ลิเวอร์พูล กับแชมป์ยูซีแอล ปี 2005 เป็นแชมป์ยุโรป สมัยที่ 5 ของสโมสร เมื่อ 14 ปีก่อน

นับจากวันนี้เหลือเวลาอีกไม่กี่อึดใจนัดชิงชนะเลิศในประวัติศาสตร์ของวงการฟุตบอลยุโรป กำลังจะเกิดขึ้น

เพราะเป็นครั้งแรกที่ การชิงชัย 2 รายการคือ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก กับ ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก รวม 4 ทีมมาจากชาติเดียวกัน นั่นคือประเทศอังกฤษ

ลิเวอร์พูล พบกับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ในถ้วยบิ๊กเอียร์ ที่มาดริด และยูโรป้าลีก ที่บากู ระหว่าง อาร์เซนอล กับ เชลซี

ทั้ง 4 ทีมประสบความสำเร็จในถ้วยยุโรปกันมาหมดแล้ว จะมากหรือน้อยแล้วแต่ประดามี

วันนี้นำทุกท่านไปติดตามความสำเร็จของทุกทีมที่ผ่านมา เป็นการอุ่นเครื่องก่อนจะชิงชัย “The Battle of English”

● “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล

ทีมจากถิ่นเมอร์ซี่ย์ไซด์ คือทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของอังกฤษ ในแผ่นดินยุโรป หลังจากพวกเขาเป็นแชมป์ยุโรปถึง 5 สมัย

การเข้าชิงปีนี้คือสมัยที่ 9 ในความพยายามของสโมสร เป็นปีที่ 2 ติดต่อกันเป็นครั้งที่ 3 ในประวัติศาสตร์อีกด้วย

“หงส์แดง” ครองแชมป์ถ้วยใหญ่อย่างแชมเปี้ยนส์ลีก เริ่มต้นจากยุคยูโรเปี้ยนคัพ ในปี 1977 เอาชนะ โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค จากเยอรมันตะวันตก ที่กรุงโรม 3-1 ภายใต้การคุมทัพของ บ็อบ เพสลี่ย์ โดย 3 ประตูที่ได้คือ เทอร์รี่ แม็คเดอร์ม็อตต์, ทอมมี่ สมิธ และจุดโทษของ ฟิล นีล

ปีต่อมา ลิเวอร์พูล ป้องกันแชมป์ได้สำเร็จ ด้วยการเชือด คลับ บรูช จากเบลเยียม 1-0 จากประตูทองของ เคนนี่ ดัลกลิช ที่มารับหน้าที่สืบทอดตำนานหมายเลข 7 ต่อจาก เควิน คีแกน ซึ่งเกมนั้นที่เวมบลี่ย์ ยุคหอคอยคู่

มาถึงการเป็นแชมป์สมัยที่ 3 เกมที่ปารีส ปี 1981 “หงส์แดง” ได้ประตูโทนจากลูกทุ่มของ เรย์ เคนเนดี้ ไปให้กับ อลัน เคนเนดี้ ที่นามสกุลเหมือนกัน แต่ไม่ได้เป็นญาติกัน วิ่งทะลุเข้าไปกดด้วยซ้ายพิชิต “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด ลงได้ 1-0

ตามด้วยสมัยที่ 4 ในปี 1984 นัดชิงที่กรุงโรม เจอกับ “หมาป่า” โรม่า ที่เป็นเจ้าของสนาม เกมนั้น เสมอกัน 1-1 ก่อนจะยิงจุดโทษ “หงส์แดง” กำชัย 4-2 พร้อมกับตำนาน “สปาเก็ตตี้ เลค” ของ บรู๊ซ กร็อบเบลาร์ ไอ้เสือเปรียวจากซิมบับเว

กระทั่งถึงยุคแชมเปี้ยนส์ลีก “หงส์แดง” สร้างปรากฏการณ์ในเกมที่โลกต้องจารึกไปตลอดกาล เมื่อตามหลังโคตรทีมจากอิตาลีอย่าง “ปีศาจแดง-ดำ” เอซี มิลาน จากอิตาลี 0-3 ในครึ่งแรก ก่อนจะไล่ตีเสมอ 3-3 ด้วยการใช้เวลาเพียง 6 นาที จาก สตีเว่น เจอร์ราร์ด, วลาดีเมียร์ ซมิเซอร์ และชาบี อลอนโซ่ ก่อนจะลากไปยิงเป้าเอาชนะ 3-2 กลายเป็นแชมป์ยุโรป สมัยที่ 5

พร้อมกับ “สปาเก็ตตี้ เลค รีเทิร์น” จากการเซฟของ เยอร์ซี่ ดูเด็ค นายประตูหงส์แดง

ก่อนหน้านั้น ลิเวอร์พูล เคยได้แชมป์ยูฟ่า คัพ ในปี 1973 ยุคของ บิลล์ แชงคลี่ย์ ด้วยการชนะ มึนเช่นกลัดบัค ด้วยสกอร์รวม 3-2 และปี 1976 ชนะ คลับ บรูช จากเบลเยียม สุดมันส์ 2 นัด 4-3 ก่อนจะเข้าสู่ยุคเจ้ายุโรปถ้วยใหญ่

จากนั้นในปี 2001 ได้แชมป์ยูฟ่า คัพ เป็นสมัยที่ 3 ด้วยการชนะโกลเด้นโกล์เหนือ อลาเบส จากสเปน อย่างมโหฬารถึง 5-4

ทั้งนี้ ลิเวอร์พูล เคยเข้าชิงรายการแรกคือ คัพ วินเนอร์ส คัพ เมื่อปี 1966 แต่พ่ายให้กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ของเยอรมันตะวันตก 1-2 ในช่วงต่อเวลาที่แฮมป์เดน พาร์ค

ส่วนเกมชิงเจ้ายุโรปที่ ลิเวอร์พูล ปราชัย 3 ครั้ง คือพ่ายให้กับ ยูเวนตุส ในเกมโศกนาฏกรรมที่เฮยเซลล์ 0-1 ปี 1985, และแพ้ มิลาน 1-2 ปี 2007 และล่าสุดเมื่อปีก่อนแพ้ เรอัล มาดริด 1-3

รวม ลิเวอร์พูล ครองถ้วยยุโรป ได้ทั้งหมด 2 รายการ รวม 8 แชมป์

สเปอร์ส กับชัยชนะหนล่าสุดในยุโรป กับถ้วยยูฟ่า คัพ ปี 1984

● “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์

ความพยายามครั้งแรกสำเร็จเรียบร้อยสำหรับ สเปอร์ส ที่ไม่เคยเข้าถึงรอบชิงถ้วยใบใหญ่ พวกเขาทำได้สำเร็จแล้ว แต่จะได้แชมป์หรือไม่นั่นเป็นอีกเรื่อง

“ไก่เดือยทอง” เคยได้แชมป์ระดับยุโรป มาแล้วทั้งหมด 3 ครั้งด้วยกัน

แชมป์แรกของพวกเขาคือ ศึกคัพ วินเนอร์สคัพ ปี 1963 ลงเล่นที่ร็อตเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์ ระเบิดฟอร์มไล่ถล่ม “ตราหมี” แอตเลติโก มาดริด จากสเปน ขาดลอย 5-1 เกมนั้น จิมมี่ กรีฟส์ ดาวยิงคนดังที่เพิ่งย้ายกลับจากอิตาลี สังหารไป 2 เม็ด

จากนั้น สเปอร์ส ได้แชมป์ยูฟ่า คัพ ในปี 1972 ซึ่งปีนั้นเป็นปีแรกที่แข่งแบบเหย้า-เยือน เป็นการโคจรมาเจอกันของสองทีมจากอังกฤษ นั่นคือ สเปอร์ส กับ “หมาป่า” วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส

ในเกมแรก สเปอร์ส บุกชนะที่โมลินิวซ์ กราวนด์ 2-1 จากการเหมายิงของ มาร์ติน ชิเวอร์ส ก่อนที่ทั้งคู่จะมาเสมอกันที่ไวท์ ฮาร์ท เลน 1-1 ทำให้ สเปอร์ส ชนะด้วยสกอร์รวม 3-2 ครองแชมป์ถ้วยนี้เป็นสมัยแรก

สองปีต่อมา สเปอร์ส เดินทางถึงนัดชิงยูฟ่า คัพ อีกครั้ง โคจรมาเจอกับ เฟเยนูร์ด จากเนเธอร์แลนด์ โดยเกมแรก สเปอร์ส ทำได้แค่เสมอกับอาคันตุกะที่ลอนดอน 2-2 จากนั้น เฟเยนูร์ด ไปเช็คบิลที่ถิ่นดัทช์ 2-0 ทำให้ สเปอร์ส แพ้ 2-4 ชวดแชมป์ไป

จนมาถึงปี 1984 สเปอร์ส ได้แชมป์ยูฟ่า คัพ เป็นสมัยที่ 2 หลังจากเข้ามาดวลกับ อันเดอร์เลทช์ จากเบลเยียม โดยเกมแรกบุกไปเสมอมาได้ก่อนแบบน่าชนะ 1-1 ก่อนจะมาเสมอกันอีกที่บ้านไก่ 1-1 ต้องยื้อไปถึงช่วงยิงจุดโทษ ก่อน สเปอร์ส ยิงเป้าชนะไป 4-3 ได้แชมป์

จากวันนั้นถึงวันนี้ ถือเป็นหนแรกในรอบ 35 ปีที่ สเปอร์ส ได้ชิงถ้วยยุโรป

“ปืนใหญ่” อาร์เซนอล กับแชมป์คัพ วินเนอร์ส คัพ เมื่อปี 1994

● “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล

ทีมดังจากนอร์ท ลอนดอน ผ่านการเข้าชิงทั้ง 3 รายการของฟุตบอลยุโรปมาแล้ว โดยที่พวกเขาได้แชมป์ไปทั้งหมด 2 รายการด้วยกัน และเกือบจะคว้าถ้วยใหญ่อย่างแชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อปี 2006

แชมป์แรกของ อาร์เซนอล เกิดขึ้นเมื่อปี 1970 ในศึกแฟร์สคัพ หรือ Inter-Cities Fairs Cup ก่อนที่จะควบรวมกับ ยูฟ่า คัพ ในกาลต่อมา

อาร์เซนอล บุกไปแพ้ให้กับ อันเดอร์เลชท์ ที่เบลเยียม 1-3 โดยได้ประตูสำคัญจาก เรย์ เคนเนดี้ ในนาทีที่ 82 หลังจากโดนยิงไปก่อนถึง 3 ลูก ทำให้พวกเขายังอยู่ในเกม และกลับมาถลุงคืนที่ไฮบิวรี่ 3-0 โดยเฉพาะประตูที่ 2 ของเกมจาก จอห์น แรดฟอร์ด กับประตูที่ 3 ของ โจนาธาน แซมเมลส์ เกิดขึ้นาทีที่ 75 กับ 76 ห่างกันนาทีเดียวเท่านั้น!

10 ปีต่อมา พวกเขาเข้าชิงคัพ วินเนอร์ส คัพ ได้สำเร็จ ปี 1980 แต่พ่ายจุดโทษให้กับ “ไอ้ค้างคาว” บาเลนเซีย จากสเปน ด้วยการดวลเป้า 4-5 ได้แค่รองแชมป์ที่เฮย์เซลล์ เบลเยียม

มาถึงปี 1994 “ปืนใหญ่”ครองแชมป์ยุโรปได้เป็นถ้วยที่ 2 ในศึกคัพ วินเนอร์สคัพ ด้วยการเฉือนชนะ “จัลโลบลู” ปาร์ม่า จากอิตาลี 1-0 ที่โคเปนเฮเกน จากการยิงของ “อีที” อลัน สมิธ ดาวยิงคนสำคัญของทีม และเป็นแชมป์ครั้งล่าสุดของสโมสรแห่งนี้

เพราะการเข้าชิงอีก 3 รายการต่อมา อาร์เซนอล ต้องออกจากสนามด้วยความผิดหวัง

ปีต่อมา คือปี 1995 อาร์เซนอล ทะลุมาป้องกันแชมป์คัพ วินเนอร์สคัพ เจอกับ เรอัล ซาราโกซ่า จากสเปน ที่พาร์ค เดอ แพรงส์ กรุงปารีส ในเกมเข้มข้นที่ ฮวน เอสไนแดร์ ทำให้ซาราโกซ่า นำก่อน แต่ จอห์น ฮาร์ทสัน ก็พังประตูตีเสมอได้สำเร็จทำให้เกมต้องต่อเวลา และทำท่าจะต้องดวลเป้า

แต่ก่อนเหมดเวลานาทีเดียว นาอิม อดีตดาวเตะสเปอร์ส ก็ยิงไกลเกือบครึ่งสนามเข้าไปตุงตาข่าย ชี้ชัยให้กับ ซาราโกซ่า 2-1

มาถึงปี 2000 “ปืนใหญ่” ได้ชิงยูฟ่า คัพ กับ กาลาตาซาราย จากตุรกี ที่โคเปนเฮเก้น สนามที่พวกเขาเคยได้แชมป์คัพ วินเนอร์สคัพ เมื่อปี 1994 แต่หนนี้ไม่เหมือนวันวาน พวกเขาแพ้ทีมจากแดนเติร์ก ในการดวลจุดโทษ 1-4 ชวดแชมป์ไปอีกครั้ง

ล่าสุดคือ ปี 2006 อาร์เซนอล เดินทางมาถึงนัดชิงแชมเปี้ยนส์ลีก เป็นหนแรก ต้องดวลกับ “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า จากสเปน และมีโอกาสได้แชมป์เมื่อได้ประตูนำก่อนจาก โซล แคมป์เบลล์ แม้ว่าตอนนั้นจะเหลือ 10 คน ตั้งแต่ 18 นาทีแรกหลังจาก เยนส์ เลห์มันน์ โดนไล่ออก

แต่ในครึ่งหลัง บาร์ซ่า เอาคืนได้สองประตูจาก ซามูแอล เอโต้ กับ ชูเลียโน่ เบลเล็ตติ ทำให้สาวก “เดอะ กันเนอร์ส” ต้องผิดหวังกันอีกครั้ง

“สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ได้แชมเปี้ยนส์ลีก มาแล้ว เมื่อปี 2012

● “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี

ทีมจากตำบลฟูแล่ม ย่านคนมีสะตุ้งสตางค์ เป็นทีมแรกและทีมเดียวของอังกฤษ ที่กวาดทุกแชมป์ทั้ง 3 รายการหลักของยุโรป ประกอบด้วย แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 1 สมัย, แชมป์ยูโรป้า ลีก 1 สมัย และคัพ วินเนอร์สคัพ 2 สมัย

เริ่มต้นความสำเร็จ ปี 1971 เชลซี ชิงถ้วยคัพ วินเนอร์สคัพ ดวลกับ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด จากสเปน ที่ปิราอุส ประเทศกรีซ ปรากฏว่าเสมอกัน 1-1 ทำให้ต้องเตะรีเพลย์แมทช์ในอีก 2 วันต่อมา และเป็นสนามเดิม ซึ่ง “สิงห์บลูส์” ที่มี ปีเตอร์ ออสกู๊ด ดาวซัลโวตำนานสโมสรนำทัพ ก็ชนะไป 2-1 ยึดแชมป์เป็นหนแรก

ปี 1998 ถ้วยคัพ วินเนอร์ส คัพ ปีรองสุดท้าย ก่อนจะยุบถ้วยใบนี้ไปควบรวมกับระบบใหม่ “สิงห์บลูส์” ครองแชมป์ได้สำเร็จด้วยการเฉือนชนะ “ม้าขาว” เฟาเอฟเบ สตุ๊ตการ์ท จากเยอรมนี 1-0 จากประตูชัยของ จานฟรังโก้ โซล่า หัวหอกจิ๋วแจ๋วเจาะโลก

มาถึงปี 2008 เชลซี ก้าวถึงนัดชิงยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในศึกสายเลือดอังกฤษครั้งแรกในถ้วยใหญ่ กับ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เกมจบลงด้วยผลเสมอ 1-1 ก่อนที่จะดวลเป้ากัน เชลซี มีโอกาสชนะแต่ จอห์น เทอร์รี่ จังหวะยิงลูกชนะพลาดไปลื่นและบอลชนเสา ทำให้ต้องไปดวลกับซัดเด้นเดธ ซึ่ง นิโกลาส์ อเนลก้า ยิงพลาด ทำให้ เชลซี แพ้ไป 5-6 ชวดแชมป์

4 ปีต่อมา ปี 2012 ยาตราทัพกลับมาชิงได้อีกครั้งในแชมเปี้ยนส์ลีก ที่มิวนิค และต้องดวลกับ “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค ที่เหมือนกับได้เล่นในบ้าน ซึ่ง บาเยิร์น ออกนำในช่วง 7 นาทีสุดท้าย แต่ ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา โหม่งตีเสมอก่อนหมดเวลาเพียง 2 นาที สุดท้ายต้องไปดวลจุดโทษ หนนี้ เชลซี ยิงแม่นกำชัย 4-3 ครองแชมป์บิ๊กเอียร์ เป็นสมัยแรก ทั้งที่ โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ เพิ่งมาทำงานได้แค่ 76 วันเท่านั้น

ปีรุ่งขึ้น 2013 เชลซี ร่วงจากแชมเปี้ยนส์ลีก มาเล่น ยูโรป้า ลีก เปลี่ยนกุนซือมาเป็น ราฟา เบนิเตซ ที่คุมทัพชั่วคราว แต่ได้แชมป์ยูโรป้า หลังจากชนะ เบนฟิก้า ลิสบอน จากโปรตุเกส ที่อัมสเตอร์ดัม อารีน่า 2-1 จากประตูชัยในช่วงทดเวลาบาดเจ็บจาก บรานิสลาฟ อิวาโนวิช

บี แหลมสิงห์