วันศุกร์ ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / กีฬา
วิทยาศาสตร์สำหรับเยาวชน : นกโพระดกคอสีฟ้า Blue-throated Barbet

วิทยาศาสตร์สำหรับเยาวชน : นกโพระดกคอสีฟ้า Blue-throated Barbet

วันอาทิตย์ ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2558, 06.00 น.
Tag :
  •  

นกโพระดกคอสีฟ้า Blue-throated Barbet เป็นนกประจำถิ่นของไทย ที่พบได้บ่อยและมีปริมาณปานกลาง ซึ่งจะพบชนิดย่อย Megalaima asiatima davisoni ได้ทางภาคเหนือและภาคตะวันตก ชนิดย่อยของ Megalaima asiatima laurentii พบได้ทางภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ส่วนชนิดย่อย Megalaima asiatima chersonesus พบได้ทางภาคใต้ตั้งแต่คอคอดกระลงไป

นกโพระดกคอสีฟ้าลักษณะลำตัวจะอ้วนป้อมตัวสีเขียว ขนาดประมาณ 23 ซม. บริเวณหน้า แก้มและใต้คอสีฟ้า ที่บริเวณหน้าผากและท้ายทอยมีสีแดง ส่วนกลางกระหม่อมมีแถบสีดำพาดตามขวางยาวลงมาถึงขอบตาบน มีแต้มสีแดงตรงช่วงด้านข้างอกบน มีปากใหญ่หนาสีน้ำตาล ปลายแหลมสีออกน้ำตาลดำ และมีขนแข็งๆ สีดำที่โคนปากหลายเส้น ปีกและหลังมีสีเขียวเข้ม หางสั้นสีเขียว ขาและนิ้วเท้าสีน้ำตาลออกส้มอ่อน นกทั้งสองเพศมีสีสันเหมือนกัน เราจะพบนกชนิดนี้ได้ตามป่าดงดิบเขา และป่าดงดิบแล้ง มันมักหากินอยู่ตามลำพัง แต่บางครั้งเราอาจพบหากินกันเป็นกลุ่มเล็กๆ อาหารจะเป็นพวกผลไม้ลูกไม้สุก เช่น ลูกไทร ลูกตะขบป่า ลูกหว้า แมลงและตัวหนอนที่เดินตามกิ่งไม้ที่เจ้าโพระดกคอสีฟ้าเกาะอยู่


ช่วงฤดูผสมพันธุ์จะอยู่ราวเดือนมีนาคม ถึงเดือนมิถุนายน เรามักจะได้ยินเสียงร้องของนกชนิดนี้ตลอดเวลาทั้งวัน ร้องดัง “โต้ก..กา...โรก..โต้ก...กา..โรก...เมื่อตัวหนึ่งร้อง ตัวอื่นได้ยินจะขานรับกันไป นกตัวผู้และตัวเมียจะช่วยกันสร้างรังด้วยการขุดเจาะโพรงที่ลำต้นไม้หรือตามกิ่งไม้ใหญ่ อยู่ใต้กิ่งไม้มีใบไม้ปิดบังตาสัตว์อื่นไว้ หรืออาจใช้โพรงรังเก่าของตัวเอง วางไข่ครั้งละ 3-4 ฟอง ทั้งสองเพศผลัดกันฟักไข่ ประมาณ 14-15 วัน ทั้งพ่อนกและแม่นกช่วยกันเลี้ยงลูกอ่อนอีกประมาณ 30 วัน จนลูกนกขนขึ้นสมบูรณ์และแข็งแรงดีแล้วจะเริ่มหัดบินอยู่ไม่ไกลจากรังนัก กระทั่งบินได้คล่องแคล่วแล้ว จึงแยกออกจากรังไปหากินกันตามลำพังและจับคู่สร้างรังกันเองใหม่ต่อไป

ปัญจพร ศรีบุญช่วย

ฝ่ายเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อมและทรัพยากร

สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

โหร‘AI’ไขดวงชะตา! ‘ChatGPT’ที่พึ่ง‘ไทยสายมู’ยุคดิจิทัล

อนุสาวรีย์แห่งการโกง! ‘สรรเพชญ’ติดตามคืบหน้า‘อควาเรียมหอยสังข์’

'มทภ.2'ลั่น!อดทนถึงที่สุด ถ้าต้องใช้กำลังก็พร้อมรักษา'แผ่นดินไทย'

นักวิชาการ มธ.แนะรัฐปรับการสื่อสารใหม่ ชี้บรรยากาศ‘ไทย-กัมพูชา’เข้าข่ายวิกฤตแล้ว

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved