วันอังคาร ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ประชาสัมพันธ์
บทวิเคราะห์: จีนยืนหยัด

บทวิเคราะห์: จีนยืนหยัด "การควบคุมโควิด-19 ให้เหลือศูนย์" เป็นทางเลือกดีที่สุด

วันจันทร์ ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2565, 15.12 น.
Tag : จีน โควิด-19
  •  

ปัจจุบัน การที่จีนจะรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 ในท้องที่ต่างๆ ซึ่งรวมถึงนครเซี่ยงไฮ้ด้วยอย่างไรนั้นยังคงเป็นประเด็นร้อนที่ประชาคมระหว่างประเทศจับตามองด้วยความสนใจ ภายใต้สภาพที่ประเทศส่วนใหญ่ในโลกพากันเลือกที่จะ "อยู่ร่วมกับไวรัส" บุคคลจำนวนหนึ่งทั้งภายในและต่างประเทศมีมุมมองว่าจีนก็ควรเลือกที่จะ "อยู่ร่วมกับไวรัส" เช่นเดียวกัน แต่ในช่วงเวลาไม่นานที่ผ่านมารัฐบาลจีนได้เน้นย้ำหลายครั้งว่า ในเรื่องรับมือกับโรคโควิด-19 นั้นจีนจะยังคงยืนหยัดแนวนโยบายหลักซึ่งก็คือ"การควบคุมโควิด-19 ให้เหลือศูนย์" ต่อไป

เมื่อพิจารณาจากปัจจัยในด้านต่างๆ  กล่าวสำหรับประเทศจีนแล้ว "การควบคุมโควิด-19 ให้เหลือศูนย์" นั้นยังคงเป็นทางเลือกและแนวทางที่ดีที่สุดในปัจจุบันอย่างแท้จริง


ผู้เชี่ยวชาญจีนได้กล่าวชี้เมื่อเร็วๆนี้ว่า จะมองไวรัสโอมิครอนเสมือนไข้หวัดใหญ่ไม่ได้เป็นอันขาด ในการวัดความร้ายแรงของเชื้อไวรัสนั้นจำเป็นต้องพิจารณาอย่างรอบคอบทั้งระดับความรุนแรงในการแพร่เชื้อและจำนวนผู้ป่วยอาการหนักและผู้เสียชีวิต ความสามารถในการแพร่ระบาดของไวรัสโอมิครอนนั้นสูงกว่าไวรัสไข้หวัดและไวรัสกลายพันธุ์โควิด-19 อื่นๆ ก่อนหน้านี้เป็นอย่างมาก หากไม่ใช้มาตรการป้องกัน เฉลี่ยแล้วคนหนึ่งสามารถแพร่เชื้อได้ 9.5 คน มองจากแง่อัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วย อัตราการเสียชีวิตถัวเฉลี่ยของผู้ป่วยโรคไข้หวัดทั่วโลกอยู่ที่ 0.1% ในขณะที่อัตราการเสียชีวิตถัวเฉลี่ยของผู้ป่วยติดเชื้อกลายพันธุ์โอมิครอนอยู่ที่ 0.75% ซึ่งคิดเป็นประมาณ 7 ถึง 8 เท่าของไข้หวัด สำหรับกลุ่มผู้สูงอายุโดยเฉพาะผู้ที่มีอายุมากกว่า 80 ปีนั้น อัตราการเสียชีวิตเกิน 10% ซึ่งคิดเป็นเกือบ 100 เท่าของไข้หวัดทั่วไป

จีนเป็นประเทศที่มีประชากรมาก แม้จะมีอัตราการเสียชีวิตที่ต่ำ แต่เมื่อคูณด้วยฐานประชากรที่มากกว่า 1,400 ล้านคน ยอดตัวเลขผู้เสียชีวิตนั้นก็สูงมาก ซึ่งย่อมไม่สอดคล้องกับแนวคิดการปกครองประเทศของพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่ว่า "ประชาชนสำคัญที่สุด ชีวิตสำคัญที่สุด" ดังนั้น แม้ว่าจะมีความยากลำบากและต้นทุนที่สูงมาก แต่ขอเพียงแต่มีความเป็นไปได้เท่านั้น รัฐบาลจีนก็ย่อมยังคงยืนหยัด "การควบคุมโควิด-19 ให้เหลือศูนย์" ต่อไป เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ความปลอดภัยในชีวิตและสุขภาพร่างกายของประชาชนเผชิญกับภัยคุกคามอันร้ายแรง

นักวิเคราะห์มีมุมมองโดยทั่วไปว่า การมีขีดความสามารถและเงื่อนไขในการบรรลุ "การควบคุมโควิด-19 ให้เหลือศูนย์" นั้นเป็นเหตุผลสำคัญอีกประการหนึ่งที่จีนได้เลือกกลยุทธ์นี้ การที่จีนกล้าที่จะเลือกเดินหนทาง"การควบคุมโควิด-19ให้เหลือศูนย์"นั้น มีขึ้นจากการพิจารณาจากสภาพประเทศและความได้เปรียบด้านระบบของจีน เช่น พรรครัฐบาลมีภาวะผู้นําที่ทรงพลัง มีขีดความสามารถในการระดมสรรพกำลังและจัดสรรทรัพยากรทางสังคมที่เข้มแข็งเป็นพิเศษ และระบบสังคมนิยมที่มีอัตลักษณ์ของจีนซึ่งสามารถ "รวมพลังทําสิ่งที่ยิ่งใหญ่" ได้ ตัวอย่างเช่น ปัจจุบันจีนได้ระดมและจัดส่งเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์เกือบ 50,000 คนจากท้องที่ต่างๆทั่วประเทศไปสนับสนุนการต้านโควิด-19 ของนครเซี่ยงไฮ้ ส่วนนครเซี่ยงไฮ้ได้ระดมสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีนมากกว่า 700,000 คนให้ปฏิบัติงานอยู่ในแนวหน้าของการต่อสู้กับโรคระบาด อัตราส่วนของสมาชิกพรรคฯในอาสาสมัครชุมชนบางแห่งสูงถึง 90% บรรดาสมาชิกพรรคฯมีบทบาทสำคัญเชิงเสาค้ำในการป้องกันและควบคุมโรคระบาด

การที่จีนยืนหยัด "การควบคุมโควิด-19 ให้เหลือศูนย์"นั้นก็เพื่อแสวงหาการบูรณาการการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมกับการป้องกันและควบคุมโควิด-19 ในระดับสูงสุด ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่ากลยุทธ์นี้มีประสิทธิผลเป็นที่น่าพอใจ มาตรการป้องกันและควบคุมที่แม่นยำและถูกหลักวิทยาศาสตร์ได้ยับยั้งการระบาดของโควิด-19 ให้จำกัดอยู่ในขอบเขตที่เล็กที่สุด จึงได้ลดผลกระทบต่อการผลิตและชีวิตทางสังคมให้เหลือน้อยที่สุด จีนสามารถบรรลุอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในระดับ 8.1% เมื่อปีที่แล้วก็คือข้อพิสูจน์ที่ดีที่สุด

อีกตัวอย่างเช่น มณฑลจี๋หลินของจีน นับตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด-19 เมื่อต้นเดือนมีนาคมปีนี้ มณฑลจี๋หลินรายงานผู้ติดเชื้อสะสมกว่า 70,000 คน หลังผ่านการต่อสู้ด้วยความยากลำบากเป็นเวลากว่า 1 เดือน มณฑลนี้ได้ประกาศบรรลุเป้าหมาย “การควบคุมโควิด-19 ให้เหลือเป็นศูนย์ทางสังคม”เมื่อวันที่ 14 เมษายนที่ผ่านมา และได้ฟื้นฟูระเบียบการผลิตและการดำรงชีวิตในขั้นพื้นฐานแล้ว

นอกจากนี้ แม้ว่าบางท้องถิ่นของจีนมีข้อผิดพลาดและข้อบกพร่องบ้างในระหว่างการดำเนินมาตรการป้องกันและควบคุมโรคระบาดอย่างเข้มงวด และก็มีความไม่พอใจและความคิดเห็นที่แตกต่างกันด้วยก็ตาม แต่นโยบาย "การควบคุมโควิด-19 ให้เหลือศูนย์" นั้นได้รับความเข้าใจ การสนับสนุนและความร่วมมือจากประชาชนจีนส่วนใหญ่ ทั้งนี้ก็เป็นเพราะว่าผลกระทบทางลบจาก "การควบคุมโควิด-19 ให้เหลือศูนย์" นั้นย่อมน้อยกว่าผลกระทบที่จะเกิดขึ้นหากจีนเลือกที่จะ "อยู่ร่วมกับไวรัส" กล่าวได้ว่า การสนับสนุนอย่างกว้างขวางของประชาชนก็คือความมั่นใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของรัฐบาลจีนในการเลือก "การควบคุมโควิด-19 ให้เหลือศูนย์"

สุดท้าย สิ่งที่น่าเอ่ยถึงคือ แก่นแท้ของนโยบาย"การควบคุมโควิด-19 ให้เหลือศูนย์"นั้นคือ ดำเนินการควบคุมการระบาดของโควิด-19  แต่ละครั้งให้ได้ตั้งแต่แรกพบภายใต้สภาพที่ปัจจุบันยังไม่สามารถกำจัดเชื้อโรคได้และไม่สามารถยับยั้งการติดเชื้อได้อย่างเบ็ดเสร็จ เวลานี้จีนกําลังช่วงชิงเวลาผ่าน"การควบคุมโควิด-19 ให้เหลือศูนย์"เพื่อเตรียมความพร้อมที่เกี่ยวข้องให้ดี ซึ่งรวมถึงการลงลึกทำความเข้าใจเชื้อไวรัส การฉีดวัคซีนอย่างกว้างขวางยิ่งขึ้นและการพัฒนายาที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เป็นต้น เพื่อเอาชนะโควิด-19 ในที่สุด

เขียนโดย ลู่ หย่งเจียง ภาคภาษาไทย ศูนย์เอเชียแอฟริกา สถานีวิทยุและโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน (CMG)

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ผู้บริหารรุ่นใหม่ธุรกิจไทย-จีนรุ่นที่ 1 ศึกษาดูงานที่ K-Tech และ Huawei ณ เมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน ผู้บริหารรุ่นใหม่ธุรกิจไทย-จีนรุ่นที่ 1 ศึกษาดูงานที่ K-Tech และ Huawei ณ เมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน
  • สมาคมธุรกิจเกมฯพาศิลปินไทยลุยจีน หวังภาครัฐผลักดันอุตสาหกรรม ส่งเสริมนโยบาย Soft Power สมาคมธุรกิจเกมฯพาศิลปินไทยลุยจีน หวังภาครัฐผลักดันอุตสาหกรรม ส่งเสริมนโยบาย Soft Power
  • มุ่งสู่ความทันสมัยเพื่อสร้างชุมชนจีน-แอฟริกาที่มีอนาคตร่วมกันระดับสูง มุ่งสู่ความทันสมัยเพื่อสร้างชุมชนจีน-แอฟริกาที่มีอนาคตร่วมกันระดับสูง
  • วิเคราะห์กำลังการผลิตจีน ล้นเกินหรือไม่? วิเคราะห์กำลังการผลิตจีน ล้นเกินหรือไม่?
  • \'ณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล\' นั่งเก้าอี้ประธานหอการค้าไทย-จีน ต่ออีกสมัย เป็นสมัยที่ 3 'ณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล' นั่งเก้าอี้ประธานหอการค้าไทย-จีน ต่ออีกสมัย เป็นสมัยที่ 3
  •  

Breaking News

ราชกิจจาฯ เผยแพร่ ประกาศ สธ. ให้ยาทรามาดอล (Tramadol) เป็นยาควบคุมพิเศษ

'ปราชญ์ สามสี' วิเคราะห์กำแพงภาษี 36% ทรัมป์ บททดสอบความ'ศิโรราบ'ไม่ใช่แค่เศรษฐกิจ

'กินเนสส์ฯ'ประกาศสุดยอดบลูชีสจากสเปน ขึ้นแท่น'ชีสที่แพงที่สุดในโลก'ด้วยราคา1.35ล้าน

(คลิป) เจรจาภาษีอย่าหวังได้อะไรจาก'ทรัมป์' อย่าเสีย 'ฐานทัพเรือพังงา' เป็นพอ

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved