เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำวันอาทิตย์ที่ 13กันยายน ถือว่าน่าสนใจเมื่อการปะทะฝีมือกันของสองยอดกุนซือ “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ของ โชเซ่ มูรินโญ่ จะเปิดบ้านรับการมาเยือนของ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน ที่มี คาร์โลอันเชล็อตติ คุมทัพ
สเปอร์ส รอเช็คความฟิตของ โจวานี่โล เซลโซ่ มิดฟิลด์เลือดอาร์เจนไตน์ ทำให้โอกาสน่าจะตกเป็นของ ปีแอร์ เอมิล ฮอยเบียร์ ส่วนตำแหน่งอื่นๆ ไม่มีปัญหาอะไร เชื่อว่าแข้งตัวใหม่อย่าง แมตต์ โดเฮอร์ตี้ จะได้ประจำการตำแหน่งแบ๊กขวาส่วนแดนกลาง แฮร์รี่ วิงค์ ยืนคู่กับ ฮอยเบิร์ก แนวรุก มีซน ฮึง มิน ประสานงานกับ เดเล่ อัลลี และลูคัสมูร่า โดยมีแฮร์รี่ เคน ยืนเป็นหัวหอกตัวเป้า
ทางฝั่งทีมเยือน เอฟเวอร์ตันที่เสริมทัพได้น่าสนใจได้ อัลลัน, ฮาเมส โรดริเกซ และอับดูลาย ดูคูเร่ เข้ามา สภาพทีมยังไม่มี เชงค์ โตซุน, ฌอง-ฟิลิปป์ ฌบาแม็ง, ฟาเบี่ยน เดลฟ์ และ เมสัน โฮลเกตนอกนั้นถือว่าลงได้หมด เชื่อว่าแข้งใหม่ทั้งสามคนน่าจะได้ประเดิมสนามในเกมนี้ทันที โดยจะประสานงานกับแกนหลักอย่าง อันเดร โกเมส, ริชาร์ลิซอน และโดมินิค คัลเวิร์ท-เลวิ่น
11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามของทั้งสองทีม สเปอร์ส : ฮูโก้ ญอริส, แมตต์ โดเฮอร์ตี้, โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์, เอริค ดายเออร์, เบน เดวิส, ปีแอร์ เอมิล ฮอยเบียร์, แฮรี่ วิงค์ส, ซน ฮึง มิน, เดเล่ อัลลี, ลูคัส มูร่า และแฮร์รี่ เคน
เอฟเวอร์ตัน : จอร์แดน พีคฟอร์ด, เซมุส โคลแมน, ไมเคิ่ล คีน, เยอร์รี่ มิน่า, ลูก้าส์ ดีญ,อับดูลาย ดูคูเร่, อัลลัน, อันเดร โกเมส, ฮาเมส โรดริเกซ, โดมินิค คัลเวิร์ท-เลวิ่น และริชาร์ลิซอน
สำหรับสถิติผลงานการเจอกันของทั้งสองทีม คู่นี้ฟาดกันมาอย่างยาวนานในประวัติศาสตร์ของวงการฟุตบอลอังกฤษ สเปอร์ส เหนือกว่าชนะได้ 68 ครั้ง ในทุกรายการ เสมอ 55 ส่วนเอฟเวอร์ตันชนะ 54 ครั้ง ขณะที่เจอพบกันเมื่อซีซั่นที่แล้วเกมแรกเสมอที่กูดิสัน พาร์ค 1-1 ส่วนเกมที่สอง สเปอร์ส เปิดบ้านเอาชนะไปได้ 1-0 ไมเคิ่ล คีนทำเข้าประตูตัวเอง
อีกคู่ “เดอะ แบ๊กกี้ส์” เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยนทีมน้องใหม่แต่หน้าเก่า ที่เลื่อนชั้นกลับมาเล่นในลีกสูงสุดอีกครั้ง พบกับ “จิ้งจอกสีน้ำเงิน” เลสเตอร์ ซิตี้ที่ได้อันดับ 5 เมื่อปีที่แล้ว
เจ้าถิ่นคุมทัพโดย สลาเวน บิลิช กุนซือร็อกสตาร์สภาพทีมลุ้นเช็คความฟิตของ คอนอร์ ทาวน์เซ่นด์ และเคนเน็ธ โซฮอร์ ส่วนตำแหน่งอื่นๆ ไม่มีอะไรต้องกังวลแกนหลักของทีมยังเป็นนักเตะจากซีซั่นที่แล้วอย่าง คีแรน กิ๊บส์, เจค ลิเวอร์มอร์, โรแม็ง ซอว์เยอร์ส, แมตต์ ฟิลิปป์ส, มาเตอัส เปเรยร่า และฮาล ร็อบสัน-คานู ที่จะได้ประสานงานกับริมเส้นตัวใหม่ที่เพิ่งได้มาจากเวสต์แฮมอย่าง กราดี้ เนียงกาน่า
ทางฝั่ง เลสเตอร์ ซิตี้ ที่ยังคุมทีมโดยแบรนดอน ร็อดเจอร์ส เหมือนเดิม แต่ยังไม่มี ริคาร์โด้ เปเรยร่า แบ๊กขวาตัวเก่งที่บาดเจ็บ ส่วนจอนนี่ อีแวนส์ชดใช้กรรมจากใบแดงในซีซั่นที่แล้ว ขณะที่ เวส มอร์แกนก็ยังไม่ฟิต ทำให้ในตำแหน่งเซนเตอร์ต้องถอย วีลเฟร็ด เอ็นดิดี้ ลงมายืนคู่กับ คักลาร์ โซยุนคู ส่วนแบ๊กซ้าย ทิโมธี กาสตานเญ่ ที่เสริมมาจากอตาลันต้า น่าจะได้ยืนตัวจริงทันที ส่วนเจมส์ แมดดิสันรอดูว่าสมบูรณ์หรือไม่ หากลงได้จะคุมแดนกลางร่วมกับ นอมปาลิส เมนดี้ และยูริ ตีเลอมองส์ โดยมีเจมี่ วาร์ดี้ ยืนหอกเป้า
11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามของทั้งสองทีม เวสต์บรอมวิช (4-2-3-1): แซม จอห์นสโตน, ดาร่าโอเชีย, เซมี่ อจายี่, ไคล์ บาร์ทลีย์, คีแรน กิ๊บส์,เจค ลิเวอร์มอร์, โรแม็ง ซอว์เยอร์ส, แมตต์ ฟิลิปป์ส,มาเตอัส เปเรยร่า, กราดี้ เนียงกาน่า และฮาลร็อบสัน-คานู
เลสเตอร์ ซิตี้ (4-5-1) : เคสเปอร์ ชไมเคิ่ล,เจมส์ จัสติน, วินฟรีด เอ็นดิดี้, คักลาร์ โซยุนคู,ทีโมธี กาสตานเญ่, เดมาไรย์ เกรย์, ยูริ ตีเลอมองส์,นอมปาลิส เมนดี้, เจมส์ แมดดิสัน, ฮาร์วีย์ บาร์นส์และเจมี่ วาร์ดี้
สำหรับสถิติผลงานการเจอกันของทั้งสองทีมในทุกรายการเวสต์บรอมวิช เหนือกว่าชนะได้ 51 ครั้ง เสมอ 23 ส่วนเลสเตอร์ ซิตี้ ชนะ36 ครั้ง ส่วนการเจอกันหนล่าสุดต้องย้อนกลับไปในฤดูกาล 2017-18 ในรายการพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดแรกเล่นที่ คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม เสมอกัน1-1 ส่วนนัดสอง เลสเตอร์ บุกถล่มยับ 4-1
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี