DPU ปฐมนิเทศนักศึกษาบัณฑิตศึกษา 2568 จุดประกายเส้นทางพร้อมปลุกศักยภาพผู้นำยุคใหม่การเรียนรู้ตลอดชีวิต
มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) จัดงานปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่ระดับบัณฑิตศึกษา ประจำปีการศึกษา 2568 ภายใต้แนวคิด “Spark Your Success” เพื่อต้อนรับนักศึกษาใหม่สู่รั้วมหาวิทยาลัยอย่างเป็นทางการ พร้อมจุดประกายและวางรากฐานสำคัญสำหรับการเดินทางสู่การเป็นผู้นำและผู้บริหารที่มีวิสัยทัศน์ในอนาคต เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2568 ณ ห้องประชุมปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
บรรยากาศภายในงานเริ่มต้นด้วยการรับชมวิดิทัศน์การเดินทางกว่า 57 ปีของมหาวิทยาลัย ที่มุ่งมั่นผลิตผู้นำคุณภาพตามปณิธาน "นักธุรกิจเป็นผู้สร้างชาติ" สู่การปลุกศักยภาพ เปลี่ยนอนาคต พร้อมพัฒนาทักษะนำเอาเทคโนโลยีมาต่อยอด ประยุกต์ใช้ เปลี่ยนแปลงการทำงาน หรือที่เรียกว่า Digital Transformation ซึ่งการปฐมนิเทศเริ่มต้นด้วยการแสดงต้อนรับจากน้องๆ ด้วยโขนไทยประยุกต์กับเทคโนโลยีในชื่อชุดการแสดง The Romance of the Green Giant ที่สร้างความอบอุ่นใจก่อนเข้าสู่ช่วงสำคัญ โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ อธิการบดีกิตติคุณ DPU ขึ้นกล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “Spark Your Future”
ในปาฐกถา รศ.ดร.วรากรณ์ ได้เปิดเผยข้อมูลเชิงสถิติที่น่าสนใจว่า ผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทมีเพียง 2% และปริญญาเอกเพียง 0.1% ของประชากรไทยทั้งหมด การเรียนในระดับบัณฑิตศึกษาจึงเป็นการเปลี่ยนสถานะทางสังคมอย่างแท้จริง และเป็นสิ่งที่ติดตัวบุคคลไปตลอดชีวิต
“ความสำเร็จไม่ได้ขึ้นอยู่กับสติปัญญาเพียงอย่างเดียว แต่ขึ้นอยู่กับความมุ่งมั่นและวินัยในตนเอง” รศ.ดร.วรากรณ์ กล่าวพร้อมแบ่งปันคุณสมบัติ 4 ประการที่นำไปสู่ความสำเร็จ ได้แก่ ความบากบั่นมานะ ความรับผิดชอบ การเข้าใจตนเอง และการเข้าใจการพัฒนาตนเอง ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการเรียนรู้ในระดับบัณฑิตศึกษา
นอกจากนี้ ท่านยังกล่าวถึง 3 แนวคิดที่จุดประกายความคิดในชีวิต ได้แก่ ความเคารพซึ่งสะท้อนถึงการให้เกียรติผู้อื่น การเป็นตัวเองในแบบที่ดีที่สุด โดยอ้างอิงจากวรรณกรรม “ข้างหลังภาพ” ที่ว่า “แม้ไม่ได้เกิดเป็นดอกซากุระ ก็จงอย่ารังเกียจที่เกิดมาเป็นบุปผชาติอื่นเลย ขอเพียงแต่ให้เป็นดอกที่งามที่สุดในพันธุ์ของเราก็พอ” และแนวคิดเรื่องกลยุทธ์ โดยยกคำกล่าวของซุนวูว่า “ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือชัยชนะที่ผู้แพ้ไม่รู้ว่าตนเองแพ้”
หลักสูตรบัณฑิตศึกษาของ DPU ยังโดดเด่นด้วยการบูรณาการความรู้ด้าน AI เข้ากับการเรียนการสอน พร้อมพัฒนาทักษะ Soft Skills ตามแนวคิด 4C ได้แก่ Critical Thinking, Communication, Collaboration และ Creativity รวมถึงการสร้างเครือข่ายที่แข็งแกร่ง ซึ่งล้วนเป็นองค์ประกอบสำคัญสำหรับการเติบโตสู่การเป็นผู้นำในอนาคต
หลังจากนั้นเป็นช่วงแนะนำผู้อำนวยการหลักสูตรบัณฑิตศึกษาทุกหลักสูตร และต่อด้วยช่วงเวลาที่น่าสนใจและสร้างแรงบันดาลใจอย่างยิ่งคือ การเสวนา “Spark Your Potential” ซึ่งดำเนินรายการโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กุลบุตร โกเมนกุล โดยได้เชิญ 4 บุคคลต้นแบบที่ประสบความสำเร็จระดับประเทศมาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ ได้แก่ คุณรังสรรค์ พวงปราง Executive Vice President บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน), ดร.วาสนา อินทะแสง CEO of Revomed Group and the Founder of BioActive NZ1984, ดร.พัฒน์นรี สิริเลิศวรการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายการเงินและบัญชี บริษัท มาลีกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และ คุณกาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า หรือ เกรซ มิสทีนไทยแลนด์ ปี 2547 พิธีกรและนักแสดงชื่อดังประเทศไทย ซึ่งแม้แต่ละคนต่างมีเส้นทางชีวิตกับความสำเร็จที่แตกต่างกัน แต่มีจุดร่วมเดียวกันคือ “การให้ความสำคัญกับการเรียนรู้ตลอดชีวิต”
เริ่มต้นด้วย คุณกาญจน์เกล้า เล่าถึงการตัดสินใจครั้งสำคัญที่เลือกศึกษาต่อปริญญาโทในสาขาวิทยาการชะลอวัยและสุขภาพ ซึ่งเป็นสายงานที่ต่างจากอาชีพนักแสดงที่ทำมานานกว่า 20 ปี โดยมีแรงบันดาลใจจากความรู้สึก “หมดไฟ” และต้องการสร้างคอนเทนต์ที่มีความรับผิดชอบและให้ความรู้ ซึ่งแม้จะเผชิญความยากลำบากจนท้อแท้ แต่เธอก็สามารถก้าวข้ามผ่านไปได้และมีแผนที่จะศึกษาต่อในระดับปริญญาเอกด้านโภชนศาสตร์ในอนาคต โดยคุณเกรซยังเน้นย้ำถึงการทำตัวเป็น “น้ำไม่เต็มแก้ว” และไม่ปิดกั้นโอกาสในการเรียนรู้ เพราะในโลกที่เต็มไปด้วย AI นั้น การปรับตัวและ “การเรียนรู้ในทุกก้าว” จึงเป็นสิ่งจำเป็นตลอดชีวิต
ด้าน ดร.พัฒน์นรี อธิบายถึงจุดเปลี่ยนสำคัญที่เกิดขึ้นเมื่อได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็น Finance Director ซึ่งทำให้เธอตระหนักถึงความจำเป็นในการเพิ่มพูนทักษะการวิเคราะห์และความรู้ด้านการเงินสำหรับสายงานที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญมากขึ้น ด้วยความรักในการเรียนรู้ตั้งแต่วัยเด็ก ความรู้ที่ได้จากการศึกษาระดับสูงจึงสามารถนำไปใช้ในการทำงานได้จริง นอกจากนี้ เธอยังบอกว่า Soft Skills ที่สำคัญ ได้แก่ Mindset เชิงบวก, การคิดวิเคราะห์และต่อยอด (คิดนอกกรอบ) รวมถึงการทำงานร่วมกับผู้อื่น (Collaboration)
ขณะที่ในมุมของนักธุรกิจและอาจารย์ ดร.วาสนา ได้สะท้อนว่า “เวลา” คืออุปสรรคที่สำคัญที่สุด แต่การตัดสินใจลงทุนกับการศึกษาได้เปลี่ยนชีวิตเธอไปอย่างมาก ไม่เพียงช่วยให้สามารถบริหารจัดการองค์กรและสอนลูกน้องได้ดีขึ้น แต่ยังทำให้สามารถถ่ายทอดองค์ความรู้ที่ถูกต้องให้แก่ผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดร.วาสนายังเชื่อว่าการเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุด และสิ่งที่มีคุณค่าเหนือวุฒิการศึกษาคือ “ประสบการณ์จากเพื่อนร่วมคลาส” ซึ่งเป็นสิ่งที่หาซื้อไม่ได้ สำหรับ Soft Skills ที่เธอมองหาในบุคลากร ได้แก่ Adaptability (การปรับตัว), Consistency (ความมีวินัย), ทัศนคติเชิงบวก และ Owner’s Mindset หรือ “ความเป็นเจ้าของ” ในการทำงาน
ส่วนนักธุรกิจมากประสบการณ์ คุณรังสรรค์ ได้แบ่งปันประสบการณ์การผ่านพ้นวิกฤตเศรษฐกิจ โดยเน้นถึงความสำคัญของการยอมรับความจริง ทบทวนตนเอง ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน วางแผนกลยุทธ์ และมีความเชื่อมั่นในการแก้ไขปัญหา เพราะ “ความเชื่อจะทำให้เรามีกำลังใจ มีวินัยที่จะปฏิบัติตามนั้น” คุณรังสรรค์ยังย้ำทิ้งท้ายว่า ในโลกธุรกิจปัจจุบัน การทำงานคนเดียวไม่เพียงพออีกต่อไป จึงต้องมี Communication (การสื่อสาร), Connectivity และ Collaboration (การสร้างเครือข่ายและความร่วมมือ) รวมถึง Critical Thinking (การคิดเชิงวิเคราะห์) และความกล้าตัดสินใจ พร้อมแนะนำให้ทุกคนเปิดรับการเรียนรู้ตลอดชีวิต โดยเฉพาะการเข้าร่วมหลักสูตรระยะสั้นเพื่อเสริมองค์ความรู้และขยายเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง
ภายในงานยังมีการจัดกิจกรรมสร้างเครือข่ายและจับรางวัลโดย อาจารย์วรพงษ์ ปลอดมูสิก และ อาจารย์อานนท์ บัวภา ที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาใหม่ได้แลกเปลี่ยนและทำความรู้จักกัน รวมถึงการจับรางวัลเพื่อสร้างสีสันและบรรยากาศที่เป็นกันเอง พร้อมด้วยกิจกรรม “Meet & Greet” เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกๆ คนได้ทำความรู้จักกับคณาจารย์ผู้บริหารหลักสูตรจากคณะและวิทยาลัยต่างๆ โดยแต่ละท่านได้สะท้อนแนวคิดการเรียนรู้ยุคใหม่ที่ชัดเจน เช่น “Up Skill คือการได้พัฒนาตน” และ “จงเป็นเจ้านายของ AI ก่อนที่ AI จะเป็นเจ้านายคุณ” ซึ่งช่วยให้นักศึกษาเห็นทิศทางการผสาน ‘ความรู้เชิงวิชาการกับทักษะดิจิทัล’ ซึ่งจำเป็นต่อโลกการทำงานจริง อีกทั้งยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างนักศึกษาและอาจารย์ผู้สอนตั้งแต่วันแรก
และสำหรับในปีการศึกษา 2568 มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ยังได้ขับเคลื่อนศาสตร์ Potentialigence : ศาสตร์แห่งการค้นหาและปลดปล่อยศักยภาพ เป็นแกนกลางในการพัฒนานักศึกษาทุกระดับ โดยเน้น 3 ขั้นตอนหลัก ได้แก่ การค้นหา พัฒนา และปลดปล่อยศักยภาพของแต่ละบุคคล ให้สอดรับกับสโลแกน “ปลุกศักยภาพ เปลี่ยนอนาคต” หรือ “Our Future is Our Potential”
การจัดงานปฐมนิเทศในครั้งนี้ จึงไม่ใช่เพียงแค่พิธีการต้อนรับนักศึกษาใหม่ แต่เป็นการวางรากฐานสำคัญสำหรับการเดินทางสู่ความสำเร็จในระดับบัณฑิตศึกษา ด้วยแนวคิดที่มุ่งเน้นการเรียนรู้ตลอดชีวิต การพัฒนาทักษะที่จำเป็นในโลกยุคใหม่ และการปลุกศักยภาพที่ซ่อนอยู่ในตัวนักศึกษาแต่ละคนให้เบ่งบานได้อย่างเต็มที่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี