.

"ชุดแข่ง" เป็นเรื่องสำคัญ อาจจะเป็นการสร้างความมั่นใจก่อนลงสนาม

บอลโลกปีนี้เหมือนกับว่า ชัยชนะอยู่บนหน้าตักของ “เยอรมนี” เมื่อบรรดาทีมชั้นนำต่างๆ เลือกใช้แบรนด์จากประเทศนี้มากที่สุด 17 ชาติ 3 แบรนด์ด้วยกัน

นั่นคือ อาดิดาส, พูม่า และอูห์ลสปอร์ต

32 ชาติที่เข้าตะลุยบอลโลกรอบสุดท้าย ได้เลือกแบรนด์ที่ใช้ลงสนามประกอบด้วยไปด้วย............

Adidas 12 ชาติ : รัสเซีย, อียิปต์, สเปน, โมร็อกโก, อิหร่าน, อาร์เจนติน่า, เยอรมนี, เม็กซิโก, สวีเดน, เบลเยี่ยม , โคลอมเบีย และญี่ปุ่น

Nike 10 ชาติ : บราซิล, ซาอุดีอาระเบีย, โปรตุเกส, ฝรั่งเศส, ออสเตรเลีย, โครเอเชีย, ไนจีเรีย, เกาหลีใต้, อังกฤษ และ โปแลนด์

PUMA 4 ชาติ : อุรุกวัย, สวิตเซอร์แลนด์, เซอร์เบีย และเซเนกัล

New balance 2 ชาติ : คอสตาริก้า กับ ปานามา

UMBRO 1 ชาติ : เปรู

Hummel 1 ชาติ : เดนมาร์ก

ERREA 1 ชาติ : ไอซ์แลนด์

Uhlsport 1 ชาติ : ตูนีเซีย

เสื้อใครสวยที่สุด, เสื้อใครแปลกที่สุด และเสื้อใครแย่ที่สุด ทั้งหมดทั้งมวลอยู่ที่มุมมองของแต่ละคน แต่ครั้งนี้ “เสื้อฟุตบอลโลก” เน้นการ “ย้อนยุค” หรือที่เรียกกันติดปากว่า “เรโทร” จึงได้ข้อจำกัดนิยามกับคำว่า Heavy old-school และ Pretty retro

ตัวอย่างเช่น...............................

แบรนด์ของ Nike แห่งรัฐออเรกอน สหรัฐ เลือกการย้อนยุคของอังกฤษ แต่แปลกตรงที่ใช้เป็นเพียงแค่ “ชุดซ้อม” ที่คล้ายกับปี 1982 ส่วนที่เหลือเป็นการ “ออกแบบเหมือนไม่ออกแบบ” นั่นคือ บราซิล, ซาอุดีอาระเบีย, โปรตุเกส, ฝรั่งเศส   และโครเอเชีย

ขณะที่ Adidas เจ้าของเดียวกันกับ PUMA มีแนวย้อนยุคที่ค่อนข้างชัดเจนกว่า โดยเฉพาะการหยิบจับเอาชุดที่เคยใส่สุดคลาสสิคมาใช้ในการออกแบบ

รัสเซีย เหมือนกับเมื่อครั้งที่ได้เหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ ปี 1988, สเปน ย้อนไปเมื่อบอลโลก 1994 ที่เหมือนเป๊ะๆ, เยอรมนี ทั้งเหย้าและเยือน ได้ยึดแบบชุดแชมป์โลก 1990 ครั้งที่ยังมีคำว่า “ตะวันตก” พ่วงท้าย ยุคยังไม่ทุบกำแพงเบอร์ลิน, เบลเยี่ยม ย้อนไปเมื่อชุดยูโร 1984 และ โคลอมเบีย กลับไปที่ปีบอลโลก 1990

ฝั่งของ UMBRO แบรนด์อังกฤษ ก็ไม่ได้ออกแบบอะไรมาก เพราะ เปรู ใช้สไตล์พื้นขาวและพาดไหล่สีแดงตามธงชาติของประเทศ รวมไปถึง Hummel ก่อตั้งที่ฮัมบูร์ก แต่ตอนนี้เฮด ควอเตอร์ อยู่ในอาร์ฮุส ประเทศเดนมาร์ก

ออกแบบรู้เลยว่ายังไงก็เอกลัษณ์ เดนมาร์ก ชัดเจน

ส่วนชุด ERREA ของปาร์ม่า ประเทศ อิตาลี ออกแบบให้ ไอซ์แลนด์ ที่โลกออนไลน์ยี้กันสุดๆ, อูห์ลสปอร์ต อยู่ที่ บาเด้น-วูร์ตเท่มแบร์ก สตุ๊ตการ์ท ตอนใต้ของเยอรมนี ออกแบบ “คอวี” ให้กับ ตูนีเซีย

ปิดท้ายด้วย 2 ทีมจากคอนคาเคฟ คอสตาริก้า กับ ปานามา มาด้วยแบรนด์จากบอสตัน แมสซาชูเซตส์ นั่นคือ New balance ที่ดูเรียบหรู

อย่างไรก็ตาม การเปิดตัวที่ยอดเยี่ยมของเสื้อเรโทร ได้รับการตอบรับอันยอดเยี่ยม แต่ลงท้ายกลายเป็นว่า เสื้อแนว “สตรีท” ของ “อินทรีมรกต” ทีมชาติไนจีเรีย ชนะเลิศหน้าตาเฉย!!!

“ไนกี้” เจ้าของแบรนด์ได้เซ็นสัญญาเป็นเวลา 3 ปีครึ่งกับทัพ “ซูเปอร์อีเกิลส์” นับตั้งแต่ปี 2015 โดยตลอดสัญญาเป็นเงินจำนวน 3.75 ล้านเหรียญสหรัฐ และเพิ่งจ่ายโบนัส 500,000 เหรียญ หลังจากทีมผ่านเข้ารอบสุดท้ายบอลโลกได้สำเร็จ

ชุดนี้มีความแปลกและเก๋กว่าทีมอื่น นั่นคือ การใช้เฉดสีเขียว ดำกับขาวสลับกัน รวมถึงลายซิกแซ็ก เอามารวมกัน โดยได้แรงบันดาลใจจากเสื้อบอลโลกปี 1994 พร้อมกับเป็นเสื้อแนว “สตรีท” ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันอีกด้วย

ยอดขายเสื้อของทีมชาติไนจีเรีย มียอดสั่งจองกว่า 3 ล้านตัว เป็นข้อมูลจาก สมาคมฟุตบอลไนจีเรียในการประชุมของไนกี้ ณ สำนักงานใหญ่ประจำทวีปยุโรป ทุบสถิติเดิมของ “ปีศาจแดง” สโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งมียอดขายเสื้อรวมกันทั่วโลก สูงสุดที่ประมาณ 2.85 ล้านตัว ในช่วงปี 2016

การขายเมื่อวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา ขายดิบขายดีหมดทุกแบบทุกลาย ภายในเวลาไม่ถึง 5 นาที!!!!

ในเรื่อง Street fashion มีที่มาจากมหานครลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในช่วงยุคปี 60 ที่ มีชนชั้นกลางอาศัยอยู่มากกว่าชนชั้นสูง ทำให้แฟชั่นของคนชนชั้นสูง ไม่ได้เด่นมากเหมือนในประเทศฝรั่งเศส ที่เต็มไปด้วยคนชนชั้นสูง

ดังนั้น คนชั้นกลาง ที่มีอายุอยู่ในช่วงวัยรุ่น จึงเป็นตัวแทนการแสดงออกของแฟชั่น เป็นส่วนใหญ่จากจำนวนคนในประเทศ ทำให้ “สตรีทแฟชั่น” จึงเป็น “แฟชั่นชุด” และการแต่งตัวที่สามารถใส่ได้บ่อยกว่า และยังใส่ได้จริงในชีวิตประจำวัน

เมื่อ “สตรีทแฟชั่น” เป็นเรื่องของชีวิตจริง จึงเน้นในเรื่องการใส่ง่าย ใส่สบาย ใส่ได้บ่อย บวกกับมีความเก๋แฝงอยู่ ที่ทำให้เป็นแฟชั่นยอดฮิตไปทั่วโลก

ชุดไนจีเรียชุดนี้ จึงมาครบหมดในสไตล์ของสตรีท เมื่อใส่ให้เป็นลวดลาย และสีสันตามฤดูกาล ความร่าเริง ความสดใด พร้อมกับมีความเป็นตัวเองสูงมาก ในราคาที่แตะต้องได้

ดังนั้นยอดรวมของ อาดิดาส อาจจะมากที่สุด 12 ชาติ, ยอดรวมแบรนด์จากเยอรมนี ชนะขาด 16 ชาติ แต่ถ้าหากตื่นเต้นและดังที่สุด

อันนี้ต้องยอม ไนจีเรีย หนนี้จริง ๆ!!!

............... บี แหลมสิงห์ ..............