ศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือกโซนเอเชีย รอบ 2 กลุ่มจี ทัพช้างศึก ทีมชาติไทย จะบุกไปเยือน ทัพดาวทองทีมชาติเวียดนาม ที่สนามมีดิงห์ สเตเดี้ยม เริ่มฟาดแข้งในเวลา 20.00 น. เป็นต้นไป ไทยรัฐทีวี ถ่ายทอดสด
โดยสถานการณ์ของทัพ “ช้างศึก” เวลานี้ ร่วงมาอยู่อันดับ 2 ของตารางหลังจากเกมที่แล้วบุกไปพ่าย มาเลเซีย 1-2 มีอยู่ 7 คะแนน จาก 4 นัด ที่ลงสนามขณะที่เวียดนาม เพิ่งเอาชนะ ยูเออี 1-0 ทำให้ขึ้นนำเป็นจ่าฝูงด้วยการมี 10 คะแนน จาก 4 นัด ซึ่งเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา อากิระนิชิโนะ กุนซือชาวญี่ปุ่น ของทีมชาติไทยได้เข้าร่วมแถลงความพร้อม ที่ห้องแถลงข่าว สหพันธ์ฟุตบอลเวียดนาม โดยยอมรับว่าเวลานี้ทัพ “ดาวทอง” นั้น เป็นทีมที่อันตรายเอามากๆ แต่ก็เชื่อว่า ไทยนั้นก็มีดีเช่นกันและพร้อมคว้าชัยในเกมนี้
“การเล่นเป็นทีมเยือน ต้องคอยใส่ใจสิ่งต่างๆ ให้มากๆ ไม่ว่าจะเป็นที่พัก อาหารการกิน หรือสนามซ้อม นี่เป็นส่วนหนึ่งที่ผมขอกับทีมงานของเรา ผมเข้าใจว่าเวียดนามก็มีการเตรียมสนามไว้ให้เราแต่ด้วยเงื่อนไขที่เราเรียกร้องไป ทำให้เราต้องเปลี่ยนมาใช้สนามที่เราหาแทน ตั้งแต่ผมติดตามฟุตบอลในโซนอาเซียน ก็ได้เห็นว่าเวียดนามมีพัฒนาการมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่ทีมชุดใหญ่ แต่เป็นทุกชุดนี่เป็นเรื่องที่น่ายกย่อง และจะช่วยกระตุ้นให้ฟุตบอลในอาเซียนมีพัฒนาการต่อไป ส่วนนักเตะไทยของเราก็มีศักยภาพที่สูงเช่นกัน และสามารถรีดศักยภาพออกมาได้อีกมาก”
“เกมนี้ไม่รู้ว่าสภาพอากาศจะส่งผลดีต่อเรายังไงบ้าง แต่ที่แน่นอนคือเราน่าจะคุ้นเคยกับพื้นหญ้ามากขึ้นกว่านัดที่แล้วที่เป็นหญ้าใบใหญ่ ถึงเวลานี้ข้อดีคือไม่มีใครที่มีอาการบาดเจ็บที่ส่งผลกระทบต่อการซ้อมหรือการลงสนาม รวมถึงนักเตะทุกคนก็ยังไม่เสียกำลังใจและมีความมุ่งมั่นที่จะสู้กับเวียดนาม เกมนี้สำคัญมาก เพราะว่าเป็นการพบกันเองที่มีแต้มไปกลับ 6 แต้ม จึงต้องตั้งเป้าที่คว้า 3 สามแต้มให้ได้ เพื่อกลับมาอยู่ในสถานการณ์ที่มีลุ้นอีกครั้ง”
ขณะเดียวกัน นิชิโนะ ก็ตัดสินใจเลือก ธีราทร บุญมาทัน แบ๊กซ้ายที่ติดโทษแบนในเกมที่แล้ว เข้ามาเสียบแทน กรกช วิริยอุดมศิริ แบ๊กซ้ายจากบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ซึ่ง ธีราทร จะกลับมาสวมเสื้อหมายเลข 3ขณะที่ เอเลียส ดอเลาะ จะสวมเสื้อหมายเลข 12 แทนที่ กรกช
ทั้งนี้ ธีราทร บุญมาทัน เป็น 1ใน 9 ขุนพล ชุดปัจจุบัน ที่เคยพา ทีมชาติไทยบุกมาชนะทีมชาติเวียดนาม 3-0 ที่สนามมีดิงห์ สเตเดี้ยม ในศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2558
สำหรับเกมนี้ ทีมชาติไทย จะยังมาในระบบ 4-2-3-1 โดย ผู้รักษาประตู จะเป็น ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ที่ยืนเฝ้าเสา ส่วนแนวรับเกมนี้แทบจะมีการยกเครื่องธีราทร จะกลับมาในตำแหน่งแบ๊กซ้ายส่วนคู่เซ็นเตอร์ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ จะได้ยืนคู่กับ มานูเอล ทอม เบียร์ห พร้อมให้นิติพงษ์ เสลานนท์ ลงเล่นในตำแหน่งแบ๊กขวา
แดนกลาง พิธิวัต สุขจิตธรรมกุล และ สารัช อยู่เย็น จะยืนเป็นห้องเครื่องพร้อมปล่อยให้ สุภโชค สารชาติ, เอกนิษฐ์ ปัญญา และ ชนาธิป สรงกระสินธ์ เป็น 3 ประสานในแนวรุก พร้อมปล่อยให้ ธีรศิลป์ แดงดา ยืนเป็นหัวหอกตัวเป้าลงล่าตาข่าย ซึ่งหาก ไทยบุกมาคว้า 3 แต้มได้ พวกเขาจะกลับขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงของตารางทันที ด้วยการมี 10 แต้มเท่ากับเวียดนาม แต่ประตูได้เสียดีกว่า
ทางฝั่งทัพ “ดาวทอง” ที่เวลานี้เป็นทีมเดียวในกลุ่มที่ยังไม่แพ้ใคร ที่สำคัญ ยังไร้ปัญหาจัดทัพ เกมนี้ ปาร์ค ฮัง ซอ กุนซือของทีมจะขนผู้เล่นแกนหลักลงสนามเต็มสูบ นำโดย ดอง วาน เฮา แนวรับจาก ฮีเรนวีน, เหงียน ควง ไฮ แนวรุกตัวเก่งจาก ฮานอย เอฟซี และ เหงียน คอง เฟือง กองหน้าจาก แซ็งต์ ทรุยดองส์
สำหรับสถิติการพบกันของทั้งสองทีมตลอด 26 นัดที่ผ่านมา ไทยเอาชนะไปได้17 นัด เสมอ 5 นัด และ เวียดนาม ชนะ 4 นัด โดยเกมล่าสุดที่เจอกันคือนัดแรกในรอบคัดเลือก ซึ่งทั้งคู่เสมอกันไป 0-0ซึ่งหากนับเฉพาะในรายการฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ทั้งคู่เคยพบกัน 4 นัดโดยทีมชาติไทย เป็นฝ่ายชนะ 2 เสมอ 1 และ แพ้ 1 นัด
ทั้งนี้ ทัพ “ช้างศึก” มีสถิติยอดเยี่ยม ในการบุกมาเยือนสังเวียน มีดิงห์สเตเดี้ยม ตลอด 4 เกมที่ผ่านมา เมื่อไม่เคยแพ้แม้แต่เกมเดียว โดยเป็นการ ชนะ 2 เสมอ 2 นัด อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่ ปาร์ค ฮัง ซอ เข้ามาคุมทัพ เวียดนาม ในการเจอกัน 4 เกม พวกเขาก็ไม่เคยแพ้ไทยเช่นกัน แบ่งเป็นเกมจาก ยู-23 2 นัด และชุดใหญ่อีก 2 นัด พร้อมกันนี้ เวียดนาม ก็ยังไม่แพ้ใครในบ้านถึง 16 นัดติดต่อกันเข้าไปแล้ว
อนึ่ง เกมนี้ทีมชาติไทยจะสวมชุดสีน้ำเงิน ลงแข่งขัน ขณะที่เวียดนามจะสวมชุดสีแดง โดยผู้ตัดสินเกมนี้ จะเป็นอะหมัด อบูบากัรซาอิด อัล กอฟ ผู้ตัดสินจากโอมาน ซึ่งเชิ้ตดำวัย 36 ปี รายนี้เป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตาของแฟนบอลชาวไทยหลังเพิ่งมีโอกาส ทำหน้าที่ในเกมที่“ช้างศึก” บุกมาเสมอ มาเลเซีย 0-0ในชิงแชมป์อาเซียน 2018 รอบรองชนะเลิศนัดแรก ขณะที่ ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 1, 2 และผู้ตัดสินที่ 4 มาจาก โอมาน เช่นกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี