ลีโอเนล เมสซี่ ขอยกเลิกสัญญากับ บาร์เซโลน่า ทันทีแม้จะเหลือสัญญา 1 ปีก็ตาม และยืนยันจะไม่เข้าร่วมสังฆกรรมกับทีมอีกต่อไป แม้จะมีกำหนดฝึกซ้อมสุดสัปดาห์นี้ก็ตาม

เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา เมื่อ เมสซี่ยืนยันการขอยกเลิกสัญญาด้วยการส่งแฟกซ์มายังสโมสร เป็นที่คาดการณ์ว่า หนึ่งในสาเหตุการย้ายเบื้องต้นน่าจะมาจากการที่ โรนัลด์ คูมัน เฮดโค้ชคนใหม่ของบาร์เซโลน่า ได้โทรศัพท์ไปแจ้งเมสซี่ ว่า จะไม่ได้รับสิทธิพิเศษภายในสโมสรอีกต่อไป และสโมสรกำลังจะเปลี่ยนวิธีทำใหม่ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวนี้เกิดขึ้น 1 วัน หลังจากที่ หลุยส์ ซัวเรซ ถูกประกาศปล่อยตัวทั้งที่มีสัญญา 1 ปีเช่นกัน

เมสซี่ มีเงื่อนไขในสัญญา ที่ระบุว่า “ขอย้ายทีม”ได้หลังจบแต่ละฤดูกาล แต่เงื่อนไขคือ “ภายในวันที่ 10 มิถุนายน” ของแต่ละปีเท่านั้น โดยเสมอนั้นไม่คิดที่จะขายออกไปจากทีม หลังจาก เมสซี่ ลงเล่นให้ บาร์เซโลน่าไปแล้ว 731 นัด ทำได้ 634 ประตู คว้าแชมป์มาได้ถึง33 รายการ

ภายหลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว แฟนบอลบาร์ซ่าได้ออกมาประท้วงสโมสร พร้อมกับเรียกร้องให้ โจเซป มาเรียบาร์โตเมว ประธานสโมสร ซึ่งหลายคนมองว่า เป็นตัวปัญหาทั้งหมด ลาออกจากตำแหน่งประธานเดี๋ยวนี้

l ‘แมนฯซิตี้’ เต็งหามคว้าไปร่วมทัพซีซั่นหน้า

“เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขยับขึ้นรั้งเต็ง 1ที่จะดึงตัว เมสซี่ ไปร่วมทัพในซีซั่นหน้า หลังจากเป๊ป กวาร์ดิโอล่า มุ่งมั่นตั้งใจที่จะครองเจ้ายุโรปให้ได้ และ เมสซี่ ก็ต้องการถ้วยนี้เช่นหัน หลังจากมีปัญหาทุกครั้งหลังจากตกรอบฟุตบอลยุโรป โดยเฉพาะ 3 หนหลังที่แพ้แบบกระชากวิญญาณทั้งกับ โรม่า, ลิเวอร์พูล และบาเยิร์นฯ

ขณะนี้ แมนฯซิตี้ เป็นเต็ง 1 ในอัตรา 6-4 ที่จะได้ตัวจอมทัพอาร์เจนไตน์ไปครอง ตามมาด้วย “งูใหญ่” อินเตอร์ มิลาน แห่งอิตาลี และปารีส แซงต์-แชร์กแมง รองแชมป์ยุโรป ทีมล่าสุดจากฝรั่งเศส ในอัตราเท่ากันที่ 3-1, เต็ง 4 คือ “ม้าลาย” ยูเวนตุส จากอิตาลี ที่มี คริสติอาโน่ โรนัลโด้ อยู่ในทีม อัตรา  4-1, เต็ง 5 “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 13-2, เต็ง 6 ทีมในเมเจอร์ลีก สหรัฐอเมริกา 12-1,เต็ง 7 “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล แชมป์พรีเมียร์ลีกทีมล่าสุดอัตรา 14-1 นอกจากนี้ ยังมีตัวเต็งเป็นทีมในอาร์เจนตินานีเวลส์ โอลด์บอยส์ ทีมเก่าของ เมสซี่ 20-1 รวมไปถึง ลีดส์ ยูไนเต็ด น้องใหม่พรีเมียร์ลีก ก็มีอัตราน่าตกใจอยู่ที่ 25-1 ขณะที่แชมป์ยุโรปทีมล่าสุด “เสือใต้” บาเยิร์นฯ อัตรา 35-1 ส่วนอัตราไปอยู่กับ เรอัล มาดริด คู่ปรับตลอดกาลอยู่ที่ 150-1

ก่อนหน้านี้ บาร์ซ่า ได้ประกาศมาโดยตลอดว่า เมสซี่ คือนักเตะที่ไม่ได้มีไว้ขาย แต่ทุกทีมต่างๆ ในโลก ก็อยากที่จะคว้าตัว เมสซี่ มาร่วมทัพให้ได้เช่นเดียวกัน แต่ทีมที่ต้องการได้ตัวเขาไปร่วมทีม จะต้องจ่ายเงินก้อนโตถึง 700 ล้านยูโร หรือเกือบ 30,000 ล้านบาทเลยทีเดียว

l ใกล้ปิดตำนาน ‘ฉีดยา’ เพื่ออนาคต

ลีโอเนล เมสซี่ ซูเปอร์สตาร์ตัวเอ้ของ บาร์เซโลน่า ประกาศอำลาสโมสรที่เป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของเขา

16 ปี ที่ผ่านมาในฐานะนักบอลอาชีพ เมสซี่ ในวัย 33 ปี ลงเล่นให้ บาร์เซโลน่า ไปแล้ว 731 นัด ทำได้ 634 ประตู และคว้าแชมป์ร่วมกับทีมไปแล้วถึง 33 ถ้วย

ที่ผ่านมา เมสซี่ กับ บาร์ซ่าเหมือนเกิดมาพึ่งกัน...เกิดมาเพื่อ“กันและกัน”

เมสซี่ เป็นบุตรของพ่อที่ทำงานในโรงเหล็ก ขณะที่แม่ทำงานในโรงผลิตแม่เหล็ก ในโรซาริโอประเทศอาร์เจนตินา และถูกตรวจพบว่า“ร่างกายผิดปกติ” ไม่เหมาะกับการเล่นฟุตบอลในทุกประการ

เขายิงไปถึง 500 ลูก ในการเล่นฟุตบอลวัยเด็ก กับ นีเวลส์ โอลด์บอยช่วงอายุ 7-10 ปี แต่ระหว่างนั้น เขาถูกแพทย์วินิจฉัยว่า “คุณขาดฮอร์โมน” และจะไม่มีทาง “เจริญเติบโต” ได้เหมือนกับคนทั่วไป!!!!

เมสซี่ ต้องฉีดฮอร์โมนกระตุ้นการเจริญเติบโตของร่างกายตั้งแต่อายุ 8 ขวบ

โรคดังกล่าวสะเทือนครอบครัวของ เมสซี่ อย่างมาก เพราะต้องมีค่าใช้จ่ายเดือนละ 30,000 บาท กับโรคที่จะเกิดขึ้น กับคน 1 คน ในเกือบๆ 30 ล้านคนเท่านั้น

บวกกับวิกฤติเศรษฐกิจในอาร์เจนตินา ที่เอียงไปเอนมาทำให้ นิเวลส์ โอลด์บอยส์ ก็ไม่สามารถช่วยค่ารักษานี้ได้ทำให้หนทางต่างๆ คิดค้นกันมา หนึ่งในนั้นคือ ส่งเทปการเล่นไปยังสโมสรต่างๆ พร้อมกับเงื่อนไขสำคัญก็คือ คุณจะต้องรักษาเด็กคนนี้

เทปการเล่นได้ไปอยู่ที่แคว้นคาตาลุนญ่า เมื่อปี 2000 ในที่สุด เมสซี่ ก็ได้เข้ามาทดสอบฝีเท้าที่บาร์เซโลน่าด้วยวัย 14 ปี

ในตอนนั้นทุกคนคิดว่า เมสซี่ เป็นใบ้ด้วยซ้ำ เขาไม่พูดไม่จากับใคร เพราะต้องปรับตัวและต้องต่อสู้กับชะตาชีวิตของตัวเองที่ไม่มีใครรู้ การมาที่นี่ไม่ใช่แค่มาเป็นนักฟุตบอลอาชีพ แต่เป็นการ “เดิมพันชีวิต”

“พ่อแม่ของผม ฉีดยาให้ผมตั้งแต่ผมอายุ 8 ขวบผมมองเขาอยู่ตลอดเวลา จนผมสามารถเรียนรู้วิธีฉีดได้ด้วยตัวเอง ยาฉีดไม่ได้ใหญ่อะไรมากมายอย่างที่หลายคนคิดกันมันคือฮอร์โมนที่มากระตุ้นร่างกายของผม เพราะการที่ผมมีปัญหานี้ แต่ผมยืนยันว่า ผมไม่เคยชอบมันเลย ไม่เคยชอบจริงๆ”

“หลังจากผมเรียนรู้จากพ่อกับแม่ จากนั้นอีก 4 ปีต่อมา ผมเริ่มฉีดมันด้วยตัวของผมเอง ตอนนั้นผมอายุ 12 ปีผมฉีดมันทุกวันในเวลากลางคืน ซึ่งผมก็ย้ำอีกครั้งว่า นอกจากผมไม่ชอบการฉีดยาแล้ว ผมยิ่งไม่ชอบการฉีดยาด้วยตัวเอง แต่ผมจะต้องทำ”

ในที่สุด เมสซี่ ก็เซ็นสัญญาอาชีพ และเขาตอบแทนให้กับบาร์เซโลน่าคุ้มค่ากับทุก “เข็ม” และทุก “เงินตรา”ที่ทีมมอบให้เขา

วันนี้ เมสซี่ ประกาศเจตนารมณ์ว่าจำเป็นต้องขอออกไปจากทีม เชื่อว่าเขาก็เจ็บปวดไม่แพ้ตอนที่เขาฉีดยาลงไปที่ตัวเอง

“ผมชิน ผมฉีดมันจนไม่เจ็บแล้ว เพราะผมรู้วิธี”เมสซี่ บอกเคล็ดลับการเรียนรู้เรื่องการฉีดยา

แต่นาทีนี้ ต่อให้เขาไม่ฉีด เขาก็เจ็บปวดยิ่งกว่าฉีดยาเป็นร้อยๆ เป็นพันๆ เข็ม ที่ปักเข้าที่อกข้างซ้ายของเขาเอง...

บี แหลมสิงห์