วันจันทร์ ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2568
“ในหลวง-พระราชินี” เสด็จทรงเปิดศาลหลักเมืองประจำจังหวัดและศาลากลางจังหวัดนราธิวาส
30 ก.ย.2566 เวลา17.06 น.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดศาลหลักเมืองประจำจังหวัดนราธิวาส บริเวณลานวัฒนธรรม ศาลากลางจังหวัดนราธิวาส (หลังเก่า) ถนนศูนย์ราชการ ตำบลโคกเคียน และทรงเปิดศาลากลางจังหวัดนราธิวาส (หลังใหม่) ถนนศูนย์ราชการ ตำบลลำภู อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส
เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึงศาลหลักเมืองประจำจังหวัดนราธิวาส เสด็จเข้าพลับพลาพิธี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธนวราชบพิตรประจำอำเภอเมืองนราธิวาส ทรงกราบ ทรงศีล ทรงพระสุหร่าย ทรงเจิมแผ่นยันต์ ทรงม้วนแผ่นยันต์ ทรงสวมแหวนนพรัตน์ ที่ม้วนแผ่นยันต์ แล้วพระราชทานคืนให้เจ้าพนักงานพระราชพิธี เพื่ออัญเชิญไปยังศาลหลักเมือง จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปยังศาลหลักเมืองนราธิวาส แล้วเสด็จขึ้นเกย ทรงบรรจุแผ่นยันต์ลงที่หัวเม็ดทรงมัณฑ์ แล้วทรงสวมยอดหัวเม็ดทรงมัณฑ์ที่ยอดเสาศาลหลักเมือง ทรงพระสุหร่าย ทรงเจิม ทรงปิดทอง ทรงผูกผ้าสีชมพู แล้วทรงคล้องพวงมาลัยเสาหลักเมือง พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา ชาวพนักงานลั่นฆ้องชัย ประโคมสังข์ แตร ดุริยางค์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยสักการะศาลหลักเมืองนราธิวาส ทรงกราบ จากนั้น เสด็จเข้าพลับพลาพิธี ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมถวายพระสงฆ์ ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก เสร็จแล้ว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงกราบที่หน้าเครื่องนมัสการ ทรงลาพระสงฆ์ แล้วประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยังศาลากลางจังหวัดนราธิวาส (หลังใหม่) ถนนศูนย์ราชการ ตำบลลำภู อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส
ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้จัดสร้างเสาหลักเมืองและศาลหลักเมืองประจำจังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2558 เนื่องในโอกาสครบ 100 ปี ที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานชื่อ “เมืองนราธิวาส” ณ บริเวณลานวัฒนธรรม ศาลากลางจังหวัดนราธิวาส ถนนศูนย์ราชการ ตำบลโคกเคียน อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส โดยดำเนินการจัดสร้างเสาหลักเมือง และศาลหลักเมืองประจำจังหวัดนราธิวาส และได้มีการประกอบพิธีพุทธาภิเษกและอัญเชิญเสาหลักเมืองประดิษฐาน ณ ศาลหลักเมือง ตามโบราณราชประเพณี เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2565 รวมทั้งปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณโดยรอบ ดำเนินการแล้วเสร็จสมบูรณ์ เมื่อเดือนเมษายน พุทธศักราช 2566 เพื่อความเป็นสิริมงคล เป็นศูนย์รวมจิตใจเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจและที่เคารพสักการะของประชาชนจังหวัดนราธิวาสสืบไป


ต่อมา 17.44 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีเสด็จพระราชดำเนินถึงศาลากลางจังหวัดนราธิวาส โดยมีนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยข้าราชการ และประชาชน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ จากนั้น เสด็จเข้าพลับพลาพิธี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธนวราชบพิตร ทรงกราบ เสร็จแล้ว เสด็จออกจากพลับพลาพิธีไปยังแท่นพิธีทรงกดปุ่มไฟฟ้า เปิดแพรคลุมป้ายศาลากลางจังหวัดนราธิวาส (หลังใหม่) พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา ชาวพนักงานลั่นฆ้องชัย ประโคมสังข์ แตร ดุริยางค์ เสร็จแล้ว เสด็จเข้าพลับพลาพิธี ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมถวายพระสงฆ์ ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก เสร็จแล้ว พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กราบบังคมทูลเบิกผู้ทำคุณประโยชน์แก่จังหวัดนราธิวาส เฝ้าฯ รับพระราชทานของที่ระลึก และทูลเกล้าฯถวายเงิน โดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย
จากนั้น พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายทศพล สวัสดิสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เฝ้าฯทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายแผ่นศิลา ทรงลงพระปรมาภิไธย และพระนามาภิไธยในแผ่นศิลา ต่อจากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปทรงกราบที่หน้าเครื่องนมัสการ ทรงลาพระสงฆ์ แล้วเสด็จออกจากพลับพลาพิธี ไปทรงปลูกต้นตะเคียนชันตาแมว ซึ่งเป็นต้นไม้ประจำจังหวัดนราธิวาส สมควรแก่เวลา จึงประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยังท่าอากาศยานนราธิวาส แล้วประทับเครื่องบินพระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับกรุงเทพมหานคร
จังหวัด “นราธิวาส” เดิมชื่อ “มะนารอ” พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานชื่อเป็น “นราธิวาส” หมายถึง “ที่อยู่อันยิ่งใหญ่ของประชาชน” ปัจจุบันแบ่งการปกครองออกเป็น 13 อำเภอ และเป็นที่ตั้งของพระตำหนัก ทักษิณราชนิเวศน์ ซึ่งเป็นที่ประทับแรมในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินมาทรงเยี่ยมราษฎรในพื้นที่ภาคใต้ และเป็นที่ตั้งของศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดตั้งขึ้น เพื่อศึกษาวิจัยและพัฒนาให้สอดคล้องตามภูมิสังคม และเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับเกษตรกรผู้สนใจ ในลักษณะของ “พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิต”ศาลากลางจังหวัดนราธิวาส (หลังใหม่) ตั้งอยู่ที่ถนนศูนย์ราชการ ตำบลลำภู อำเภอเมืองนราธิวาส เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กแบบจัตุรมุข 4 ชั้น รูปแบบสถาปัตยกรรมสวยงามเป็นอัตลักษณ์โดดเด่น สร้างขึ้นเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2560 แล้วเสร็จเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2566 เพื่อรองรับการพัฒนาเมืองและการขยายตัวของส่วนราชการ เนื่องจากอาคารศาลากลาง ฯ (หลังเก่า) มีพื้นที่ใช้สอยไม่เพียงพอ มีส่วนราชการหลายแห่งที่ต้องไปเช่าอาคารสถานที่ของเอกชน และตั้งอยู่ห่างจากศูนย์ราชการ เพื่ออำนวยความสะดวกในการติดต่อราชการของประชาชน และการรักษาความปลอดภัยให้แก่ข้าราชการ บุคลากรภาครัฐ รวมถึงยังช่วยป้องกันความเสียหายแก่ทรัพย์สินของทางราชการอีกทางหนึ่งด้วย
ในโอกาสนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้กองแพทย์หลวงร่วมกับโรงพยาบาลในพื้นที่และหน่วยแพทย์สาธารณสุขจังหวัดมาให้การดูแลราษฎรที่มาเฝ้าฯ รับเสด็จ กับทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดตั้งโรงครัวพระราชทาน เพื่อประกอบอาหารฮาลาล ปรุงสุกใหม่ ถูกสุขอนามัย พระราชทานเลี้ยงแก่ราษฎรที่มาเฝ้าฯรับเสด็จอย่างทั่วถึง ซึ่งเดินทางมาจากอำเภอต่าง ๆ ของจังหวัดนราธิวาสรวมทั้งจังหวัดใกล้เคียง ต่างตั้งใจมาเฝ้าฯรับเสด็จอย่างเนืองแน่น ทุกคนต่างปลื้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น ที่ได้ชื่นชมพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี อย่างใกล้ชิด