วอนรัฐฯทบทวนชงโละระบบIFผลิตเหล็ก แนะเปิดเวทีรับฟังทุกฝ่าย หวั่นเสียค่าโง่มหาศาล

วอนรัฐฯทบทวนชงโละระบบIFผลิตเหล็ก แนะเปิดเวทีรับฟังทุกฝ่าย หวั่นเสียค่าโง่มหาศาล

วันพฤหัสบดี ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 15.27 น.

'นายกสมาคมผู้ประกอบการหล่อหลอมโลหะฯ'วอนรัฐฯทบทวนชงโละระบบIFผลิตเหล็ก เพื่อใช้ระบบBOF-EAFเเทน แนะเปิดเวทีรับฟังทุกฝ่ายก่อนตัดสินใจ หวั่นเสียค่าโง่มหาศาล

เมื่อวันที่ 13 พ.ย.2568 แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้คณะรัฐมนตรีเร่งทำงานเต็มที่ในช่วง 4 เดือนก่อนการยุบสภาช่วงสิ้นเดือนมกราคม 2569 เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน ส่วนนโยบายกระทรวงอุตสาหกรรม นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ย้ำว่า การดำเนินงานทุกขั้นตอนต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ โดยเฉพาะกรณีเหล็กเส้นที่ไม่ผ่านมาตรฐานจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ล่าสุดได้สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม เพื่อสร้างความมั่นใจให้ทุกภาคส่วน

ขณะเดียวกัน มีกระแสข่าวว่าบางกลุ่มจะเสนอให้รัฐบาลยกเลิกระบบการผลิตเหล็กเส้นแบบ IF (Induction Furnace) แล้วเปลี่ยนไปใช้ระบบ BOF/EAF ทั้งหมดนั้น

ดร.ศักดิ์ชัย ธนบดีจิรพงศ์ นายกสมาคมผู้ประกอบการหล่อหลอมโลหะด้วยเตาเหนี่ยวนำไฟฟ้า เปิดเผยว่า ปัจจุบันไทยมีโรงงานผลิตเหล็กระบบ IF จำนวน 11 แห่ง มูลค่าลงทุน 3,000-4,000 ล้านบาทต่อแห่ง คิดเป็นมูลค่าตลาดปีละ 60,000-70,000 ล้านบาท ครองส่วนแบ่งถึง 70% คุณภาพเหล็ก IF ในปัจจุบันแทบไม่ต่างจากระบบอื่นๆ ถ้าหากติดสัญลักษณ์ไม่ชัดเจน แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญก็แยกไม่ออก

ดร.ศักดิ์ชัย ระบุว่า โรงงาน IF แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มผู้ประกอบการไทยที่เริ่มมาตั้งแต่ 20 กว่าปีก่อน มีจำนวน 6-7 โรง ไม่เคยมีปัญหา กับกลุ่มทุนจีนที่ย้าย ฐานผลิตเข้ามาหลังปี 2559 หลังรัฐบาลจีนสั่งปิดโรงงานและให้เงินชดเชย

“BOI ยังคงส่งเสริมการลงทุนระบบ IF อยู่ ผมอยากเรียกร้องให้หยุดส่งเสริมเพิ่ม เพราะกำลังผลิตเพียงพอแล้ว ควรหันมาช่วยผู้ประกอบการไทยลดต้นทุนแทน” ดร.ศักดิ์ชัย กล่าว

ดร.ศักดิ์ชัย กล่าวว่า ทั้งนี้ หากรัฐบาลยกเลิกระบบ IF จริง ต้องชดเชยค่าโรงงานและค่าเสียโอกาสรวมหลักแสนล้านบาท ซึ่งสุดท้ายภาษีประชาชนต้องรับภาระ ราคาเหล็กในตลาดจะพุ่งสูงทันที ดังมีตัวอย่างที่ผ่านมา ปิดแค่ 2 โรง ราคาขึ้น 3 บาท/กก. อาจเกิดการผูกขาดและขาดแคลนเหล็กอย่างรุนแรง เหล็กคือกระดูกสันหลังของชาติ ถ้าต้องนำเข้าทั้งหมด แล้วเกิดวิกฤตโลกหรือสงคราม ไทยจะเสียเปรียบมหาศาล” ดร.ศักดิ์ชัย เน้นย้ำ

ดร.ศักดิ์ชัย ยังชี้ว่า ประเทศมหาอำนาจอย่างจีน อินเดีย ยุโรป ยังใช้ระบบ IF อยู่ โดยปรับให้เหมาะกับงานแต่ละประเภทและลดคาร์บอนตามแนวทาง Carbon Credit

“ไม่ควรปิดกั้นเทคโนโลยี แต่ควรยกระดับมาตรฐาน มอก. ให้เข้มข้น ตรวจสอบทุกระบบอย่างเท่าเทียม จะดีกว่าไปกำหนดว่าระบบไหนต้องเลิก”

ดร.ศักดิ์ชัย กล่าวทิ้งท้ายว่า ปัจจุบันยังไม่มีหน่วยงานรัฐมาหารือเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ มีเพียงบางกลุ่มเอกชนที่ออกมาเรียกร้อง ขอให้รัฐบาลเปิดเวทีรับฟังความเห็นจากทุกฝ่าย ศึกษาผลกระทบรอบด้าน ทั้งด้านเศรษฐกิจ ความมั่นคง และผู้บริโภค ก่อนตัดสินใจเปลี่ยนแปลงใดๆ

ล่าสุด จ่าเอกยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ลงพื้นที่ตรวจโรงงานระบบ IF ที่จ.ปราจีนบุรี ไม่พบปัญหาใด ๆ ยิ่งตอกย้ำว่าการผลิตที่ได้มาตรฐานยังคงเดินหน้าได้อย่างมั่นใจ

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top