พาร์สลีย์ (Parsley) ผักใบเล็ก สีเขียวขอบหยักคล้ายผักชีใบเล็กต้นใบแข็งและเหนียว มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว บ่อยครั้งถูกใช้เพียงเพื่อตกแต่งอาหารเท่านั้น แต่ความเป็นจริงแล้วคุณประโยชน์ของพาร์สลีย์ไม่ใช่แค่ตกแต่งอาหารเพียงอย่างเดียว แต่อุดมด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และสารอาหาร
พาร์สลีย์มีถิ่นกำเนิดอยู่ในทวีปยุโรปและแถบเมดิเตอร์เรเนียน และต่อมาก็ได้แพร่หลายไปยังประเทศต่างๆ ทั้งในเอเชีย ออสเตรเลีย อเมริกา ฯลฯ
พาร์สลีย์มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Petroselinum crispum จัดอยู่ในวงศ์ Umbelliferae เป็นผัก ประเภทสมุนไพร ที่อุดมไปด้วย วิตามินเอ วิตามินบี และวิตามินซี นอกจากนั้น ยังมีแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายอยู่หลายชนิดที่มีมากคือ เหล็ก และแคลเซียม
รับประทานพาร์สลีย์บ่อยๆ จะช่วยรักษาสุขภาพโดยทั่วไป และช่วยบำบัดอาการของโรคโลหิตจาง นอกจากนั้นยังช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหารและไต ในสมัยก่อน ใช้เป็นยาบรรเทาปวดประจำเดือนของสตรีอีกด้วย
ใบสดพาร์สลีย์ เมื่อเอามาบด จะใช้เป็นยาพอก แก้ฟกช้ำ เคล็ดขัดยอก และแมลงกันต่อยได้ อาการ หน้าอกคัดของสตรีมีครรภ์ก็ใช้รักษาได้ดี
สรรพคุณอีกอย่างหนึ่งก็คือ เมื่อเอาใบแช่น้ำไว้ข้ามคืนจะได้น้ำยาโลชั่นที่ใช้ทำความสะอาดผิวเป็นอย่างดี และที่สำคัญมากอีกอย่างหนึ่งก็คือใช้เคี้ยวเป็นยากำจัดกลิ่นปาก หลังอาหารถ้าเคี้ยวใบพาร์สลีย์สักหน่อยก็จะทำให้ลมหายใจสดชื่น
พาร์สลีย์หนึ่งถ้วย มีบีตาแคโรทีน (วิตามินเอ) มากกว่าแครอทหัวใหญ่หนึ่งหัว มีวิตามินซีมากกว่าส้มลูกหนึ่งเกือบสองเท่าและมีแคลเซียมมากกว่านมหนึ่งแก้ว ธาตุเหล็กมากกว่าตับที่มีน้ำหนักเท่ากัน และเป็นผักที่มีวิตามินบี 1 บี 2 และบี 6 สูง วิตามินอีเท่ากับน้ำมันเมล็ดดอกทานตะวัน 1 ช้อนโต๊ะ โปรตีน มากกว่าเต้าหู้ขาว 1 ชิ้น มีเส้นใยมากกว่าข้าวโพด 1 ฝักถึง 15 เท่า ในขณะที่การกินพาสลีย์สดๆ 10 ก้านให้พลังงานเพียงแค่ 4 แคลลอรี่ เท่านั้น
ผิวสวยไร้สิว เพียงแค่นำใบพาร์สลีย์ มาสับให้ละเอียดจากนั้นเกลี่ยลงไปในถาดน้ำแข็งใส่น้ำให้เต็มรอให้เย็นเป็นก้อนห่อด้วยผ้าบางๆ แล้วจับมาประคบเจ้าสิวที่อักเสบ บวม แดง ประมาณ 20 วินาที ทุกเช้า-เย็น เจ้าผักใบจิ๋วนี้สามารถช่วยลดการอักเสบได้อย่างรวดเร็ว สรรพคุณอีกอย่างหนึ่งก็คือ เมื่อเอาใบแช่น้ำไว้ข้ามคืนจะได้น้ำยาโลชั่นที่ใช้ทำความสะอาดผิวเป็นอย่างดี
มีสารต้านมะเร็ง พาร์สลีย์ประกอบด้วยฟลาโวนอยด์หลายชนิด รวมทั้งอาพิเจนิน ลูทีโอลิน ไครโซเออรอล เคมฟีรอลเควอซิติน ไอโซแรห์มเนติน ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของสารต้านอนุมูลอิสระของส่วน ที่เป็นพลาสมาในเลือด มีการทำงานของเอนไซม์ที่ต้านอนุมูลอิสระ (กลูตาไทโอน รีดัคทาสและซูเปอร์ออกไซด์ ดิสมิวเทส) เพิ่มมากขึ้น เป็นเพราะพาร์สลีย์มีผลการปกป้องต่อการทำลายของกระบวนการออกซิเดชั่น
ลมหายใจหอมสดชื่น สารคลอโรฟิลล์ (Chlorophyll) ซึ่งเป็นสารสีเขียวในใบพาร์สลีย์ มีคุณสมบัติต่อต้านเชื้อแบคทีเรียในช่องปากซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของกลิ่นไม่พึงประสงค์ การเคี้ยวใบพาร์สลีย์หลังมื้ออาหารจึงช่วยลดปัญหากลิ่นปากกวนใจได้ นอกจากนี้ พาร์สลีย์ยังมีสารขับปัสสาวะ กระตุ้นการทำงานของไตมีธาตุเหล็กป้องกันโรคโลหิตจาง ช่วยให้ระบบการย่อยอาหารและแก๊สในทางเดินอาหารเป็นไปด้วยดี ทำให้ไม่เกิดอาการอึดอัดลดอาการปวดเสียด แก้โรคหอบหืด ลดอาการไอ
เห็นประโยชน์มากมายเหล่านี้ของพาร์สลีย์แล้ว ต่อไปหลายคนคงจะหันมาเคี้ยวใบพาร์สลีย์ แทนที่จะเขี่ยทิ้งไว้ข้างจานกันเลยทีเดียว
ศรัญญา เหล่าวิทยางค์กูร
ศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมผลิตภัณฑ์สมุนไพร
สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี