สมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน จัดเสวนาถอดบทเรียนธุรกิจไทย-จีน จากผู้บริหารร้าน CQK หมาล่าหม้อไฟ และผู้เชี่ยวชาญด้านตลาดจีน เน้นย้ำเคล็ดลับสู่ความสำเร็จด้วยเทคโนโลยีและเข้าใจผู้บริโภค

สมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน ร่วมกับหอการค้าไทย-จีน โดยการสนับสนุนจากสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย รายการจับจ้องมองจีน และ China Media Group จัดงานเสวนา "ถอดบทเรียนจากประสบการณ์ตรง" ในหลักสูตรผู้บริหารรุ่นใหม่ธุรกิจไทย-จีน รุ่นที่ 1 (Young Executive Program) เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2568 ณ โรงแรมดิ เอมเมอรัลด์ กรุงเทพฯ โดยได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ 2 ท่าน ได้แก่ คุณกัว ตงเหมย ผู้บริหารร้าน CQK หมาล่าหม้อไฟ และคุณเมเม่ วานิสษา งามหอมชื่นสกุล CEO บริษัท เอ็ม พลัส วัน เน็ตเวิร์ค มีเดีย จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำธุรกิจไทย-จีน

คุณกัว ตงเหมย ผู้ประกอบการร้านอาหารจีน ได้เล่าถึงจุดเริ่มต้นของร้าน CQK หมาล่าหม้อไฟในประเทศไทยว่า "มาอยู่ที่ประเทศไทยในปี 2551 ก่อนที่จะเริ่มต้นธุรกิจ เป็นคนชอบทานอาหารประเภทชาบู ได้ไปลองทานชาบูที่มีอยู่ในไทยเกือบทุกร้าน ทำให้รู้สึกว่ายังไม่มีอาหารแบบหม้อไฟสไตล์จีน และคิดว่าคนไทยก็น่าจะชอบอาหารที่มีรสชาติจัดจ้าน จึงเป็นจุดเริ่มต้นของร้านอาหารชาบูหม่าล่า"

ปัจจุบันร้าน CQK มี 6 สาขาในประเทศไทย และมีการพัฒนารสชาติให้ถูกปากคนไทยมากขึ้น นอกจากนี้ คุณกัวยังได้แบ่งปันเคล็ดลับการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการจัดการร้านอาหารอย่างมีประสิทธิภาพ "วันนี้จะมาแบ่งปันประสบการณ์ในการนำเทคโนโลยีมาเพื่อช่วยจัดการในร้านอาหาร ประกอบด้วย 1.การรอคิว 2.การสั่งอาหาร 3.การสต็อกอาหารในร้าน 4.การเรียกเก็บเงิน" โดยเน้นย้ำถึงประโยชน์ของการใช้ระบบจัดการคิว ระบบสั่งอาหารออนไลน์ และระบบสต็อกสินค้า เพื่อลดความผิดพลาดและเพิ่มความรวดเร็วในการบริการ "สิ่งสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจร้านอาหารประสบความสำเร็จได้ จะต้องคำนึงถึงเรื่องวัตถุดิบที่นำมาให้ลูกค้าได้รับประทาน และยังต้องคำนึงถึงความสะอาดเป็นหลัก การใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการร้านได้ดีมากขึ้นก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะประสบความสำเร็จได้"

คุณเมเม่ วานิสษา ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำธุรกิจไทย-จีน ได้เล่าถึงประสบการณ์การใช้เทคโนโลยีในการสร้างธุรกิจให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด "เริ่มต้นจากการเรียนจบด้านธุรกิจระหว่างประเทศจากจีน ทำให้รู้ว่าจีนถูกขนานนามว่า เป็นโรงงานผลิตของโลก เพราะเห็นได้จากสินค้าทุกอย่างมีคำว่า Made in China" และต่อยอดมาสู่การสร้างคอนเทนต์บน TikTok ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง "พอช่วงปี 2560 ได้เปิดตัว TikTok ที่เป็นแอปพลิเคชันที่เป็นบริการเครือข่ายสังคมสัญชาติจีน จึงเริ่มทำคอนเทนต์ในช่องทาง TikTok ช่วงแรกก็ไม่มีผู้ติดตามเลย จนกระทั่งทำเนื้อหาในคลิปที่ทำให้คนสนใจ คือ “ทำไม คนจีนอยากได้คนไทยเป็นภรรยา” จากเนื้อหาที่โดนใจชาว TikTok ส่งผลให้มีผู้ติดตามเพิ่มมากขึ้น"

คุณเมเม่ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคชาวจีนว่า "พอทำธุรกิจกับคนจีนมากขึ้นเรื่อยๆ ก็ทำให้เรียนรู้พฤติกรรมความต้องการของคนจีน" และการใช้เทคโนโลยีในการสร้างการเติบโตทางธุรกิจ "หลังจากนั้นก็ขยายขอบเขตของงานเพิ่มขึ้น จากจุดเริ่มต้นของการทำธุรกิจไทย-จีน ก็คือมีผู้ติดตามที่สนใจอยากจะทำธุรกิจเกี่ยวกับสินค้าจีน มาปรึกษาว่าควรจะขายสินค้าแบบไหน ในปัจจุบันคนสนใจเกี่ยวกับสินค้าประเภทไหน และต้องทำธุรกิจอย่างไร"

นอกจากนี้ หลังงานเสวนาครั้งนี้ ผู้เข้าร่วมอบรมยังได้เข้าร่วมประชุมโครงงานกลุ่มกับอาจารย์ที่ปรึกษา และรับฟังรายละเอียดการเดินทางไปศึกษาดูงาน ณ เมืองเซินเจิ้น มณฑลกวางตุ้ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ในวันที่ 2-6 มีนาคม 2568