ใกล้ปลายปีทีไร หลายคนต้องเริ่มคิดเรื่อง “ภาษี” ที่ต้องจ่ายในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าทุกที แต่รู้หรือไม่ว่าคุณสามารถเปลี่ยนเงินที่ต้องเสียไป ให้กลายเป็นการลงทุนเพื่อความคุ้มครองในอนาคตได้ ผ่านการลดหย่อนภาษีโดยใช้ประกัน ซึ่งหากวางแผนให้ดี ก็สามารถช่วยลดหย่อนภาษีได้หลักหมื่น แถมยังได้ประกันไว้ดูแลสุขภาพและชีวิตอีกด้วย

คำถามคือต้องเลือกแบบไหนถึงจะคุ้มจริง ใช้สิทธิยังไงให้ไม่ซ้ำซ้อน หรือควรจัดสัดส่วนยังไงระหว่างประกันชีวิตกับการลงทุน ?

ประกันชีวิต พื้นฐานของการลดหย่อนภาษีด้วยประกัน

สิทธิลดหย่อนจากเบี้ยประกันชีวิตตามกฎหมาย สามารถใช้ได้สูงสุด 100,000 บาทต่อปี สำหรับกรมธรรม์ที่มีระยะเวลาไม่น้อยกว่า 10 ปี และไม่มีผลตอบแทนระหว่างสัญญา

ข้อดีของการใช้ลดหย่อนภาษีด้วยประกันในหมวดนี้คือความเรียบง่าย ไม่มีเงื่อนไขซับซ้อน เพียงเลือกแผนคุ้มครองชีวิตระยะยาวที่ตอบโจทย์ พร้อมเอกสารรับรองจากบริษัทประกัน ก็สามารถใช้ยื่นลดหย่อนภาษีได้ทันที

ประกันบำนาญ คิดยาวไปถึงหลังเกษียณ

ถัดจากประกันชีวิตแบบทั่วไป หากมองไกลถึงชีวิตหลังเกษียณ ประกันบำนาญ คือตัวเลือกที่ดีมาก เพราะนอกจากจะช่วยวางแผนเงินใช้ระยะยาว ยังใช้สิทธิในการลดหย่อนภาษีด้วยประกัน ได้เพิ่มอีก สูงสุด 200,000 บาท (รวม RMF ไม่เกิน 500,000 บาท และไม่เกิน 15% ของรายได้)

หลายคนมักมองข้ามหมวดนี้เพราะเบี้ยต่อปีสูงกว่า แต่หากใช้ควบคู่กับ RMF อย่างมีแผน ก็สามารถลดหย่อนรวมกันได้เต็มเพดาน ยิ่งคนมีรายได้ระดับกลางถึงสูง จะเห็นความต่างของเงินภาษีที่ลดลงได้ชัดเจน

ประกันสุขภาพ ลดได้ทั้งของตัวเองและคู่สมรส

อีกหนึ่งช่องทางลดหย่อนภาษีด้วยประกันที่คุ้มค่า คือเบี้ยประกันสุขภาพ ซึ่งจะสามารถลดหย่อนได้ สูงสุด 25,000 บาท (แต่เมื่อรวมกับประกันชีวิต ต้องไม่เกิน 100,000 บาท)

นอกจากนี้ยังสามารถใช้สิทธิลดหย่อนประกันสุขภาพของ “คู่สมรส” ได้อีกคนละไม่เกิน 25,000 บาท โดยมีเงื่อนไขว่าต้องจดทะเบียนสมรสอย่างถูกต้อง และคู่สมรสต้องไม่มีรายได้เป็นของตนเอง กรณีนี้เหมาะมากกับครอบครัวที่อยากมีความคุ้มครองสุขภาพให้คู่ชีวิต โดยไม่เสียสิทธิภาษีเปล่า

ระวังการซื้อเกินสิทธิและการใช้เอกสารไม่ครบ

แม้การใช้สิทธิลดหย่อนภาษีด้วยประกันจะคุ้มค่า แต่ต้องระวังเรื่องการซื้อประกันเกินเพดาน หรือลืมขอเอกสารรับรองจากบริษัทประกัน ซึ่งจะทำให้เสียสิทธิทันที นอกจากนี้ยังควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าแบบประกันที่เลือกเข้าเกณฑ์กรมสรรพากร เช่น ต้องไม่มีผลตอบแทนระหว่างสัญญา หรือมีระยะเวลาไม่น้อยกว่า 10 ปี เป็นต้น

การใช้สิทธิในการลดหย่อนภาษีด้วยประกันไม่ใช่แค่เรื่องของการจ่ายน้อยลง แต่คือการเลือกลงทุนให้ชีวิตมีความมั่นคงมากขึ้น หากวางแผนดีและเลือกผลิตภัณฑ์ประกันอย่างเหมาะสม ก็สามารถเซฟเงินในมือได้มากกว่าที่คิด ทั้งยังเป็นการเตรียมพร้อมรับมืออนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