เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ออกมายกย่องลูกทีมว่าเล่นได้อย่างสมบูรณ์แบบ หลังเปิดรัง แอนฟิลด์ ถล่มเอาชนะ “ไอ้ปืนใหญ่” อาร์เซนอล 3-1 พร้อมทำสถิติชนะรวดในพรีเมียร์ ลีกติดต่อกันเป็นเกมที่ 12 และรั้งจ่าฝูงต่อไปอีกสัปดาห์
โดยเกมนี้ ลิเวอร์พูล มาได้ 2 ประตูจาก โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ โจเอล มาติปส่วน อาร์เซนอล ได้ประตูแก้ตัวจาก ลูคัส ตอร์เรย์ร่า นั่นทำให้ “หงส์แดง” เก็บ 9 คะแนนเต็มจาก 3 นัดรั้งจ่าฝูงต่ออีกสัปดาห์ ส่วน “ไอ้ปืนใหญ่” ต้องพ่ายเป็นนัดแรกของฤดูกาลนี้
“ผมพอใจกับฟอร์มของลูกทีม และไม่เห็นใครเล่นไม่ดีเลย ทุกคนอยู่ในระดับของตัวเอง เรามีเกมที่ยอดเยี่ยมมากมันโดดเด่น เต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง นั่นเป็นสิ่งที่เราต้องการเมื่อต้องเจอกับ อาร์เซนอลเราแปลกใจเล็กน้อยกับแผนการเล่นของพวกเขา เพราะพวกเขาเปลี่ยนรูปแบบไปพอสมควร 80 นาทีแรก เราทำได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ในช่วง 10 นาทีสุดท้ายเรามีการครองเกม 53-47 ประมาณนั้น แต่นั่นแหละพวกเราไม่ใช่ ดิสนีย์แลนด์ที่จะทำให้ทุกคนตื่นเต้นทุกวินาที”
ทางด้าน อูไน เอเมรี่ กุนซือ อาร์เซนอลยืนยันยังคงมองไปยังแง่บวกจากฟอร์มที่ค่อนข้างน่าพอใจ “เราผิดหวังกับผลการแข่งขัน แต่เราก็สามารถมองไปยังแง่บวกจากเกมนี้ได้ เราอาจต้องลงให้ลึกกว่านี้อีกเล็กน้อย แต่เราก็มีสัญญาบวกกับความพยายามในการพังประตู ในครึ่งแรก โอกาสทองสำหรับเรามาจาก (นิโกล่าส์) เปเป้ กุญแจสำคัญก็คือประตูที่สองของเกมนี้ มันเป็นจุดโทษที่เบาบางมากเลยผมไม่คิดว่ามันรุนแรงมากพอนะ แต่การตอบสนองของเราหลังจากนั้นก็ดีขึ้น”
“อิมแพ็คจาก ลูกัส (ตอร์เรยร่า), ลากาแซ็ตต์ และ มคิทาร์ยาน นั้นดีมากโจ วิลล็อค เองก็ก้าวไปอีกขั้นในวันนี้ ผมยังมองไปในแง่บวก เพราะเรากำลังอยู่ในช่วงปรับปรุง เราสามารถแฮปปี้กับนักเตะที่แตกต่าง และวิธีการทำงานของพวกเขา”
สำหรับสถิติที่น่าสนใจในเกมนี้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่ส่วนร่วมกับประตูโดยตรง 7 ประตู จาก 6 เกมที่เจอกับอาร์เซนอล (ยิง 5 แอสซิสต์ 2) และยิงอาร์เซนอลได้ทุกเกมเมื่อเล่นในแอนฟิลด์นอกจากนี้ทัพ “หงส์แดง” ยังชนะ 12 เกมติดซึ่งเป็นสถิติที่ดีที่สุดที่เคยทำได้ในพรีเมียร์ลีกและเทียบเท่ากับทีมของเคนนี่ ดัลกลิชที่ทำไว้ตั้งแต่ปี 1990 ด้วย ปิดท้ายที่สถิติไม่ถูกใครเลี้ยงผ่านของ เวอร์กิล ฟาน ไดค์ ต้องหยุดลงที่ 50 เกม เมื่อเกมนี้เขาถูกนิโกล่าส์ เปเป้ กระชากผ่านตัวไปแล้ว
ขณะเดียวกัน โอเล่ กุนนาร์ โซลชากุนซือ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดก็ยอมรับว่าลูกทีมของเขาไม่เด็ดขาดพอจนทำให้ทีม พ่ายคาถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด1-2 ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบ 28 ปี ด้วย
“2 เกมที่ผ่านมา เราพลาดจุดโทษ 2 ครั้ง ถ้าคุณยิงเข้าไปมันจะกลายเป็นคนละเรื่องเลย เราไม่เด็ดขาดมากพอ พาเลซได้ 2 ประตูง่ายๆ เราสร้างโอกาสได้มากพอที่จะเป็นผู้ชนะ แต่เราเล่นเกมรับได้ไม่ดีพอ เราครองเกมเอาไว้ได้แต่ไม่ได้คุมเกม เราควรจะรับมือกับสถานการณ์ในช่วง 5 นาทีสุดท้ายได้ดีกว่านี้”
อย่างไรก็ตาม กุนซือชาวนอร์วีเจี้ยนก็ได้ออกมาปกป้อง เจสซี่ ลินการ์ดกองกลางแนวรุกของทีม หลังโดนวิจารณ์เรื่องฟอร์มการเล่นอย่างหนัก “เราต้องร่วมแรงร่วมใจกัน เจสซี่ ยิงประตูไม่ได้ในสามเกมที่ผ่านมา แต่เขาเป็นส่วนสำคัญของทีมและจะเป็นส่วนสำคัญแบบนี้ต่อไป ด้วยพลังงานที่เขาทำให้เรามีชีวิตชีวาและผมมั่นใจว่าเราจะได้เห็นอะไรดีๆ จากเขาแน่นอน ”
ปิดท้ายที่ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ในยุคของ แฟรงค์ แลมพาร์ด ปลดล็อกคว้าชัยเกมแรกได้แล้ว หลังบุกไปเอาชนะ นอริช ซิตี้ 3-2 ขณะที่ผลคู่อื่นมีดังนี้ แอสตัน วิลล่า 2-0 เอฟเวอร์ตัน,ไบรท์ตัพ 0-2 เซาแธมป์ตัน, เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 1-2 เลสเตอร์ ซิตี้, วัตฟอร์ด 1-3 เวสต์แฮม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี