เอล กลาซิโก้ หรือ เอล คลาสสิก โคจรมาเจอกันอีกครั้ง

ระหว่าง บาร์เซโลน่า กับ เรอัล มาดริด เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา

การต่อกรในเชิงสัญลักษณ์, ศักดิ์ศรี, ความเย่อหยิ่งในชาติพันธุ์ทำให้ใครก็ห้ามกะพริบตา แถมครั้งนี้ยังเป็นเกมที่รำลึกถึง “นักเตะ-กุนซือเทวดา” โยฮัน ครัฟฟ์ ที่เพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อสัปดาห์ก่อน

หลายคนบอกว่า คู่นี้มีอะไรหลายต่อหลายอย่างที่มันเป็นรากฝังลึกเข้าไปในก้นบึ้งของหัวใจ เพราะความรู้สึกหยิ่งในชาติพันธุ์ของตัวเองมีอยู่ทั่วโลกครับ

ผมเชื่อว่าทุกคนเป็น อยู่ที่ว่าท่านจะแสดงออกกันมาในเวลาไหนเท่านั้น

หมายเหตุแห่ง “ชาติพันธุ์” น่าสนใจมากๆ เป็นประเด็นทุกแห่งหนมาโดยตลอด และตอนนี้วงการกีฬากำลังโฟกัสไปที่แผ่นดินของสเปน

เพราะมันจะมีผลชัดเจนหากมีการ “แบ่งแยกดินแดน” หรือว่า “แยกประเทศ” ในอนาคตที่อาจจะเกิดขึ้นอันใกล้นี้

นั่นคือแคว้นคาตาลันที่หลายคนรู้จัก หรือ คาตาลุนญ่า ในฐานะที่โลกรับรู้ว่าเป็นชนชาว “คาตาโลเนีย”

ที่ต้องการจะแยกออกจาก สเปน

เป็นที่ทราบว่า ทั้งคาตาลัน และ บาสก์ ต้องการ “จะแยก” จากสเปน มานานแล้ว เนื่องจากทั้งสองแคว้นนี้มีภาษา และอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมอันเป็นแบบฉบับเฉพาะของตนเองที่ชัดเจน

ทำให้ต้องการมีอิสระในการปกครองตนเองมากขึ้น จากศูนย์กลางของรัฐชาติ ที่กรุงมาดริด

ประเด็นแห่งความร้าวฉาน ความแตกแยกเกิดขึ้นมานาน แต่หนักสุดๆ ก็น่าจะเป็นช่วง 4 ปีที่ผ่านมา เมื่อโลกเริ่มไร้พรมแดน การสื่อสารเข้าถึง

การระบายออกรับรู้กันง่ายแค่ปลายนิ้ว

คาตาโลเนีย เป็นแคว้นใหญ่อันดับสองของสเปน เป็นเมืองอุตสาหกรรมผลิตสินค้าส่งออกที่สำคัญที่สุด สร้างผลผลิตทางเศรษฐกิจร้อยละ 20 ของประเทศ มีฐานะที่ร่ำรวย และถูกเรียกเก็บภาษีสูงสุดแห่งหนึ่งของประเทศ รวมถึงมีอำนาจปกครองตนเองในระดับหนึ่งอยู่แล้ว

คาตาโลเนีย คือกลุ่มเชื้อชาติที่ได้ทําการออกมาเรียกร้องอย่างเป็นประชาธิปไตยมาอย่างยาวนานถึงความต้องการในการปกครองตนเอง โดยมีวัตถุประสงค์การพัฒนาความกินดีอยู่ดี และโอกาสที่เท่าเทียมกันสําหรับประชาชนทุกคน เพื่อเสริมสร้างวัฒนธรรมและตัวตนของพวกเขาเอง

การปกครองตนเองของคาตาโลเนียได้สร้างขึ้นจากสิทธิ์ทางประวัติศาสตร์ของคนคาตาลันในสถาบันอันเก่าแก่ของพวกเขาและธรรมเนียมทางกฎหมาย รัฐสภาคาตาลันมีฐานรากตั้งแต่สมัยยุคกลาง

ที่นี่มีภาษาพูด มีวัฒนธรรม มีประวัติศาสตร์ ในอดีตเคยเป็นเอกราช ไม่ได้ขึ้นกับสเปน ต่อมาถูกรุกราน และบวกเข้ากับสเปน แต่คนที่นี่ยังคงรักษาอัตลักษณ์ของตนไว้

ซึ่งพวกเขาได้วางรากฐานการฟื้นฟูการปกครองของตัวเองมาตั้งแต่ปี 1914

หลายๆ ประเด็น ส่งผลให้คนที่นี่แตกต่างจากแคว้นอื่นของสเปน อย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะภาษาพูด กลายเป็นชนวนให้ชาวสเปนบางส่วนไม่พอใจชาวคาตาลัน เพราะไม่ยอมใช้ภาษาสเปน

เหตุนี้ยิ่งทำให้คนคาตาลัน รู้สึกแปลกแยกมากยิ่งขึ้นไปอีก

เนื่องเพราะไม่ค่อยรู้สึกว่าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับประเทศแม่ของตัวเอง

ประเด็นที่ถูกมองมากที่สุดก็คือ “รัฐบาลกลาง” ได้จัดการเก็บภาษีจำนวนมาก แต่งบประมาณที่ถูกส่งกลับมาพัฒนาแคว้นมีน้อยนิด แถมยังเรียกภาษีเพิ่มขึ้นอีก ส่งผลถึงการขาดความสมดุลอย่างชัดเจน

เรื่องนี้ มันเกี่ยวกับเกมลูกหนังอย่างเต็มจัง

จากกรณีดังกล่าว ฆาเบียร์ เตบาส ประธานฟุตบอลลีกอาชีพของสเปน ยอมรับว่า ถ้า คาตาโลเนีย สามารถแยกตัวเป็นอิสระได้แล้วนั้น

จะทำให้ “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า ที่อยู่ในแคว้นดังกล่าว จะหมดสิทธิ์เข้าแข่ง ลา ลีกา สเปน ทันที

นั่นเป็นกฎของฟุตบอลลีกที่ระบุเอาไว้อย่างชัดเจน ตามที่สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า กำหนดเอาไว้ และก็ไม่มีทางทำอะไรได้

นอกเสียจากว่าจะมีการทำข้อตกลงระหว่างรัฐขึ้นมา

ไม่เพียงแต่ บาร์ซ่า เท่านั้น ยังมี เอสปันญ่อล, นาสติช, ฆิโรน่า, ลากอสเตร่า และ ซาบาเดลล์ อีกด้วย เพราะกฎต่างๆ นั้นชัดเจนอย่างมากว่า หากเมื่อไหร่ก็ตามที่มีการแยกประเทศเกิดขึ้น จะทำให้สโมสรเหล่านี้ไม่สามารถเล่นใน ลา ลีกา ได้

มาตรการเดียวที่พอจะแก้ไขได้ นั่นก็จะต้องเปลี่ยนมาตรการทางด้านกีฬา หรือมีกฎพิเศษเกิดขึ้น ตัวอย่างก็คือ
อันดอร์รา ใช้กฎพิเศษทำให้ลงเล่นกับสเปนได้

ถ้าหากว่า บาร์เซโลน่าต้องออกจาก ลา ลีกา ก็จะทำให้อวสานเกมแห่งตำนานเอล กลาซิโก้ กับ เรอัล มาดริด ทันที

ฟุตบอล ลา ลีกา สเปน เมื่อไม่มี บาร์เซโลน่า แล้วทีนี้ เรอัล มาดริด จะไปแข่งร่วมบารมีกับใคร มันจะกระทบไปทุกอย่าง

การเข้าชมในสนาม, การถ่ายทอดสด มูลค่าในและรอบๆ สนามจะลดลงแน่นอน

ที่สำคัญนักเตะเลือดคาตาโลเนีย จะไม่ได้เล่นให้ทีมชาติสเปน ซึ่งจะคล้ายกับทีมชาติยูโกสลาเวีย ที่แข็งแกร่งเกือบถึงขั้นแชมป์โลก ปี 1990 แต่ต้องกระจายไปเล่นตามรัฐที่แตกออกไปจนไม่ได้ลุ้นอะไรเลย

ตรงๆ ก็คือ การแยกแผ่นดิน เป็นเรื่องการเมืองซึ่งดูแล้วฟันธงไม่ได้ว่า จะออกหัวก้อย แต่ถ้าเรื่องการบอลล่ะก็ฟันธงทันทีว่า

“ลา ลีกา” พังแน่นอน

บี แหลมสิงห์