วิทยาศาสตร์ สำหรับเยาวชน : สารอาหาร ต้านฝุ่นจิ๋ว PM2.5

วิทยาศาสตร์ สำหรับเยาวชน : สารอาหาร ต้านฝุ่นจิ๋ว PM2.5

วันอาทิตย์ ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2563, 06.00 น.

พิษฝุ่นจิ๋ว PM2.5 กำลังปกคลุมไปทั่วประเทศ เป็นฝุ่นที่มีขนาดเล็กมาก ซึ่งขนจมูกไม่สามารถกรองได้ ทำให้แทรกเข้าไปสู่ร่างกายถึงในระดับเซลล์ได้เลย จากหลอดลมไปหลอดเลือด เหนี่ยวนำให้เกิดอนุมูลอิสระ และภาวะการอักเสบขึ้นในร่างกาย ทั้งยังเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคภูมิแพ้ หอบหืด เรื้อรัง โรคเยื่อบุตาอักเสบ โรคมะเร็ง รวมทั้งโรคหัวใจและหลอดเลือด

วิธีการป้องกัน PM2.5 ก็คือ การอยู่ภายในอาคารบ้านเรือน บางสถานที่อาจมีเครื่องกรองอากาศเป็นตัวช่วย ถ้าจำเป็นต้องออกนอกบ้านไปในที่กลางแจ้งก็ควรใส่หน้ากากกรองฝุ่น เช่น N95 และสวมแว่นตา แต่งกายให้มิดชิด เพื่อลดการสัมผัสหรือได้รับฝุ่น PM2.5 และควรงดการออกกำลังกายหรือเล่นกีฬากลางแจ้งต่างๆ


นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลการศึกษาวิจัยพบว่าสารอาหารบางชนิด มีคุณสมบัติช่วยต้านความเป็นพิษของฝุ่นPM2.5 ได้

วิตามิน A และเบต้า-แคโรทีน พบมากในแครอท ตำลึง ผักบุ้ง ฟักทอง มันเทศ มันหวาน มะม่วง มะละกอ ฯลฯ มีส่วนช่วยให้ประสิทธิภาพการทำงานของปอดให้ดีขึ้น
ดังนั้น ช่วงนี้อาจจะรับประทานเมนูเหล่านี้บ่อยขึ้น เช่น แกงจืดตำลึง ผัดผักบุ้งไฟแดง ฟักทองผัดไข่ แครอทลวกจิ้มน้ำพริก และอาหารว่างอาจเป็นมะละกอ มะม่วง มันเทศ มันหวาน ที่อุดมไปด้วยวิตามิน A ก็จะช่วยส่งเสริมระบบทางเดินหายใจและระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย พร้อมต้านฤทธิ์พิษฝุ่นจิ๋ว

วิตามิน C และวิตามิน E พบมากในผลไม้และผักใบเขียวต่างๆ ช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระ และลดภาวะการอักเสบที่อาจเกิดจากฝุ่นจิ๋วนี้ได้ ดังนั้นช่วงนี้ต้องเน้นรับประทานพืชผักผลไม้ให้เพียงพอ วันละ 400 กรัม หรือประมาณ 5-7 กำมือ นอกจากนี้ ยังมีรายงานการศึกษาที่พบว่า การรับประทานวิตามิน C เสริมวันละ 500 มก. ก็ช่วยลดระดับอนุมูลอิสระในกลุ่มคนที่อยู่อาศัยในเขตที่มีมลพิษทางอากาศได้

โอเมก้า-3 พบมากในปลาต่างๆ มีการศึกษาวิจัยทางคลินิกในกลุ่มผู้ใหญ่และผู้สูงอายุที่อาศัยในแหล่งที่มีฝุ่น PM2.5 สูง พบว่าการได้รับน้ำมันปลา 2 กรัม/วัน ช่วยลดผลเสียต่อสุขภาพของฝุ่นจิ๋วนี้ได้ ดังนั้น การรับประทานปลาเป็นประจำทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นปลาทะเล หรือปลาน้ำจืด เช่น ปลาทู ปลาดุก ปลาสวาย ปลาช่อน ฯลฯ ก็อาจมีส่วนช่วยดูแลสุขภาพจากผลกระทบของฝุ่น PM 2.5 ได้เช่นกัน

ซัลโฟราเฟน (Sulforaphane) พบมากในบร็อคโคลีและผักตระกูลกะหล่ำต่างๆ มีคุณสมบัติโดดเด่น ช่วยในกระบวนการกำจัดสารพิษและต้านมะเร็งได้ มีรายงานการศึกษาวิจัยทางคลินิกทั้งในกลุ่มวัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่ พบว่าการได้รับสารซัลโฟราเฟนจากบร็อคโคลี อาจช่วยลดผลเสียต่อสุขภาพของเจ้าฝุ่นจิ๋วนี้ได้

แม้ว่าข้อมูลการศึกษาวิจัยเรื่องสารอาหารกับฝุ่นPM2.5 ยังมีไม่มากนัก แต่ก็มีข้อมูลการศึกษาวิจัยที่แสดงให้เห็นว่าสารอาหารต่างๆ ดังกล่าวข้างต้น มีส่วนช่วยในการส่งเสริมสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง โดยเฉพาะระบบทางเดินหายใจ ระบบภูมิคุ้มกัน และระบบการกำจัดสารพิษของร่างกาย นอกจากนี้ควรดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 8-10 แก้วนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ สวมแว่น ใส่หน้ากาก เมื่อออกภายนอกอาคารบ้านเรือนไปในที่กลางแจ้ง ก็จะช่วยเป็นเกราะกำบัง ช่วยป้องกัน หรือลดผลกระทบจากมลพิษร้ายของเจ้าฝุ่นละอองจิ๋ว PM2.5 นี้ได้

อ้างอิงและเรียบเรียง : https://www.exta.co.th/article/Health/277-5-%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A4%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B9%8C-%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%A9%E0%B8%9D%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%99-pm-2-5

กองประชาสัมพันธ์

สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top