คืนนี้ ลิเวอร์พูล เอฟซี จะกลับไปที่ว่านต๋า เมโทรโปลิตาโน่ อีกครั้ง หลังจากพวกเขามาเป็นแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก สมัยที่ 6 ที่นี่เมื่อกว่า 7 เดือนก่อน
แต่ครั้งนี้ "เยอร์เก้น คล็อปป์ ทีม" ต้องต่อกรกับเจ้าถิ่น "ตราหมี" แอตเลติโก มาดริด เจ้าถิ่นตัวจริงที่หลายคนยังประหวั่นพรั่นพรึงกับทีมของ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่
ซิเมโอเน่ ผู้จัดการทีมที่ได้รับค่าเหนื่อยมากที่สุดในโลกลูกหนัง นำทีมเข้ารอบเป็นอันดับ 2 สายดีซึ่งเขาเคยพาทีมเข้าชิงถ้วยนี้มาแล้ว 2 สมัย เมื่อซีซั่น 2014 กับ 2016 นับตั้งแต่ได้แชมป์บอลซูเปอร์คัพของสเปน เมื่อ 13 มกราคมที่ผ่านมา
ปรากฏว่าพวกเขาฟอร์มค่อนข้างฝืดมากๆ เพราะ 6 เกมต่อมา ชนะแค่นัดเดียว และแพ้ไปถึง 3 เกม รวมถึงตกรอบ 32 ทีม โคปา เดอ เรย์ เมื่อแพ้ เลโอเนซ่า ทีมจากเซกุนด้า เบ เนื่องจากปัญหาสำคัญคือนักเตะมีปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวน
ประเด็นสำคัญก็คือ แอตเลติโก มาดริด ชุดนี้ในปีนี้ถือว่า "สมองไหล" มากที่สุดอีกครั้ง
ก่อนหน้านี้ 1 ซีซั่นพวกเขาเสีย กาบี้ กัปตันทีมหัวใจสำคัญในแดนกลางออกไปจากทีม และดึง โรดรี้ จาก บียาร์เรอัล รวมถึง โตมาส์ เลอมาร์ เข้ามาเสริมทีม
แต่มาซีซั่นนี้ "ซิเมโอเน่ ทีม" มีความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ เพราะนักเตะหลายคน"ถึงเวลา"ที่จะต้องไป และทิ้งช่องโหว่เอาไว้อย่างมากมาย
แนวรับออกไปจากทีมพร้อมกันถึง 4 คน ซึ่ง 3 ใน 4 คือยุคยิ่งใหญ่เดิมที่ได้เข้าชิงยุโรปทั้ง ดีเอโก้ โกดิน, ฟิลิเป้ ลุยส์ และฆวนฟราน
รวมไปถึงดาวโรจน์ที่ไปครองแชมป์โลกอย่าง ลูกาส์ แอร์กน็องเดซ ที่ย้ายไป บาเยิร์น มิวนิค ด้วยราคาถึง 80 ล้านยูโร
สำคัญที่สุดก็คือ อองตวน กรีซมันน์ แกนรุกฝรั่งเศส ที่อยู่กับทีมมายาวนานที่ไปอยู่กับ บาร์เซโลน่า ด้วยราคากว่า 120 ล้านยูโร
รวมถึง เกลสัน มาร์ตินส์ ที่ไม่ประสบความสำเร็จ ไปอยู่ฝรั่งเศส
ทั้งหมดทุกจุดที่กล่าวถึง คือสิ่งที่ ซิเมโอเน่ พยายามอย่างหนักที่จะปกปิดรอยรั่วให้จงได้
มีการทุ่มซื้อนักบอลมากว่า 260 ล้านยูโร โดยเฉพาะการซื้อ ชูเอา เฟลิกซ์ ที่ราคาทะลุโลก พร้อมกับ มาร์กอส ยอเรนเต้ จากเรอัล มาดริด, เฟลิเป้ กับ เอคตอร์ เอร์ราร่า จากปอร์โต้, มาริโอ เอร์โมโซ่ จากเอสปันญ่อล
แบ๊กซ้าย-ขวา คีแรน ทริปเปียร์ มาจาก สเปอร์ส กับ เรนัน โลดี้ จากพาราเนนเซ่ พร้อมกับได้ ซิเม่ เวอร์ซัลจ์โก้ กลับมาจากการปล่อยให้ อินเตอร์ มิลาน ยืมตัว
แทคติคต่าง ๆ มีการปรับให้พยายามยืดหยุ่นอย่างที่สุด แต่ยังคงเกิดปัญหาต่อไป โดยเฉพาะเกมรุกที่ดูแล้วยุบ ๆ ลงไป โดยเฉพาะเมื่อมีอาการบาดเจ็บของ ดีเอโก้ คอสต้า ทำให้ความก๋ากั่นไม่มี
มันเป็นปัญหาจริง ๆ ไม่อย่างนั้น คงจะไม่ดึง ยานนิค การ์ราซโซ่ ปีกเกียร์เดียวกลับมาจากเมืองจีน
ข้อสำคัญก็คือ แทคติคปัจจุบันของ ซิเมโอเน่ คือเหมือนเดิมทุกอย่าง นายประตูเหนียวหนึบอย่าง แยน โอบลัค ที่น่าสนใจก็คือ แม้แผงหลังจะหายไปถึง 4 คน แต่ที่เหลือยังคง"เข้าถึง"แผนของ ซิเมโอเน่
แกเป็นคนสะสมกองหลัง เพราะถึงตอนนี้ ทริปเปียร์ กับ โฆเซ่ จิเมเนซ จะเจ็บอยู่ ที่มีอยู่ตอนนี้ยืนกันได้น่าสนใจ เสียประตูยากเหมือนเดิม
ปัจจุบันแบ๊กโฟร์ คือ ซานติอาโก้ อาเรียส เป็นแบ๊กขวา, เรนัน โลดี้ เป็นแบ๊กซ้าย ส่วนคู่เซ็นเตอร์คือ สเตฟาน ซาวิซ อดีตเด็กแมนฯซิตี้ กับ เอร์โมโซ่ หรือ เฟลิเป้
ขณะที่แดนกลาง เหตุที่ ซิเมโอเน่ มาเล่นในระบบ 4-4-2 ไดมอนด์ อันเนื่องมาจากตั้งแต่ 2 ซีซั่นก่อน ที่ปีกของทีมฟอร์มรูดมหาราชกันทั้งหมด อาทิ ยานนิค การ์ราซโซ่, นิโกลาส ไกตัน และอังเคล คอร์เรอา ทำให้ทีมลองปรับมาเล่น และดูเหมือนว่า จะลงตัวกว่าในระบบนี้
ยิ่งในปัจจุบัน 4-4-2 ไดมอนด์ คุณภาพของทีมอาจจะไม่เท่ากับ 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะความเคี่ยวกรำในเกมกลาง โธมัส ปาร์เตย์ คือปอดเหล็ก, โกเก้ กับ ซาอูล ญีเกซ เป็นเด็กเทคนิคผมหยิกตาคม ชั้นเชิงเหลือรับประทาน โดยมี มาร์กอส ยอเรนเต้ คอยสอดแทรก หรือบางทีก็ได้เล่นร่วมกันไปเลย
ขณะที่การปรับเอา บิโตโล่ มาเล่นในตำแหน่งเดิมที่เคยโดดเด่นกับ เซบีญ่า ทำให้เขาได้รับเลือกเล่นบ่อบยครั้ง กับ คอร์เรอา โดยมี อัลบาโร่ โมราต้า เป็นเป้าหลัก ทำให้ 4-4-2 ของ ซิเมโอเน่ ดูเจ้าเล่ห์มาก ๆ
เพราะมันเป็น 4-3-3 ที่แฝงอยู่ในนั้น แต่ขยับเคลื่อนแบบทั้งระบบ และประกบยาก
แต่ด้วยการเคลื่อนตัวกันเยอะแบบนี้ ทำให้แดนหน้าค่อนข้างที่จะโดดเดี่ยว ทีมยังสลัดคราบความมหัศจรรย์ของ กรีซมันน์ ไม่ได้
ดังนั้นขอยืนยันว่า "ตราหมี" ทีมนี้ ไม่เหมือนเดิมตรงที่ความเฉียบขาด แต่ทั้งระบบทั้งหมดทั้งมวล
ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง
เล่นด้วยยาก, อึดตึกนรก, ตื๊อจนน่ารำคาญ และเหนียวหนึบในสไตล์ของ "เอล โชโล่"
สนุกแน่นอนครับ บอลบุกอย่างมีสไตล์ของหงส์ กับบอลรับอย่างมีระบบของหมี
บีแหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี