“มะกะโรนี” ทีมชาติอิตาลี ระเบิดฟอร์มสุดหรูด้วยการเก็บชัยชนะรวดทั้ง 10 นัดของการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ครั้งที่ 16 หรือ ยูโร 2020 รอบคัดเลือกหลังจากลงสนามนัดสุดท้ายของกลุ่ม เจไล่ถล่ม อาร์เมเนีย กระจุย 9-1

ทีมของ โรแบร์โต้ มันชินี่ ลงเล่นรอบคัดเลือกหนนี้ ซัดไปถึง 37 ประตูผลัดกันยิงในรอบคัดเลือกนี้ได้ถึง 19 คน และเสียไปแค่ 4 ประตูเท่านั้น นับเป็นการคัมแบ๊กที่ยอดเยี่ยม หลังจากบอลโลก2018 พวกเขากระเด็นตกรอบคัดเลือกไปแบบช็อกแฟน

สำหรับสถิติของอิตาลี ในรอบคัดเลือก ประกอบด้วย ชนะ ฟินแลนด์ 2-0(เหย้า), ชนะ ลิกเตนสไตน์ 6-0(เหย้า), ชนะ กรีซ 3-0(เยือน), ชนะ บอสเนีย 2-1(เหย้า), ชนะ อาร์เมเนีย 3-1(เยือน), ชนะ ฟินแลนด์ 2-1(เยือน), ชนะ กรีซ2-0(เหย้า), ชนะ ลิกเตนสไตน์ 6-0(เยือน), ชนะ บอสเนีย 3-0(เยือน) และชนะ อาร์เมเนีย9-1(เหย้า)

โดยชัยชนะเหนือ อาร์เมเนีย คือชัยชนะที่ยิงได้มากที่สุดของประเทศ โดยการยิงได้ 9 ประตูหนแรกเกิดขึ้นเมื่อ2 สิงหาคม 1948 ในการถล่ม สหรัฐอเมริกา 9-0 ที่เบรนท์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษ

ทางด้าน “กระทิงดุ” สเปน ทำท่าว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง หลังจากพวกเขาลงเล่นเกมสุดท้ายไล่ต้อน โรมาเนีย 5-0 แต่ โรแบร์ต โมเรโน่ กุนซือไม่เข้ามาให้สัมภาษณ์หลังเกม พร้อมกับมีข่าวว่าเขาได้ขอบคุณอำลาลูกทีมด้วยน้ำตา

รายงานจาก เรดิโอ โคเป จากสเปน เปิดเผยก่อนเกมว่า หลุยส์ เอ็นริเก้ อดีตกุนซือของทีมกำลังจะกลับมารับงานอีกครั้ง หลังจากเขาลาออกไปเมื่อกลางปีที่ผ่านมา เพราะไปดูแลลูกสาวที่ป่วย ก่อนที่ซาน่า เอ็นริเก้ จะเสียชีวิตด้วยวัย 9 ขวบ เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

ทั้งนี้ หลุยส์ รูบิอาเลส ประธานสหพันธ์ฟุตบอลสเปน กับ โฆเซ่ ฟรานซิสโก้โมลีน่า ผู้อำนวยการกีฬาของสเปน จะแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในวันพุธนี้

สำหรับ โมเรโน่ เป็นผู้ช่วยของเอ็นริเก้ มายาวนาน และเขาได้รับการแต่งตั้งให้คุมทัพมาตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมาทำทีมเอาชนะไปได้ 4 เสมอ 2 โดยเขามีปรัชญาการทำทีมที่คล้ายกับ เอ็นริเก้ เนื่องจากเลือกนักเตะเข้ามาติดทีมแบบเหนือความคาดหมาย หากดูจากขุนพลล่าสุดที่ได้รับการประกาศชื่อมาติดทีมในเกมพบ มอลตา กับ โรมาเนีย ในเดือนนี้นั้น โมเรโน่ เรียก เซร์คิโอ รามอส, ดานี่การ์บาฆาล และ เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ เป็น 3 แข้งที่มาจาก มาดริด และ บาร์ซ่า ส่วนทีมชุดนี้ผู้เล่นจากสโมสรที่ติดมากสุดคือบียาร์เรอัล