'สยามเทคโนโพล' เผยผลสำรวจปชช.ส่วนใหญ่เชื่อนโยบายด้านจริยธรรมกำจัดสินบนได้มาก-มากที่สุด ชี้ รัฐควรมีนโยบาย-ให้ความรู้ต่อต้านการรับสินบนตั้งแต่ระดับโรงเรียน
เมื่อวันที่ 2 ก.พ.2567 สำนักวิจัยสยามเทคโนโพล วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “นโยบายด้านจริยธรรมกำจัดสินบนได้หรือไม่” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 23–30 ม.ค.2567 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,330 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับความคิดเห็นนโยบายด้านจริยธรรมกำจัดสินบนได้หรือไม่ การสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “สยามเทคโนโพล” สุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-Stage Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ และโปรแกรม Google Form โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่น ร้อยละ 95.00
จากการสำรวจเมื่อถามความคิดเห็นของประชาชนที่มีอายุ 18 ปี ขึ้นไป เกี่ยวกับนโยบายด้านจริยธรรมกำจัดสินบนได้หรือไม่ พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 26.39 ระบุว่า เชื่อว่านโยบายด้านจริยธรรมกำจัดสินบนได้ในระดับมากที่สุด มากที่สุด รองลงมา ร้อยละ 22.26 ระบุว่า เชื่อว่านโยบายด้านจริยธรรมกำจัดสินบนได้ในระดับมาก ร้อยละ 16.31 ระบุว่า เชื่อว่านโยบายด้านจริยธรรมกำจัดสินบนได้ในระดับปานกลาง ร้อยละ 13.08 ระบุว่า เชื่อว่านโยบายด้านจริยธรรมกำจัดสินบนได้ในระดับน้อยที่สุด ร้อยละ 12.56 ระบุว่า เชื่อว่านโยบายด้านจริยธรรมกำจัดสินบนได้ในระดับน้อย และร้อยละ 9.40 ระบุว่า ไม่แสดงความคิดเห็น
ท้ายที่สุดเมื่อสอบถามความคิดเห็นของประชาชนที่มีอายุ 18 ปี ขึ้นไป เกี่ยวกับความคิดเห็นของประชาชนว่ารัฐบาลควรมีนโยบายใดเพื่อกำจัดการรับสินบนในระยะยาว พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 33.23 ระบุว่า รัฐบาลควรมีนโยบายการปลูกฝังและให้ความรู้การต่อต้านการรับสินบนในโรงเรียน มากที่สุด รองลงมา ร้อยละ 16.84 ระบุว่า รัฐบาลควรมีนโยบายการสร้างวัฒนธรรมและค่านิยมการไม่รับสินบนในสังคม ร้อยละ 13.83 ระบุว่า รัฐบาลควรมีนโยบายการกำหนดกฎหมายบทลงโทษการรับสินบนอย่างเด็ดขาด ร้อยละ 13.38 ระบุว่า รัฐบาลควรมีนโยบายการเพิ่มโทษกรณีเจ้าหน้าที่รัฐรับสินบน ร้อยละ 11.66 ระบุว่า รัฐบาลควรมีนโยบายการเปิดเผยข้อมูลของภาครัฐเพื่อให้ประชาชนร่วมตรวจสอบ ร้อยละ 10.76 ระบุว่า รัฐบาลควรมีนโยบายการปกป้องผู้แจ้งเบาะแสการรับสินบน และ ร้อยละ 0.30 ระบุว่า ไม่แสดงความคิดเห็น
เมื่อพิจารณาลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 9.92 มีภูมิลำเนาอยู่กรุงเทพมหานคร ร้อยละ 17.52 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคกลาง ร้อยละ 16.32 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคเหนือ ร้อยละ 33.16 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยละ 14.74 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคใต้ และร้อยละ 8.34 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคตะวันออก ตัวอย่าง ร้อยละ 49.55 เป็นเพศชาย และร้อยละ 50.45 เป็นเพศหญิง
สำหรับความเห็นของ ดร.ธนเสฏฐ์ อัคคัญภูญ์ภูดิส อาจารย์ประจำสำนักวิจัย สยามเทคโนโพล วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม ให้ความเห็นเพิ่มเติมในกรณีนี้ว่า “จริยธรรม” หรือ “ความมีจิตสำนึกที่ดีในจิตใจ” จะสามารถลดปัญหาการทุจริตในรูปแบบการให้สินบนและอื่นๆได้จริง เพราะเกิดจากการสั่งสมคุณงามความดี การปลูกฝังหลักธรรมทางพระศาสนาที่มากพอ จะส่งผลให้มีภูมิต้านทาน ต่อค่านิยมทางวัตถุที่ได้มาด้วยความไม่บริสุทธิ์ ให้ไม่เหนือไปกว่าความซื่อสัตย์ สุจริต ถูกต้อง โปร่งใส ซึ่งสังคมไทยจำเป็นต้องมีการปลูกฝัง คุณธรรม จริยธรรม เพื่อเป็นค่านิยมหลักในการทำงานและการดำเนินชีวิต เพื่อความถูกต้อง เป็นที่ยอมรับได้อย่างสนิทใจ ในขณะที่ภาครัฐต้องมีความจริงจัง จริงใจ ในการป้องปราม ปฎิเสธการคอรัปชั่นในทุกรูปแบบอย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็นการออกกฎ ระเบียบและการแก้กฎหมายให้มีความเข้มข้นและเข้มขลัง มีการตัดสินอย่างยุติธรรมเพื่อเป็นบรรทัดฐานที่ดี ก็จะสามารถช่วยให้สังคมไทย ปราศจากปัญหานี้ได้อย่างเป็นรูปธรรม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี