วันพุธ ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2568
‘แกนนำพรรคพลวัต’ ดีเดย์ 17 ธ.ค.68 เปิดตัวพรรคชูสโลแกน ‘Smart Support and Sincere’ ณ วันนี้พร้อมส่งผู้สมัคร 150 เขต ตั้งเป้าเป็นรัฐบาลเหตุอยากผลักดันนโยบายพรรคให้ทำได้จริง
วันที่ 17 ธ.ค.68 นายกัณวีร์ สืบแสง หัวหน้าพรรคพรรคพลวัต พร้อมด้วย นายสุรพันธ์ ไวยากรณ์ รองหัวหน้าพรรค และ นายสรยุทธ เพ็ชรตระกูล เลขาธิการพรรคร่วมกันแถลงข่าวถึงการเปิดตัวครั้งแรกว่า พรรคมีจุดยืน แนวคิด และทิศทางการทำงานทางการเมือง โดยให้ความสำคัญกับคำว่า “Smart Support and Sincere” เพราะเชื่อว่า “ฉลาด เปิดกว้าง และผลักดัน และการลงมือทำสำคัญกว่าวาทกรรมสวยหรู”ทั้งนี้พรรคพลวัตมีทีมงานบริหารที่เก๋าเกมทางการเมืองและคนรุ่นใหม่ เราไม่ได้เป็นเพียงทางเลือกหรือทางรอด แต่คือ ทางเดียว (The Only Way) ที่จะพาไทยไปยืนบนเวทีโลก เพื่อดึงเม็ดเงินและเศรษฐกิจกลับมาแก้ปากท้องคนไทย
นายกัณวีร์ กล่าวถึงเหตุผลในการตั้งพรรคพลวัติว่า จุดยืนและอุดมการณ์ของตนต้องการสร้างบ้านหลังเล็กที่แข็งแรงขณะเดียวกันโจทย์ประเทศขณะนี้ใหญ่และซับซ้อนมากขึ้น ตนจึงต้องการพื้นที่ที่อนุญาตให้พุ่งชนปัญหาได้เร็วกว่าเดิมไม่ติดอยู่กับขั้นตอน ตนเชื่อมั่นว่าพรรคพลวัตจะนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดแก่ประชาชนและเป็นทางเลือกที่พรรคปฏิบัติได้จริง
“ผมรอไม่ได้ที่จะแก้ปัญหาที่เห็นอยู่ตรงหน้า ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตการสู้รบไทย-กัมพูชา หรือปัญหาภัยพิบัติ ซึ่งการทำงานกับองค์การสหประชาชาติ(UN) สอนผมให้เน้น Action ไม่เน้น Process ที่ยืดเยื้อต้องเป็น Proactive Diplomacy ไม่ใช่แค่ตามแก้ข่าว ดังนั้นเลือกพรรคพลวัตจะไม่ได้แค่นักการทูต แต่จะได้อะไรที่มากกว่าการเมืองหรือการปกครอง”นายกัณวีร์ กล่าว
นายกัณวีร์ รับตั้งพรรคการเมืองไม่ใช่เรื่องง่าย กว่าจะจัดตั้งพรรคการเมืองได้ตนเรียนรู้จากคนที่ทำงานในสภาผู้แทนราษฎรแล้วรู้สึกว่ากว่าเราจะมาตั้งพรรคการเมือง ซึ่ง 2 สองเดือนที่ผ่านมามีทั้งการจัดตั้งการทำโครงสร้างต่างๆ แต่ความมุ่งมั่นของคนทุกคนที่มาอยู่ในพรรคพลวัต เชื่อว่ามาด้วยความตั้งใจจริง มาทั้งน้ำตา มาทั้งรอยยิ้ม มาทั้งเสียงหัวเราะ เราทำงานร่วมกันจนวันนี้ เรามุ่งมั่นมากที่พยายามขยายฐานเสียงพรรคและเชื่อว่าประชาชนจะเห็นความตั้งใจจริง จึงอยากให้ประชาชนมีส่วนร่วมเพราะการเมืองของประเทศไทยหยุดนิ่งมาอย่างยาวนาน 2 ปี 7 เดือนที่ผ่านมาจึงอยากทำอย่างไรให้ประเทศเดินหน้า ฉะนั้นหากเราไม่มั่นใจเราทั้ง 3 คนจะไม่นั่งอยู่ที่นี่ในวันนี้
ส่วนโพลระบุว่า พรรคพลวัตมีโอกาสเป็น 1 ในพรรคร่วมรัฐบาลอย่างแน่นอนนั้นนายกัณวีร์ กล่าวว่า ตนพูดชัดเจนว่าอยากเป็นรัฐบาล เพราะนโยบายของเราชัดเจนในเรื่องของอุดมการณ์ที่มาจากพี่น้องประชาชนโดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลางในการจัดตั้งนโยบาย เราสามารถปฏิบัติจริงในฐานะเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ฉะนั้นสิ่งที่ชัดเจนคือเราพร้อมเป็นพรรคทางเดียวที่จะผลักดันให้ประเทศไทยเดินหน้าต่อไปได้จากสังคมการเมืองที่หยุดนิ่ง
นายกัณวีร์ กล่าวว่า นโยบายของพรรคอย่างแรก คือด้านการต่างประเทศแม้ว่าอาจจะจับต้องยากเพราะในอดีตจนถึงปัจจุบันตนยังไม่เห็นว่ามีพรรคการเมืองไหนชูในเรื่องของการต่างประเทศ 2 ปีกว่าที่ผ่านมาทุกคนเห็นแล้วว่าเรื่องของสถานการณ์ชายแดนก่อให้เกิดผลลัพธ์และผลกระทบอย่างไร ทั้งเรื่องการค้า การลงทุน การส่งออก ประเทศมหาอำนาจยกเรื่องภาษีขึ้นมาต่อรอง และการผลักดันผู้ลี้ภัยกลับไปยังประเทศต้นทาง ขณะที่การทูตของไทยไม่เปลี่ยนแปลงนับ 100 ปีฉะนั้นการพูดแบบเงียบๆประเทศไทยก็จะถูกเป็นลูกไล่เพราะเราไม่มีจุดยืนในเวทีระหว่างประเทศสุดท้ายประชาชนคนไทยจะได้รับผลกระทบตามมา ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงการทางการทูตของไทยเป็นสิ่งสำคัญ ตนเป็นหัวหน้าพรรคจำเป็นที่จะต้องชูธงว่าเราจะเน้นด้านไหนเพื่อทำให้พี่น้องประชาชนเห็นว่าเลือกพรรคเราแล้วประชาชนให้การสนับสนุนเราแล้ว ท่านสามารถที่จะคาดการณ์ได้ว่าเราจะเข้าไปปรับปรุงเปลี่ยนแปลงในช่องทางไหน
ทางด้านนายสุรพันธ์ ไวยากรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลวัต กล่าวว่า ตนต้องการพรรคที่เปิดโอกาสให้ได้ลงมือทำ เพราะตนถนัดวิ่งเข้าหาปัญหาเชื่อว่าการมาอยู่พรรคนี้จะทำให้ตนได้ทำในสิ่งที่ดีที่สุดบนจุดยืนของตน นอกจากนี้พรรคมียุทธศาสตร์เฉพาะแต่ละพื้นที่ เรามั่นใจว่าปักธงได้แน่ๆเพราะเน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ ตอนนี้เราปักหมุดจังหวัดที่พร้อมแน่ๆแล้ว 35 จังหวัด จาก Data ที่เราวิเคราะห์มาอย่างละเอียด เรามองเห็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ประมาณ 230 เขต ที่เรามีลุ้นและกำลังเจาะลึกลงพื้นที่หนักๆตอนนี้มีอยู่ 122 เขต ในจำนวนนี้ 97เขต ที่มั่นใจว่าสามารถช่วงชิงเก้าอี้มาได้ สรุปตัวเลขกลมๆ ณ วันนี้พรรคพร้อมส่งผู้สมัครระดับตัวตึงที่ลงสนามเลือกตั้งได้แน่นอน 150 เขต เป็น 150 คนที่หวังผลได้จริง
“จุดมุ่งหมายในการเลือกตั้งครั้งนี้ในฐานะที่ดูยุทธศาสตร์พรรคพลวัตด้วยระยะเวลาที่จำกัด ณ ปัจจุบัน 17 ธันวาคมตอนนี้เราตั้งตัวแทนจังหวัดได้ 35 จังหวัดแล้วสามารถที่จะส่งผู้สมัครสส.เขตได้ 200-230 เขต คาดหวังได้สส.อย่างน้อย 97 เขต และ 122 เขตที่เราดูจากสมการ ที่เข้าไปในพื้นที่คิดว่ามีโอกาส ขณะที่เป้าหมายในการส่งสส.เขตไม่ต่ำกว่า 150 เขตอย่างแน่นอน ส่วนปาร์ตี้ลิสต์ตอนนี้มีผู้ร่วมสนใจหลังจากที่เราเปิดตัว คิดว่าเข้ามาร่วมหลายคน และจะจัดลำดับให้เหมาะสมต่อไป
ขณะที่นายสรยุทธ์ เพ็ชรตระกูล เลขาธิการพรรค กล่าวว่า สาเหตุที่มาร่วมก่อตั้งพรรคพลวัตเพราะต้องการสร้างคนดีเข้ามาช่วยกันบริหารประเทศ การขับเคลื่อนของเรา คือเปิดโอกาสให้ตัวจริง ได้ทำงานช่วยเปลี่ยนโครงสร้างการเมืองไทยและพัฒนาประเทศในทุกมิติ ต้องการสร้างสังคมที่มีทั้งคนเก่ง มีความสามารถ ไม่ใช่“อยู่เป็น” คือก้มหน้ายอมจำนนไหลตามน้ำเพื่อเอาตัวรอดแต่ต้อง“อยู่ได้”และ“อยู่ดี”ด้วยฝีมือของตัวเอง เราต้องการเปิดพื้นที่ให้ Professional หลายฝ่ายเข้ามาบริหารประเทศที่ผ่านมาคนดี,คนเก่งไม่กล้ายุ่งเกี่ยวกับการเมือง เพราะมีคนบอกว่าทำการเมืองต้องใช้ทุนและเป็นสังคมอุปถัมภ์ ผมจึงอยากมาแก้ Pain point ตรงนี้ ดังนั้นเมื่อทั้ง 2 ท่านชวนมาทำพรรคการเมืองผมจึงไม่ลังเล
เลขาธิการพรรคพลวัต กล่าวว่า การจะขับเคลื่อนพรรคได้ต้องหาคนดีๆเข้ามาช่วยกันฉายแสง ความแตกต่างของพรรคพลวัต คือ ต้องเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีเพราะการตั้งพรรคขึ้นมาจากฐานความคิดซึ่งการที่ตนมีโอกาสเข้าไปทำงานกับหลายรัฐมนตรี หลายกระทรวง อาทิ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงอุตสาหกรรมและสำนักนายกรัฐมนตรี ทำให้เห็นบริบทการบริหารประเทศ , เห็นพรรคข้าราชการ , เห็นนักการเมือง และหลากหลายอย่าง
ภายหลังการแถลงข่าว พรรคพลวัตได้เปิดตัว นายอภิสิทธิ์ ไล่ศัตรูไกล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชนเข้ามาเป็นสมาชิกพรรคพร้อมสวมเสื้อสมาชิก
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อยากร่วมงานกับคนดีๆ กว่า 20 ปีที่ผ่านมาตนสอนหนังสือ ด้านสายศิลปะการออกแบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เคยดำรงตำแหน่งสำคัญ เช่น อดีตผู้อำนวยการศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) และสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์(CEA) เจตนาของตนอยากทำนโยบายที่รู้สึกว่าเข้าไปแล้วทำได้อย่างน้อยสามารถทำให้คนที่อยู่ในชุมชนมีรายได้เพิ่มขึ้นเดือนละ 500-800หรือ 1,000 บาท ตนคิดว่าจับต้องได้ ขอฝากถึงพี่น้องประชาชนว่าเราอยากทำสิ่งที่คุยกันไว้ให้จริงเสียทีตามที่พรรคทำได้จริง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี