วันอาทิตย์ ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
เสด็จฯบำเพ็ญพระราชกุศล
ในหลวง-ราชินี
ถวายพระบรมศพพระพันปี
ปชช.หลั่งไหลสักการะ
ลงนามถวายความอาลัย
ปีติได้รับพระราชทาน
พระฉายาลักษณ์ที่ระลึก
“ในหลวง-พระราชินี” เสด็จฯทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสัตตมวาร (7 วัน) ถวายพระบรมศพ “สมเด็จพระพันปีหลวง” ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง ด้านคณะบุคคล-พสกนิกรทั่วสารทิศยังหลั่งไหล เข้าถวายสักการะเบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ไม่ขาดสาย พร้อมลงนามถวายความอาลัย ที่ศาลาสหทัยสมาคม ซึ่งทุกคนต่างปลื้มปีติเป็นล้นพ้น หลังได้รับพระราชทานพระฉายาลักษณ์และภาพประดิษฐานพระบรมศพ “สมเด็จพระพันปีหลวง”เป็นที่ระลึกวันแรก
เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2568 เวลา 10.20 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสัตตมวาร (7วัน) ถวายพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง
ในโอกาสนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร และเจ้าคุณพระสินีนาถ พิลาสกัลยาณี โดยเสด็จในการนี้ด้วย
ในการนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สิริกิจการิณีพีรยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ ท่านผู้หญิงพลอยไพลิน เจนเซน และท่านผู้หญิงสิริกิติยา เจนเซน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง
เมื่อเสด็จฯถึงพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องราชสักการะทองลงยาราชาวดี และทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยที่หน้าพระโกศ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องราชสักการะทองลงยารอง และทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยที่หน้าพระโกศ จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการพานทองสองชั้นบูชาพระพุทธรูปประจำพระชนมวารที่หน้าพระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร แล้วประทับพระราชอาสน์
สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ถวายศีล จบแล้ว พระสงฆ์ 30 รูป ถวายพรพระ เสร็จแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯไปทรงประเคนปิ่นโตภัตตาหารแด่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก สมเด็จพระราชาคณะ และพระราชาคณะ จนครบ 10 รูป ปิ่นโตภัตตาหาร นอกนั้น ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้องคมนตรี และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ประเคนพระสงฆ์ตามลำดับ
จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงทอดผ้าไตรเที่ยวแรก 10 ไตร พระสงฆ์สดับปกรณ์ จบแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา
เสร็จแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงทอดผ้าไตรอีกเที่ยวละ 10 รูป พระสงฆ์สดับปกรณ์ ทรงปฏิบัติเช่นนี้จนครบ 2 เที่ยว ต่อจากนั้น เจ้าพนักงานนิมนต์พระสงฆ์ 11 รูปในจำนวน 93 รูปที่จะสดับปกรณ์เท่าพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ขึ้นนั่งยังอาสน์สงฆ์ แล้วสวดมาติกา จบแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงทอดผ้าไตรเที่ยวแรก 11 ไตร พระสงฆ์สดับปกรณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา
จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงทอดผ้าไตรอีกเที่ยวละ 11 รูป พระสงฆ์สดับปกรณ์ ทรงปฏิบัติเช่นนี้จนครบ 2 เที่ยว เสร็จแล้ว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี และสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงทอดผ้าไตร 10 ไตร อีกจำนวน 6 เที่ยว จนครบ 93 ไตรเท่าพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสร็จแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯไปทรงกราบที่หน้าเครื่องนมัสการหน้าพระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ต่อจากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จฯไปทรงกราบที่หน้าพระโกศ
จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯไปทรงจุดธูปเทียนเครื่องบูชากระบะมุกที่หน้าพระแท่นเตียงพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม ด้านตะวันออกและด้านตะวันตก ณ มุขเหนือพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท แล้วเสด็จลงจากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ไปประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จฯกลับ
ปชช.หลั่งไหลลงนามถวายอาลัยไม่ขาดสาย
ที่บริเวณท้องสนามหลวง เขตพระนคร กทม. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าประชาชนทุกหมู่เหล่าหลั่งไหลเดินทางเข้าถวายสักการะเนืองแน่น พร้อมลงนามถวายความอาลัยในสมุดหลวง เบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระราชชนนีพันปีหลวง ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง และเต้นท์สนามหญ้าข้างศาลาลูกขุนใน ตั้งแต่เวลา 08.30 น.-16.00 น.
ทั้งนี้ ช่วงเวลา 09.00 น. ที่ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง มีประชาชนจำนวนมาก ต่างนั่งพักคอยในเต้นท์สนามด้านหน้าศาลาฯ โดยเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังปิดการลงนามในสมุดหลวงชั่วคราว เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 เสด็จไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง ในเวลา 10.00 น. จากนั้นเวลา 13.00 น. สำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนลงนามถวายความอาลัยในสมุดหลวง ณ ศาลาสหทัยสมาคมอีกครั้ง
พระราชทานพระฉายาลักษณ์พระพันปีเป็นที่ระลึก
เวลา 11.50 -16.00 น. ที่อาคารหน่วยราชการในพระองค์ 904 ศาลาสหทัยสมาคมฯ และเต็นท์สนามหญ้าข้างอาคารลูกขุนใน พระบรมมหาราชวัง ภายหลังเสร็จสิ้นพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลครบสัตตมวาร(7 วัน) พระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สำนักพระราชวัง เปิดให้พสกนิกรทุกหมู่เหล่าเข้าถวายสักการะเบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์พระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พร้อมลงนามถวายความอาลัย
สำหรับวันนี้ 31 ตุลาคม 2569 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน พระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และภาพการประดิษฐานพระบรมศพบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ให้แก่ประชาชนที่เดินทางมาลงนามถวายความอาลัย ที่ศาลาสหทัยสมาคม และเต็นท์ข้างศาลาลูกขุนใน พระบรมมหาราชวัง เป็นวันแรก สร้างความปลาบปลื้มใจแก่พสกนิกรที่ได้รับ ต่างบกตรงกันว่า จะนำกลับไปบูชา เพื่อความเป็นสิริมงคล และเป็นที่ระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อปวงชนชาวไทย
โดยด้านหลังภาพพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระพันปีหลวงนั้น มีหมายกำหนดการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลพระบรมศพ วันศุกร์ที่ 7 พฤศจิกายน 2568 เวลา 17.00 น. พระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลพระบรมศพ ปัณรสมวาร (15 วัน) ถวายพระบรมศพ สมเด็จพระนามจ้าสิริก็ดิ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชขนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง วันเสาร์ที่ 8 พฤศจิกายน 2568 เวลา 10.00 น. พระสงฆ์ 30 รูปสวดพระพุทธมนต์ จบ มีพระธรรมเทศนากัณฑ์ 1 พระสงฆ์ 4 รูปสวดธรรมคาถา
โดยในวันนี้ มีบุคคลสำคัญ คณะบุคคล คณะทูตต่างประเทศ องค์กรต่างประเทศ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน มูลนิธิ องคกรการกุศล และประชาชนทั่วไป เข้าถวายสักการะและลงนามถวายความอาลัยด้วยความรักเทิดทูนและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการแก่ปวงชนชาวไทยเสมอมา
อาทิ ราชสกุลอิศรางกูร, นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย, ครอบครัวภิรมย์ภักดี และ เทพาคำ เป็นต้น นอกจากนี้ มีเอกอัครราชทูตและอุปทูตจากประเทศ กัวเตมาลา แอฟริกาใต้ กัมพูชา กงสุลใหญ่สหพันธรัฐรัสเซีย กงสุลกิตติมศักดิ์ประเทศมาลี มอนเตเนโกร โมซัมบิก มัลดีฟส์ และผู้แทนจาก 4 องค์การระหว่างประเทศ ได้แก่ UNHCR,UNICEF,IOM และ IUCN ฯลฯ
ปชช.ปลื้มปีติล้นพ้นได้รับพระฉายาลักษณ์
ด้านนางศิริวรรณ ดิษฐวุฒิ อายุ 61 ปี อาชีพแม่บ้าน ชาว จ.สมุทรปราการ กล่าวภายหลังถวายสักการะ พร้อมลงนามถวายความอาลัย เบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์พระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงว่า เดินทางมาถวายสักการะตั้งแต่วันแรกและวันนี้มาเป็นครั้งที่ 2 ตั้งใจจะเดินทางมาสักการะสัปดาห์ละครั้ง วันนี้มาเข้าถวายสักการะทางสำนักพระราชวัง ได้มอบพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และภาพพระโกศ ให้เป็นที่ระลึกรู้สึกปลื้มใจมาก ที่ผ่านมาเคยรับเสด็จ สมเด็จพระพันปีหลวง และในหลวงรัชกาลที่ 9 หลายครั้ง ภาพความทรงจำทั้งสองพระองค์เสด็จเคียงคู่เสมือนคู่บุญ เป็นแบบอย่างที่ดีของครอบครัว และภาพประทับใจพระองค์ท่านคือท่านใจดีไม่ถือตัวและท่านพูดเพราะกับประชาชนทุกคน วันนี้มากราบสักการะ ก็อธิษฐานขอเป็นข้ารองบาทของพระองค์ท่านตลอดไป และขอน้อมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัยไปอยู่กับพ่อหลวงทุกชาติไป ที่ผ่านมาพระองค์ท่านประชวรตลอดก็อยากเห็นอีกสักครั้ง แต่ก็ไม่มีโอกาสได้เห็นแล้ว ก็จะจดจำภาพที่พระองค์ท่านเสด็จไปในโครงการต่างๆเพื่อช่วยเหลือประชาชนถือเป็นภาพทรงจำที่ประทับใจที่สุดแล้ว