกรรมดูช้างป่าแบบใกล้ชิด ชมวิว 360 องศาวัดเขารุ่งโรจน์ ล่องแก่งต้นน้ำคลองวังโตนด กระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยวชุมชนสร้างรายได้เสริมมั่นคง
นายวิเชียร งามระเบียบ คณะทำงานลุ่มน้ำวังโตนด และประธานท่อน้ำดิบสายที่ 5 เปิดเผยว่า แผนการพัฒนาโครงการพัฒนาอ่างเก็บน้ำคลองวังโตนด จ.จันทบุรี ได้มีการประชุมร่วมกัน ระหว่างกรมชลประทาน หน่วยงานท้องถิ่น และประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยทุกฝ่ายเห็นประโยชน์ของการอ่างเก็บน้ำที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งจะเพิ่มศักยภาพเป็นแหล่งกักเก็บน้ำให้กับประชาชนที่มีความจุกักเก็บน้ำถึง 99.5 ล้านลบ.ม. เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จประชาชนจะได้รับประโยชน์ 3 อำเภอ ประกอบด้วย อ.แก่งหางแมว อ.ท่าใหม่ และ อ.นายายอามโดยเฉพาะพื้นที่ อ.แก่งหางแมว ที่คาดว่าจะมีเกษตรกรปรับเปลี่ยนมาปลูกสวนผลไม้ (ทุเรียน) ร้อยละ 50 ของพื้นที่ทั้งหมด ซึ่งจะเป็นการเพิ่มปริมาณการส่งออกทุเรียนของจังหวัดได้เพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันมีการส่งออก สูงถึงปีละประมาณ 1 แสนล้านบาท และยังสามารถสร้างรายไห้กับประชาชนเพิ่มขึ้น นอกจากเป็นแหล่งเพาะปลูกผลไม้ที่มีศักยภาพแล้ว ยังสามารถยกระดับเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ อีกแห่งหนึ่งของจังหวัด
“ในอนาคตหากอ่างเก็บน้ำคลองวังโตนดก่อสร้างแล้วเสร็จ จะส่งผลให้ อ.แก่งหางแมวสามารถพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันดับต้น ๆ ของ จ.จันทบุรี เนื่องจากมีความพร้อมในเรื่องความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่า และสัตว์ป่า ที่มีแผนการฟื้นฟู เพื่อยกระดับสู่การเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ของแหล่งน้ำต่อเนื่องจาก 4 อ่างเก็บน้ำประกอบด้วย 1.อ่างเก็บน้ำคลองประแกด 2.อ่างเก็บน้ำคลองพะวาใหญ่ 3. อ่างเก็บน้ำคลองหางแมว และ 4.อ่างเก็บน้ำคลองวังโตนด”นายวิเชียร กล่าว
ทั้งนี้มั่นใจว่าจะสามารถยกระดับพื้นที่เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้สัมผัสและชมความงามทางธรรมชาติ เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจและทำกิจกรรมได้หลากหลาย ทั้งชมโขลงช้างป่ากว่า 40-50 ตัวบริเวณอ่างเก็บน้ำคลองประแกดที่มีโครงการขุดคลองกันช้าง เพื่อสร้างความปลอดภัย โดยจะพัฒนาเป็นจุดศึกษา เปิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย ชาวต่างชาติ เข้าดูช้างป่าแบบใกล้ชิด โดยชุมชนจะมีแผนผลักดันให้มีการสร้างหอคอย “ดูช้าง” ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ในพื้นที่อีกด้วย
ด้านนางศรีไพ ฐานทอง ผู้ใหญ่บ้าน บ้านคลองยายไท หมู่ 18 ต.ขุนซ่อง อ.แก่งหางแมว กล่าวว่า ในพื้นที่ ต.ขุนซ่อง เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่จะได้รับประโยชน์จากโครงการโดยตรง เพราะเป็นที่ราบชัน มีภูเขาและป่าไม้ที่ยังคงความอุดมบูรณ์ มีแหล่งท่องเที่ยวที่มีสภาพธรรมชาติที่ร่มรื่นสวยงาม โดยชาวบ้านมองว่า ในอนาคตเมื่ออ่างเก็บน้ำคลองวังโตนดก่อสร้างแล้วเสร็จ จะช่วยยกระดับแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น เพราะมีสถานที่ต่างๆ เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชื่อมโยง ไม่ว่าจะเป็น ไหว้พระใหญ่ วัดเขารุ่งโรจน์ ซึ่งบนยอดเขามีพระขาวขนาดใหญ่ ที่สามารถเป็นจุดชมวิว 360 องศา การเข้าชมฟาร์มจักรกริซ ฟาร์มเกษตรผสมผสานครบวงจรตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง น้ำตกเขาสิบห้าชั้น กิจกรรมล่องแก่งต้นน้ำคลองวังโตนด ที่ฐานปฏิบัติการป้องกันรักษาป่าที่ จบ.3 ซึ่งอยู่ในการดูแลของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช บริการห้องพักรับรอง ลานกางเต็นท์ และกิจกรรมพายเรือชมธรรมชาติ และส่องสัตว์ในตอนกลางคืน
“บริเวณรอบอ่างเก็บน้ำประชาชนยังสามารถทำการเกษตร เช่น ปลูกผัก ปลูกผลไม้ในพื้นที่โดยรอบ ในอ่างเก็บน้ำยังสามารถทำประมงน้ำจืด รวมถึงการท่องเที่ยวในพื้นที่รอบแหล่งน้ำได้ เป็นการยกระดับเศรษฐกิจ ชุมชนให้มีรายได้อย่างยั่งยืน” นางศรีไพ กล่าว
ด้าน นายมนต์เทียน คำแก้ว ชาวสวนผลไม้ หมู่ 18 ต.ขุนซ่อง อ.แก่งหางแมว กล่าวว่า มั่นใจว่าหากมีการพัฒนาอ่างเก็บน้ำคลองวังโตนด ตนจะได้รับประโยชน์ ที่จะมีแหล่งน้ำต้นทุนเพิ่มขึ้นในพื้นที่ เพื่อการทำเกษตรได้ตลอดทั้งปี และผลผลิตก็จะเพิ่มขึ้น ในอนาคตจะเพิ่มการเพาะปลูกไม้ผลทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะทุเรียน ที่จำเป็นจะต้องให้น้ำปริมาณมากในการดูแลเพื่อเพิ่มปริมาณและคุณภาพ ทำให้มีรายได้เสริมนอกเหนือจากการปลูกยาง โดยวางแผนปลูก เงาะ ทุเรียน มังคุด ลองกอง ขนุน และมะพร้าว เพื่อรองรับโครงการที่จะเกิดขึ้น
-(016)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี