ทีมชาติอังกฤษ ผงาดแชมป์โลก รุ่นเยาวชน 17 ปีมาครองได้สำเร็จเมื่อปี 2017 ที่อินเดีย เป็นเจ้าภาพ
นักเตะทีมชุดนั้นมีอนาคตต่างออกไป จาดอน ซานโช่ กำลังจะเป็นนักเตะ 100 ล้านปอนด์คนต่อไป ในขณะที่ ฟิล โฟเด้น ที่ได้โกลเด้นบอล จับจองชุดใหญ่ กำลังยกระดับเป็นแกนหลักของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ส่วน คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย ยังอยู่ในขุมกำลังของ เชลซี
อังเคล โกเมส หลุดจากอะคาเดมี่แมนฯยูไนเต็ด ตอนนี้หลุดไกลไปเป็นตัวยืมที่ เบาวิสต้า, มอร์แกน กิ๊บบ์ส ไวท์ ต้องถูกปล่อยยืมไปอยู่กับ สวอนซี ซิตี้
ส่วนดาราซัลโวประจำทัวร์นาเมนท์ 8 ประตู ตอนนี้กำลังเดินทางสายใหม่ แต่จะสตาร์ทบนเส้นทางสายเดิม
ริอาน บริวสเตอร์ ผู้สังหารแฮททริคในเกมรอบ 8 ทีม กับ สหรัฐอเมริกา และรอบรองชนะเลิศ กับ บราซิล กำลังจะได้กลับมาแอนฟิลด์ อีกครั้ง
ตอนย้ายไปนั้น หลายคนเสียดาย หลายคนบอกว่า สมเหตุสมผล
กับนักเตะที่ปัจจุบันครบบวช ไปเมื่อ 1 เมษายนที่ผ่านมา ไม่เคยสัมผัสเกมในพรีเมียร์ลีก แต่ค่าตัวทะลุไปถึง 23 ล้านปอนด์
บริวสเตอร์ แม้จะเคยเล่นกับ เชลซี และเกิดในย่านแชดเวลล์ ฮีธ ตะวันออกเฉียงเหนือของลอนดอน แต่หลายคนกลับมีความรู้สึกว่า เด็กคนนี้เหมือนกับเป็น”เด็กท้องถิ่น” นับตั้งแต่มาร่วมทีมตอนอายุได้ 15 ปี
ดังตั้งแต่ยังไม่ขึ้นชุดใหญ่
จะบอกว่า “ดังเกินฝีเท้า” หรือไม่นั้น คงจะต้องพิจารณาตามเหตุและผล
ในขณะที่กำลังแรงขึ้นมาเป็นไฟพะเนียง บริวสเตอร์ โชคร้ายอย่างที่สุด เมื่อได้โอกาสขึ้นมาเล่นให้กับทีมชุดยู-23 ของ ลิเวอร์พูล ในเกมเจอกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อ 12 มกราคม 2018 ว่ากันว่า เด็กคนนี้ดีกว่าหลายคนที่มีอยู่ทั้ง พอล เกลเซล หรือ บ็อบบี้ ดันแคน
หลังจากหล่นมาจากกลางอากาศ บริวสเตอร์ ถูกหามออกมาพร้อมกับต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ไม่มีใครเชื่อว่า เขาจะต้องเจ็บหนักพักนานถึง 440 วัน!!!!
การผ่าตัดรักษาเริ่มต้นที่ข้อเท้าทันที จากนั้นในเดือนมีนาคม ต้องผ่าตัดครั้งที่ 2 หนนี้ผ่าที่หัวเข่าที่เสียหายจากการปะทะในครั้งนั้นครั้งเดียว
แม้ว่าซีซั่นนั้น ไอ้หนูบริวสเตอร์ ต้องพักยาวไปถึง 13 เดือน แต่ เยอร์เก้น คลอปป์ และสโมสรลิเวอร์พูล ก็ยังคงมอบสัญญานักเตะอาชีพฉบับแรก เป็นสัญญาระยะยาว 5 ปี เพราะเชื่อมั่นว่าเขาจะแจ้งเกิดได้อย่างแน่นอน หลังจากลงเล่นชุดสำรอง 15 นัด ยิงไว้ถึง 6 ประตู พร้อมกับ แอสซิสต์ อีก 7 ครั้ง
ด้วยวัย 18 ปี เขาปฎิเสธการย้ายไปค้าแข้งกับ “สิงห์หนุ่ม” โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค
“สิ่งที่ผมเจอ มันเหมือนอยู่ดี ๆ ก็มีรถพุ่งเข้าชนอย่างแรง แต่การบาดเจ็บช่วยผมได้มากกับประสบการณ์ที่ผมได้รับ มันทำให้ผมโตขึ้นและแกร่งขึ้น”
ไอ้หนูถูกใส่ชื่ออยู่ในทีม และคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก กับสโมสร ในค่ำคืนสุดวิเศษที่มาดริด เชื่อว่าทุกคนคงจำภาพที่ เด็กหนุ่มคล้องเหรียญชนะเลิศไปทั่ว แม้กระทั่งไปตัดผม ก็ยังคล้องเหรียญไปด้วย
แต่ในที่สุด 1 ปีต่อมา เขาไม่ได้ขึ้นชุดใหญ่อย่างที่คิด และต้องย้ายไปแบบตัวยืมร่วมทัพ “หงส์ขาว” สวอนซี ซิตี้ แทนที่จะได้ยืนเป็นกำลังสำคัญให้กับ “หงส์แดง” อย่างที่คาดหวัง
ยิงไป 11 ประตู จาก 27 นัด กับ สวอนซี ถือว่าดูตื่นเต้นใช้ได้
สุดท้ายหลังจากพลาดจุดโทษในศึกคอมมิวนิตี้ชิลด์ ทั้งที่เขานี่แหล่ะคือ”มือสังหารจุดโทษ”มาแต่ไหนแต่ไร ดูเหมือนว่า โอกาสในการเล่นที่แอนฟิลด์กำลังจะน้อยลงเรื่อย ๆ
ไม่ใช่จากตัวเขาทั้งหมดหรอก แต่มันมาจากระบบการเล่นที่ดูเหมือนว่า คล็อปป์ จะไม่ใช้กองหน้าแนวปักหอกรอกระทุ้ง แต่ชอบในสไตล์ถอยต่ำ ลงมาหาพื้นที่ หรือบางทีก็เป็นแบบ “ฟอลส์ไนน์” กันไปเลย
กองหน้าในสไตล์ “ทาร์เก็ตแมน” จึงไม่อยู่ใน”ระบบ” และ ”สารบบ”ของ คล็อปป์
เมื่อ “สารบัญ” ฉบับนี้ไม่ได้ถูกบันทึกเอาไว้ และเมื่อนักเตะต้องการลงสนาม คล็อปป์ ถึงกับบอกว่า เรายินดีที่จะเก็บรักษานักเตะเอาไว้ แม้มันจะไม่ถูกต้องนักหรอกที่คุณจะกักเขาเอาไว้ แล้วไม่ได้เล่น แต่ในทางกลับกันเราก็ไม่ยินดีหรอกที่จะเห็นบางคนไม่พอใจ เนื่องจากเขาอยากจะลงสนาม
“เรื่องนี้ต้องคุยกัน!!!!!!”
