การเทคโอเวอร์ของ “สาลิกาดง”นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ยังคงเป็นเรื่องราวที่“รอคำตอบ” กันอย่างจริงจังและเพื่อความชัดเจนอยู่ต่อเนื่อง
ข่าวสลับรายวันว่า “เซ็นแล้ว” หรือจะต้อง “รอก่อน” หนักเลยก็คือ คาดว่าอย่างน้อยต้องรอไปอีกประมาณ 3-4 สัปดาห์ กว่าจะมีการเปลี่ยนมือจาก ไมค์ แอชลี่ย์ ไปเป็นกลุ่มทุนจากซาอุดีอาระเบีย
ด้วยสัญญาการซื้อสโมสรมีมูลค่ารวม 300 ล้านปอนด์ หรือกว่า 12,000 ล้านบาท
ไมค์ แอชลี่ย์ เจ้าของสโมสรนิวคาสเซิ่ล ชาวอังกฤษ ต้องการขายทีมเนื่องจากประสบปัญหาในธุรกิจการค้าอย่างหนักในช่วงก่อนหน้านี้ และโดนผลกระทบรุนแรงตลอด 3 เดือนที่ผ่านมาเมื่อไม่มีฟุตบอลเตะ และไม่สามารถเปิดร้านค้าสปอร์ต ไดเรคท์ ที่จำหน่ายอุปกรณ์กีฬาได้เลย
ร้านก็เยอะมากตามกลไกตามธุรกิจที่เขาวางเอาไว้ก่อนหน้านี้พอประสบปัญหายังไม่ทันคืนทุนก็เกิดปัญหา
ดีลครั้งนี้ อแมนด้า สเตฟลี่ย์นักธุรกิจหญิงวัย 47 ปี ตัวแทนจากกลุ่มทุนของซาอุดีอาระเบีย ถูกฉาบให้เป็น “เศรษฐินี” แบบเต็มรูปแบบ เป็นผู้ถือเงินมาเทคโอเวอร์ แน่นอนที่สุด เธอมาในนักบริหารจาก “พับลิค อินเวสท์เมนท์ฟันด์” กลุ่มทุนของ ซาอุดีอาระเบียมาซื้อทีม กลุ่มนี้จะถือหุ้น 80 เปอร์เซ็นต์ และ “รอยเบน บราเธอร์ส” ที่จะถือหุ้นอีก 20 เปอร์เซ็นต์
พอข่าวนี้เริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ชื่อของ โมฮัมหมัด บิน ซัลมานมกุฎราชกุมารแห่งประเทศซาอุดีอาระเบียที่อยู่เบื้องหลังการเทคโอเวอร์ ถูกเปิดเผยข่าวคราวแง่มุมต่างๆ ต่อเนื่อง
น่าสนใจประเด็นของ “การเมือง”ที่ถูกยกมาใส่ใน “การบอล” โดยนำร่องด้วยเรื่องของการละเมิดลิขสิทธิ์เป็นที่ตั้ง
เอาเข้าจริง การเทคโอเวอร์ “สาลิกาดง” ไม่ใช่เรื่องง่ายอยู่แล้ว นอกจากต้องเดาใจ “ไมค์ แอชลี่ย์” และต้องผ่านการรับรอง 29 ข้อ ในการเป็นเจ้าของสโมสรแล้ว
2 เรื่อง นั่นคือ แอชลี่ย์ กับการตรวจคุณสมบัตินี้อาจจะเป็นเรื่องเล็กไปเลย เมื่อเทียบกับเรื่องความรุงรังระหว่างประเทศซาอุดีอาระเบีย กับกาตาร์!!!!
เหตุเพราะผู้บริหาร บีอิน สปอร์ตสัญชาติกาตาร์ ผู้ถือลิขสิทธิ์ใหญ่ของบอลอังกฤษ ได้ส่งจดหมายถึงทีมพรีเมียร์ลีก ว่า หากไม่ดูเป็นการรบกวน ก็ให้ร่วมคัดค้านการเทคโอเวอร์ นิวคาสเซิ่ล ที่มาจากเม็ดเงินซาอุดีอาระเบีย
เนื่องจากที่ซาอุฯ มีสตรีมมิ่งเถื่อนลักลอบถ่ายทอดสดพรีเมียร์ลีก ทำให้ทุกทีมเสียรายได้!!!!
โดยใช้ชื่อว่า beoutQ ล้อไปกับเจ้าของลิขสิทธิ์ตัวจริงคือ beIN Sport!!!!
l ร่อนจดหมายร้องสโมสรสมาชิกเบรกเจรจา
จากเดิมในการเทคโอเวอร์ที่มีตัวละครเดินเพ่นพ่านเต็มหน้าจอมอนิเตอร์ ...อแมนด้า สเตฟลี่ย์, ไมค์ แอชลี่ย์, ชีค มันซูร์ บิน ซาเยด อัล นาห์ยาน, ชีค คาเล็ด บิน ซาเยด อัล เนฮายาน, โมฮัมหมัด บิน ซัลมาน และ ไฟซาลบิน ฟาฮัด อับดุลลาห์ อัล ซาอุด...
ตอนนี้เพิ่มมา คือ beINยังไม่พอ ยังมี BeOut มาด้วย!!!
ตัวละครลับโผล่มาคือ ยุเซฟ อัล-โอเบียดลี่ ซึ่งเป็นมือขวาสามัคคีของ นาสเซอร์ บิน กานิม อัล-คาไลฟี่ เจ้าของกาตาร์ สปอร์ตส์ อินเวสต์เมนต์ส(QSi) ที่มีธุรกิจมากมาย หนึ่งในนั้นเป็นเจ้าของช่องกีฬาดัง beIN sports แห่งประเทศกาตาร์
อัล-โอเบียดลี่ คือ ซีอีโอของ beIN ร่อนจดหมายถึงประธานของสโมสรพรีเมียร์ลีกทั้งหมด และริชาร์ด มาสเตอร์ ซีอีโอของพรีเมียร์ลีก เพื่อให้มาร่วมโฟกัสการซื้อสโมสร “เดอะ แม็คไพส์” ในเรื่องของการ “ขโมยลิขสิทธิ์” การถ่ายทอดสดพรีเมียร์ลีก ตลอด3 ปีที่ผ่านมา ทำให้รายได้เชิงพาณิชย์ของแต่ละทีมลดลง
โดยใช้คำว่า “Pirate Service” เลยทีเดียว!!!
“มันไม่ใช่เรื่องที่พูดเกินความจริง เพราะรูปแบบทางเศรษฐกิจแบบนี้ จะทำให้อนาคตของฟุตบอลตกอยู่ในอันตราย ซึ่งในตอนนี้ผลกระทบทางเศรษฐกิจทั่วโลกที่เกิดจากโคโรนาไวรัส ถือว่าหนักมาก มีผลกระทบกระเทือนต่ออุตสาหกรรมกีฬาทั้งหมด ดังนั้นสโมสรฟุตบอลยิ่งจำเป็นที่จะต้องปกป้องรายได้ของตัวเองในทุกๆ ทาง โดยเฉพาะการถ่ายทอดสด”
ซึ่งการตั้งคำถามครั้งนี้จาก beIN ก็คือ เงินที่มาลงทุนครั้งนี้ มีการจัดหาและนำมาจากไหนกันแน่ พร้อมกับการเรียกร้องจากนักรณรงค์ด้านสิทธิมนุษชน (Amnesty International) ให้มาตอบคำถามเรื่องนี้ด้วย
ประเด็นก็คือ แอมนาสตี้ คือ องค์กรพัฒนาเอกชนที่มุ่งเน้นเรื่องสิทธิมนุษยชน ได้ทำการวิพากษ์วิจารณ์บันทึกสิทธิมนุษยชนของซาอุฯ มาเป็นเวลานาน เกี่ยวกับสิทธิต่างๆโดยเฉพาะสตรี
l รู้จัก “beoutQ” ผู้ถ่ายทอดสดถิ่นซาอุฯ
beoutQ เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อสิงหาคม 2017 ในซาอุดีอาระเบีย มีการถ่ายทอดสดกีฬาต่างๆ มากมาย จนเป็นที่แพร่หลายในประเทศ อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการเปิดรับสมาชิก แต่ไม่มีใครบอกได้เลยว่า ใครกันแน่ที่เป็นเจ้าของ แต่เกิดขึ้นภายหลังจากการเกิดวิกฤติความขัดแย้งระหว่างชาติอาหรับ
มูลค่าการนำเสนอคอนเทนท์ต่างๆ ของ beoutQ มีมูลค่านับพันล้านเหรียญสหรัฐ โดยให้บริการผ่านทาง 10 ช่องสัญญาณ ที่จะต้องเข้ารหัส และผ่านทางแอพลิเคชั่น IPTVที่มีทั้งแบบเนื้อหา และถ่ายทอดสดสตรีมมิ่งแต่ถือว่าเป็นการดำเนินงานแบบละเมิดลิขสิทธิ์ ทั้งกีฬา, ภาพยนตร์และรายการถ่ายทอดสดต่างๆ มากมาย
ซึ่งในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ครั้งที่ผ่านมา สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือฟีฟ่า ได้ตรวจพบการละเมิดลิขสิทธิ์นี้ ด้วยการลักลอบถ่ายทอดสด และได้ตั้งทนายเพื่อดำเนินคดีความในซาอุฯ นอกจากนี้ยังมีการถ่ายทอดสดแบบผิดกฎมากมายนอกจากฟุตบอลโลก กับ พรีเมียร์ลีกแล้ว ยังมีทั้ง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก,ลา ลีกา, ฟอร์มูล่า วัน, เทนนิส
พูดกันง่ายๆ ก็คือ โลโก้ที่ทุกคนเห็นกันทั่วโลกว่า ถ่ายทอดสดผ่านช่อง beIN sport จะกลายเป็น beoutQในซาอุดีอาระเบีย!!!!
l จาก “การเมือง” แล้วมาเรื่องของ “การบอล”
ประเด็นที่สัมผัสกันได้ตอนนี้ก็คือ เมื่อ กาตาร์ คือผู้ถือลิขสิทธิ์สำคัญของพรีเมียร์ลีก กำลัง “หาช่องทาง” เพื่อชนกับซาอุดีอาระเบีย
เคสนี้ของ นิวคาสเซิ่ล จึงกลายเป็น“ความบังเอิญแบบพอดี”
หาเป็นเงินทุนชุดแรกเมื่อปีก่อนจาก สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อาจจะไม่แรงเท่านี้ แต่เมื่อเป็นแบบนี้คงจะต้องซัดกันอีกเพลงยาว หลังจากเหตุที่ระอุมายาวนานกระทั่งต้นเดือนมิถุนายน 2017
6 ชาติอาหรับ ได้แก่ ซาอุดี-อาระเบีย, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, บาห์เรน, อียิปต์, ลิเบีย และเยเมน กับอีก 2 ชาติ คือ มัลดีฟส์ และมอริเชียส ประกาศตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับกาตาร์
เหตุผลก็คือ ด้วยการกล่าวหาว่า กาตาร์ เป็นประเทศที่ทำลายเสถียรภาพในภูมิภาค ด้วยการสนับสนุนกลุ่มก่อการร้าย ที่เรียกตัวเองว่ารัฐอิสลาม หรือไอเอส ซึ่งข้อกล่าวหาของซาอุดีอาระเบียนี้ละม้ายกับโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เคยประณามอิหร่าน ว่าให้การสนับสนุนการก่อการร้ายในซีเรียและเยเมน
อีกทั้งท่าทีที่ดีต่อกันผิดสังเกตกับ อิหร่าน ที่ค้านกับชาติอาหรับ,กาตาร์ ยังใช้สื่อผิดประเภท, การเข้าไปแทรกแซงภายในของหัวเมืองต่างๆและกาตาร์ยังถูกกล่าวหาว่าสนับสนุนกลุ่มกบฏฮูธีในเยเมน
แม้จะไม่มีการสู้รบหรือเข่นฆ่ากัน แต่การคว่ำบาตรทุกด้าน ทั้งทางการทูต,เศรษฐกิจ, การค้า, ระบบขนส่ง, การบิน,เครื่องอุปโภค-บริโภค ส่งผลกระทบ ร้ายแรงเป็นวงกว้าง
การล่าช้าในการจัดก่อสร้างสนามบอลโลก ก็ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่เห็นภาพชัดในโลกของฟุตบอล
เช่นเดียวกันกับในฟุตบอลเอเชี่ยนคัพ เมื่อปีก่อน ที่ประเทศสหรัฐ-อาหรับเอมิเรตส์
เจ้าภาพออกกฎก็คือ สั่งห้ามไม่ให้มีการ “เชียร์กาตาร์” และไม่อนุญาตให้ชาวกาตาร์ข้ามพรมแดนเข้ามาดูบอล ยกเว้นคนที่อยู่ที่นี่ตั้งแต่แรก รวมไปถึงกองเชียร์ทีมอื่นที่อาจให้กำลังใจได้ แต่...
แต่มีกฎอยู่ข้อหนึ่งก็คือ ถ้าแสดงออกมากเกินไป อยู่ที่ดุลพินิจจะถูกปรับเงิน 500,000 ดอลลาร์UAE หรือกว่า 4 ล้านบาท และจำคุกสูงสุด 15 ปี ตามกฎหมายยูเออี!!!
...ยืนยันว่า แก้วใบนี้มันไม่ได้ร้าว แต่มันแตกละเอียดไปแล้ว เมื่อโครงการ “ซัลวาโปรเจกท์” ที่มีแนวคิดเมื่อ 2 ปีก่อน กำลังจะเริ่มต้นการสร้างแล้ว
ดินแดนซัลวา เป็นพรมแดนที่ติดต่อทางบกระหว่าง ซาอุฯ กับกาตาร์ ดังนั้น โครงการขุดคลองจะส่งผลทำให้ทั้งสองประเทศไม่มีพรมแดนทางบกติดต่อกันอีกต่อไป
พร้อมกับประวัติศาสตร์โลกใหม่ ด้วยการจะเปลี่ยนกาตาร์ให้เป็นประเทศเกาะกลางทะเล
โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากกลุ่มบริษัทเอกชนของซาอุฯ กับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ถือเป็นหนึ่งวิธีการแซงก์ชั่นความสัมพันธ์ทางการทูตกับรัฐบาลโดฮาแบบ 100%
คาดว่าจะใช้งบประมาณการลงทุนราว 2,800 ล้านริยาล หรือ 750 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
“politicising sport” เป็นนัยที่ซับซ้อนอย่างแท้จริง
มาถึงตรงนี้ แฟนบอลนิวคาสเซิ่ล คงคิดอยู่เหมือนกันว่า ทำไมมันช่างยากเย็นแสนเข็ญขนาดนี้ กับการที่ทีมจะมีเจ้าของใหม่ ครั้งแรกในรอบ 13 ปี
ไม่มีใครคิดว่าจะมีเหตุการณ์นี้ และดูเหมือนว่า จะบานปลายเมื่อลงลึกในรายละเอียด
แต่โลกเราก็บางทีอะไรที่ดูเหมือนจะยาก มันอาจจะจบง่าย อะไรที่ง่ายบางทีมันก็ไปแบบกู่ไม่กลับเหมือนกัน เพราะอุตส่าห์ทนกันมาถึงขั้นนี้แล้ว
ยังไงก็อย่าเพิ่งไปท้อใจ...ว่าทำไมมันยากจัง!!!
บี แหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี