การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดที่ 2 คืนวันอังคารนี้ มีการดวลแข้ง 2 คู่ “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ทีมดังจากอังกฤษ จะบุกไปเยือน โมนาโก ทีมมั่งคั่งแห่งฝรั่งเศส โดยเกมแรก โมนาโก บุกไปชนะถึงถิ่น 3-1 ทำให้ อาร์เซนอล ต้องชนะให้ได้ 3-0 จึงจะเข้ารอบ

เกมนี้ อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือปืน ที่เพิ่งโชว์ฟอร์มหรูด้วยการชนะ เวสต์แฮม 3-0 โดยจัดทัพเดินเกมรุกเต็มพิกัด นำโดย โอลิวิเยร์ ชิรูด์, เมซุต โอซิล และอเล็กซิซ ซานเชซ ขณะที่ แดนนี่ เวลเบ๊ค จะกลับมาลงตัวจริงอีกครั้ง แต่ยังไม่มี มาติเยอ เดบูชี่, 
อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน และมิเกล อาร์เตต้า ที่เจ็บ และรอเช็คความพร้อมของ แจ๊ค วิลเชียร์, กาเบรียล เปาลิสต้า และ
โทมัส โรซิคกี้

ทางฝั่งเจ้าบ้าน ไม่มี อันเดรีย เรจจี้, ลาซิน่า ตราโอเร่ และติเอมูเอ้ บากาโยโก และต้องเช็คฟิตของ เฌเรมี่ ตูลาล็อง และ
เจฟฟรี่ย์ กองด็อกเบีย โดยแนวรุกใช้ เจา มูตินโญ่ และดีมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ในการล่าตาข่าย

อีกคู่ “ตราหมี” แอต.มาดริด แห่งสเปน เล่นในบิเซนเต้ กัลเดร่อน ดวลกับ “ห้างยา” เลเวอร์คูเซ่น จากเยอรมนี ซึ่งเกมแรกนั้น เลเวอร์ฯ ชนะมาก่อน 1-0 นัดนี้เจ้าถิ่นไม่มี ติอาโก้ กับ ดีเอโก้ โกดิน สองดาวเตะคนสำคัญของทีมที่ติดโทษแบน รวมถึง นิกูเอซ ที่ยังบาดเจ็บ ซึ่งทีมยังยึดระบบคลาสสิค 4-4-2 ลงเล่นโดยมีตัวหลักอย่าง อาร์ดา ตูราน, กาบี้, อองตวน กริซซ์มันน์ และมาริโอ มานด์ซูคิซ นำทีม

ทางฝั่งทีมเยือนไม่มี ร็อบบี้ ครูซ ดาวเตะทีมชาติออสเตรเลีย เพียงคนเดียวที่บาดเจ็บ ส่วน ลาร์ส เบนเดอร์ กับ ติน เจดวาจ ทดสอบความฟิตน่าจะลงเล่นได้ นอกจากนี้จะได้ โอเมอร์ โตปราค พ้นโทษแบนกลับมาคุมเกมรับอีกด้วย

ทางด้าน “สิงโตน้ำเงิน” เชลซี ที่สะดุดทำได้แค่เสมอกับ “นักบุญ” เซาแธมป์ตัน1-1 ในศึกพรีเมียร์ลีก ทำให้มีคะแนนนำหน้า แมนฯซิตี้ 6 แต้ม แต่ยังลงเล่นน้อยกว่า 1 เกม ขณะที่ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คืนฟอร์มเก่งไล่ยำ “ไก่เดือยทอง” สเปอร์ส 3-0 ทำให้มี 56 แต้ม ตามหลัง อาร์เซนอล ทีมอันดับ 3 แค่แต้มเดียวเท่านั้น