ให้หลังอีกไม่ถึง 48 ชั่วโมงจากคำพูดนี้ ก็มีข่าวว่า บริวสเตอร์ จะย้ายทีม และสุดท้าย 2 ตุลาคมที่ผ่านมา ก็ได้ย้ายไป เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัวระดับสถิติสโมสร
23.5 ล้านปอนด์จากเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด คือ ลิเวอร์พูล รับทันที พร้อมเงื่อนไขพิเศษในการซื้อตัวกลับได้ในราคาที่ตกลงกันไว้ภายในระยะเวลา 3 ปี ถ้าหาก บริวสเตอร์ ย้ายทีมในอนาคตจะได้รับส่วนแบ่งอีก 15% ด้วยกัน
หลายคนบอกว่า “ได้ย้ายสมใจ” แต่ไม่รู้ว่า “ในใจของเขา” คิดอย่างไรกับการไปครั้งนี้
บริวสเตอร์ อาจจะได้เล่นไปแล้วกับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด แต่ก็เป็นแค่สำรอง และมันคลาสสิกอย่างมากเมื่อ คริส ไวลเดอร์ กุนซือดาบคู่สู้สิบทิศ ยืนยันผ่าน “ยอร์คเชอร์ นิวส์” สื่อท้องถิ่นว่า เขาจะให้ บริวสเตอร์ เล่นตัวจริงในสุดสัปดาห์นี้
ใช่!!!! สุดสัปดาห์นี้คือ เกมที่ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด จะยกพลบุกถิ่นแอนฟิลด์
ไม่รู้เหมือนกันว่า นี่เป็นความบังเอิญแบบพอดี ที่โลกฟุตบอลหมุนมาให้เป็นแบบนี้
จากการเดินทางของชีวิต เริ่มเรียนปฐมที่แชดเวลล์ ฮีธ ก่อนจะเข้าสู่อะคาเดมี่ ที่ “The Shield” และมาอยู่กับ เชลซี ด้วยวัย 8 ขวบ ก่อนจะขึ้นเหนือมายัง ลิเวอร์พูล
ได้แชมป์เยาวชนโลก, เป็นดาวซัลโว และได้สัญญาอาชีพ....
ไม่บอกก็ต้องรู้ว่า เบื้องลึกของ บริวสเตอร์ ต้องการลงเล่นตัวจริงนัดแรกของพรีเมียร์ลีกในชีวิต กับ ลิเวอร์พูล ที่แอนฟิลด์ ในฐานะ”นักเตะหงส์” หาใช่นักเตะทีมอื่น
นั่นแหล่ะครับชีวิตมันออกแบบไม่ได้ บางทีก็ไม่ได้เลือก ไม่รู้ใครเลือกมาให้ แต่ที่แน่ ๆ
ชีวิตมันต้องดำเนินต่อไป
เสาร์นี้ตี 2 มาดูกันจากหมายเลข 24 ของลิเวอร์พูล สู่การประเดิม”ตัวจริง”นัดแรกในพรีเมียร์ลีก ในหมายเลข 24 ของเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ที่แอนฟิลด์
ริอาน บริวสเตอร์.........จะมายังไง และไหวหรือเปล่า กับความฝันที่แอนฟิลด์
ที่มันมาถึง....แต่ผิดฝั่งไปซะฉิบ!!!!!
#บีแหลมสิงห์
คุณรู้ใช่มั๊ย : ริอาน บริวสเตอร์ ชอบเล่นบอลกับ เอียน บริวสเตอร์ พ่อของเขาตั้งแต่ 3 ขวบ โดยให้พ่อของเขาเป็นประตู.....คุณพ่อเป็นชาวบาร์บาโดส ส่วนคุณแม่เป็นลูกครึ่งตุรกี-ไซปรัส
ก่อนหน้านี้มีอดีตดาวซัลโวบอลโลก ยู-17 มาอยู่กับ ลิเวอร์พูล 1 คนนั่นคือ ฟลอรองต์ ซินาม่า-ปงโกลล์ ซึ่งก็แจ้งเกิดไม่ได้ในทีมชุดใหญ่เหมือนกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี