‘ในหลวง-พระราชินี’เสด็จฯทรงร่วมขบวนเชิญพระบรมศพ  สมเด็จพระพันปีหลวง  ไปยังพระบรมมหาราชวัง

‘ในหลวง-พระราชินี’เสด็จฯทรงร่วมขบวนเชิญพระบรมศพ สมเด็จพระพันปีหลวง ไปยังพระบรมมหาราชวัง

วันจันทร์ ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.

‘ในหลวง-พระราชินี’เสด็จฯทรงร่วมขบวนเชิญพระบรมศพ

สมเด็จพระพันปีหลวง

ไปยังพระบรมมหาราชวัง

เคลื่อนขบวนสมพระเกียรติ

พสกนิกรร่ำไห้สุดอาลัย

รอส่งเสด็จตลอดเส้นทาง

“ในหลวง-พระราชินี” พระบรมวงศานุวงศ์ ทรงร่วมขบวนเชิญพระบรมศพ “สมเด็จพระพันปีหลวง” จากรพ.จุฬาฯไปยังพระบรมมหาราชวัง พสกนิกรร่ำไห้ส่งเสด็จตลอดเส้นทางเคลื่อนพระบรมศพอย่างสมพระเกียรติ

เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2568 เวลา 15.42 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร และเจ้าคุณพระสินีนาถ พิลาสกัลยาณี ออกจากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปยังอาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย

เมื่อเสด็จฯถึงอาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ เสด็จฯขึ้นชั้น 29 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้า
อทิตยาทรกิติคุณ และท่านผู้หญิงสิริกิติยา เจนเซน รอรับเสด็จ เสด็จเข้าห้องประทับรับรอง ชั้น 29

เวลา 16.00 น. สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามเดินนำขบวนเชิญพระบรมศพลงจากอาคารภูมิสิริมังคลานสรณ์ คณะแพทย์และพยาบาลที่ถวายการรักษาพยาบาลเลื่อนพระแท่นพยาบาล เชิญพระบรมศพเข้าสู่ลิฟต์ เมื่อเชิญพระบรมศพถึงชั้นล่างของอาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ คณะแพทย์และพยาบาลเชิญพระแท่นพยาบาลพระบรมศพขึ้นรถยนต์หลวง ร.ย.ล. ๑ ด.- ๐๙๒๙ เชิญพระบรมศพ ขบวนเชิญพระบรมศพออกจากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ไปยังพระบรมมหาราชวัง

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปประทับรถยนต์พระที่นั่ง พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ ตามรถยนต์หลวงเชิญพระบรมศพออกจาก โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทยไปยังพระบรมมหาราชวัง

โดยตลอดเส้นทางมีพสกนิกรที่เดินทางไปจับจองพื้นที่บริเวณโดยรอบตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ ตลอดจนเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวัง แพทย์ พยาบาล และบุคลากรโรงพยาบาล รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง คอยอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่ไปร่วมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการ เพื่อความร่มเย็นเป็นสุขแก่ราษฎรไทยมาโดยตลอด 70 ปี

บรรยากาศสองข้างเต็มไปด้วยความเศร้าโศกและเสียงสะอื้นร่ำไห้สลับกับความเงียบงัน พสกนิกรที่มาจากทั่วทุกสารทิศจำนวนมากถือภาพพระฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระพันปีหลวงไว้แนบอก ต่างอาลัยต่อการสูญเสียแม่แห่งแผ่นดินเป็นอย่างมาก บางคนถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ น้ำตาไหลออกมาด้วยความอาลัย ต่างถวายบังคม รวมทั้งพนมมือไว้กลางอก เพื่อถวายราชสักการะ ขณะที่หลายคนยกโทรศัพท์มือถือขึ้นบันทึกภาพ เมื่อรถยนต์หลวงเชิญพระบรมศพเคลื่อนผ่านอย่างช้าๆ อย่างสมพระเกียรติ ท้องฟ้าสีหม่น จากแสงแดดจ้า เมื่อถึงเวลาเสด็จฯ แดดก็ร่มเป็นที่น่าอัศจรรย์

เวลา 17.06 น.ขบวนรถยนต์หลวงเชิญพระบรมศพถึงพระบรมมหาราชวัง ทางประตูวิเศษไชยศรี ประตูพิมานไชยศรี รถยนต์หลวงเชิญพระบรมศพเทียบทางด้านซ้ายประตูพรหมโสภา คณะแพทย์และพยาบาลรอรับพระบรมศพและเชิญพระแท่นพยาบาลพระบรมศพลงจากรถยนต์หลวงเชิญพระบรมศพขึ้นพระที่นั่งพิมานรัตยา โดยมีเจ้าพนักงานภูษามาลา กำกับรถยนต์พระที่นั่งเทียบที่ประตูกำแพงแก้วพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทข้างพระที่นั่งราชกรัณยสภา (ทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพ ดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนิน

พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ ทรงพระดำเนินตามพระบรมศพขึ้นพระที่นั่งพิมานรัตยา เมื่อเชิญพระบรมศพขึ้นพระที่นั่งพิมานรัตยา ถึงที่พระแท่นสรงพระบรมศพ (คณะแพทย์และพยาบาลเชิญพระบรมศพขึ้นบรรทมบนพระแท่น ซึ่งปูลาดด้วยพระยี่ภู่) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถวายพระภูษาตาดระกำคลุมพระบรมศพเสร็จแล้ว เสด็จพระราชดำเนินไปประทับพระราชอาสน์ที่นอกพระฉาก

เสด็จเข้าในพระฉาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยสำหรับพระบรมศพ บูชาพระพุทธรูปประจำพระชนมวารของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงคมพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พรมรมราชินี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระบรมศพ ทรงกราบ  ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้พระบรมวงศานุวงศ์ ถวายน้ำสรงที่พระบรมศพ

สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงรับขวดน้ำพระสุคนธ์ จากเจ้าพนักงานกองราชการฝ่ายในและงานฝ่ายในพระบรมมหาราชวัง ทรงสรงที่พระบาทพระบรมศพ (เป็นการส่วนพระองค์) ทรงกราบ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับหม้อทองคำลายกลีบบัวบรรจุน้ำสรงผอบแก้วบรรจุน้ำขมิ้น และผอบแก้วน้ำพระสุคนธ์ จากเจ้าพนักงานสนมพลเรือนทรง สรงที่พระอุระพระบรมศพ จากนั้นทรงหวีพระเกศาขึ้นครั้งหนึ่ง หวีลงครั้งหนึ่ง แล้วทวีขึ้นอีกครั้งหนึ่ง แล้วทรงหักพระสางนั้น วางไว้ในพานซึ่งเจ้าพนักงานเชิญอยู่ ขณะนั้น เจ้าพนักงานประโคมสังข์ แตรงอน แตรฝรั่ง ปี่กลองชนะ ปี่พาทย์ ทหารกองเกียรติยศพระบรมศพถวายความเคารพ ดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ทหารปืนใหญ่ยิงปืนถวายพระเกียรติ นาทีละ 1 นัดตลอดเวลา

จากนั้น เสด็จฯไปประทับพระราชอาสน์ที่นอกพระฉาก (ขณะนี้ เจ้าพนักงานสนมพลเรือนเชิญพระหีบพระบรมศพมาเทียบข้างพระแท่นด้านทิศใต้ คณะแพทย์และพยาบาล เชิญพระบรมศพลงพระหีบโดยมีเจ้าพนักงานภูษามาลาถวายเครื่องพระสุกำพระบรมศพ เสร็จแล้ว

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จเข้าในพระฉาก ไปทรงวางซองพระศรีทองคำลงยา บรรจุดอกบัวตูม และธูปเทียน ที่พระอุระพระบรมศพ ทรงรับแผ่นทองคำจำหลักลายดุนมีพระกรรณ ปิดพระพักตร์ ทรงรับพระชฎาทองคำลงยา วางข้างพระเศียร ทรงคม แล้วเสด็จออกไปประทับพระราชอาสน์ที่นอกพระฉาก (เจ้าพนักงานสนมพลเรือนปิดฝาพระหีบพระบรมศพเรียบร้อยแล้ว)

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ประทับยืนที่หน้าพระราชอาสน์ (ขณะที่ทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ 10 นาย เชิญหีบพระบรมศพ มีพระตำรวจหลวง 4 นาย นำไปยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ทหารกองเกียรติยศพระบรมศพถวายความเคารพ ดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี เจ้าพนักงานประโคมสังข์ แตรงอน แตรฝรั่ง ปีกลองชนะ ปี่พาทย์)

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้า ฯพระบรมราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ทรงพระดำเนินตาม

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้า ฯพระบรมราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ประทับยืนหน้าพระราชอาสน์ และหน้าพระเก้าอี้ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท (ทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์เชิญพระหีบพระบรมศพขึ้นประดิษฐานบนพระแท่นแว่นฟ้าทอง พระตำรวจหลวงคลุมผ้าเยียรบับบนพระหีบพระบรมศพ ทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ คลุมพระหีบพระบรมศพด้วยธงสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงใหญ่ เสร็จแล้ว ทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ กราบพระบรมศพ ทหารปืนใหญ่หยุดยิง)

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ไปทรงวางพวงมาลาที่หน้าพระโกศทองใหญ่ ภายใต้พระเศวตฉัตร 9 ชั้น แวดล้อมด้วยเครื่องสูง หักทองขวางมีชุมสาย ฉัตร 5 ชั้น บังแทรก ต้นไม้ทองเงิน ซึ่งประดิษฐาน ณ มุกตะวันตก พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯ ไปวางพวงมาลาที่หน้าพระโกศ ขณะนั้น เจ้าพนักงานประโคมสังข์ แตรงอน แตรฝรั่ง ปี่กลองชนะ ปี่พาทย์ ทหารกองเกียรติยศพระบรมศพถวายความเคารพ ดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญ พระบารมี เจ้าพนักงานนิมนต์พระสงฆ์ 11 รูป ในจำนวน 93 รูปเท่าพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ขึ้นนั่งยังอาสน์สงฆ์

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องราชสักการะทองลงยาราชาวดีและทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย ทรงกราบ   สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องราชสักการะทองลงยารองและทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย ทรงกราบ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จ ฯ ไปทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการพานทองสองชั้น บูชาพระพุทธรูปประจำพระชนมวาร ที่หน้าพระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ทรงกราบ ประทับพระราชอาสน์ (เจ้าพนักงานลาดพระภูษาโยง) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จ ฯ ไปทรงทอดผ้าไตร 11 ไตร (เที่ยวแรก) (พระสงฆ์สดับปกรณ์) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ประทับพระราชอาสน์ ทรงหลั่งทักษิโณทก (พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอติเรก ถวายพระพรลา ออกจากพระที่นั่งแล้ว เจ้าพนักงานนิมนต์พระสงฆ์อีกเที่ยวละ 11 รูป จำนวน 22 เที่ยว และเที่ยวละ 10 รูป จำนวน 6 เที่ยว ขึ้นนั่งยังอาสน์สงฆ์)เสด็จฯไปทรงทอดผ้าไตร (พระสงฆ์สดับปกรณ์) ทรงปฏิบัติเช่นนี้จนเที่ยวสุดท้าย

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จ ฯ ผ่านแถวข้าราชการผู้มาเฝ้า ฯ ไปทรงจุดธูปเทียนเครื่องบูชากระบะมุกที่หน้าพระแท่นเตียงพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมด้านตะวันออก และด้านตะวันตก ณ มุขเหนือพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ทรงคม ประทับพระราชอาสน์ (พระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม) เมื่อพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม ครบ 4 จบ เจ้าพนักงานนิมนต์พระราชาคณะ1รูป ที่จะถวายอดิเรกและพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม 8 รูป นั่งยังอาสน์สงฆ์พร้อมแล้ว (เจ้าพนักงานลาดพระภูษาโยง)

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ไปทรงทอดผ้าไตร ประทับพระราชอาสน์|(พระสงฆ์สดับปกรณ์) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงหลั่งทักษิโณทก (พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา ออกจากพระที่นั่ง)พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จ ฯ ไปที่หน้าเครื่องนมัสการหน้าพระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ทรงกราบ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จ ฯ ไปที่หน้าพระโกศ ทรงกราบ ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จออก พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าทีปังกรรัศน์โชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร และเจ้าคุณพระสินีนาถ พิลาสกัลยาณี จากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ลงทางมุขกระสันพระที่นั่งพิมานรัตยา เสด็จฯไปประทับรถยนต์พระที่นั่งที่ประตูกำแพงแก้วข้างพระที่นั่งราชกรัณยสภา เสด็จพระราชดำเนินกลับ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพ ดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี

การนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มีพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมประจำทั้งกลางวัน กลางคืน รับพระราชทานฉันเช้า วันละ 8 รูป เพลวันละ 8 รูปและประโคมย่ำยามกำหนด 100 วัน

ด้านนายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากรเผยหลังประชุมหน่วยงานในสังกัดของกรมศิลปากร เพื่อเตรียมการดำเนินงานพระบรมศพฯว่า น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมว.วัฒนธรรม มีข้อสั่งการให้ กรมศิลปากร รับผิดชอบดำเนินการ ด้านรูปแบบพิธีการและจัดสร้างพระเมรุมาศ พร้อมทั้งอาคารประกอบ ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง กรมศิลปากร จึงได้ประชุมกับผู้เกี่ยวข้องทั้งสำนักสถาปัตยกรรม สำนักช่างสิบหมู่ และสำนักจดหมายเหตุ รวมถึงสำนักการสังคีต โดยเป็นการมอบหมายงานเบื้องต้นให้สำนักสถาปัตยกรรมศึกษาและดำเนินการร่างแบบพระเมรุมาศ และอาคารประกอบเบื้องต้น เพื่อเสนอขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อทรงมีพระบรมราชวินิจฉัย โดยการออกแบบจะยึดตามโบราณราชประเพณี ให้มีความสวยงามและสง่างาม สมพระเกียรติ เพื่อน้อมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top